ธุรกิจโลจิสติกส์ คือธุรกิจใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการ เคลื่อนย้ายสิ่งของ วัตถุดิบ เครื่องมือ หรือผลิตภัณฑ์ จากต้นทางไปสู่ปลายทางด้วยรถ เครื่องจักร หรือยานพาหนะต่าง ๆ โดยที่มีส่วนร่วมมากกว่าการขนส่งสินค้า (Transportation) ซึ่งนี่คือความต่างระหว่างธุรกิจโลจิสติกส์และธุรกิจขนส่งทั่วไป
ในปัจจุบันธุรกิจโลจิสติกส์เติบโตขึ้นอย่างมาก บทความคาร์แทรคตอนนี้จะมาเล่าถึง 5 ประเภทของโลจิสติกส์ที่ได้พบเจอมากที่สุดในทุกวันนี้ ในแบบเข้าใจง่ายที่สุด และยังเป็นธุรกิจที่ควรติดตั้ง GPS ติดรถ และใช้ระบบจัดการยานพาหนะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานด้วย
GPS ติดรถ หรือระบบ GPS Tracking เป็นระบบที่นำมาใช้ในการติดตามตำแหน่งรถ รวมถึงเก็บข้อมูลการใช้รถด้านต่าง ๆ เช่น ความเร็วที่ใช้ ช่วงเวลาที่จอดแช่นิ่ง หรือสตาร์ทรถโดยไม่มีการเคลื่อนที่ ไปจนถึงจำนวนครั้งที่มีการเบรกกะทันหัน
อุปกรณ์ GPS ติดตามรถจะมีลักษณะเป็นกล่องขนาดเล็ก ใช้ติดตั้งไว้ที่ตัวรถหรือเครื่องจักร โดยเครื่องจะรับสัญญาณจากดาวเทียม และบันทึกข้อมูลแบบเรียลไทม์เข้าระบบจัดการยานพาหนะ หรือ Fleet Management ซึ่งผู้ใช้งานจะสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ใกล้ตัวรถก็ตาม
ปัจจุบันนี้กลุ่มธุรกิจที่มีการใช้รถจะนิยมติดตั้งเครื่องจีพีเอสติดรถเหล่านี้ ไม่ว่าจะใช้เป็น GPS ติดรถยนต์ รถแท็กซี่ รถเช่า หรือ GPS ติดรถบรรทุก ก็สามารถใช้ได้ทั้งหมด
เพราะข้อมูลการใช้รถที่ GPS สามารถเก็บได้นั้น ทางธุรกิจสามารถนำไปใช้วิเคราะห์ วางแผน ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ด้านค่าใช้จ่าย ลดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็น อบรมการขับขี่พนักงาน หรือเพื่อขยายจำนวนรถที่ใช้งานในธุรกิจได้จริง
ยกตัวอย่างเช่น คุณสามารถตรวจสอบได้ว่า พนักงานคนไหนขับเร็วเกินกำหนดจนเป็นเหตุให้ต้องเสียค่าปรับเป็นประจำ หรือพนักงานคนไหนมีพฤติกรรมเสี่ยงทุจริต เติมน้ำมันตามปกติ ใช้เส้นทางวิ่งรถเส้นทางเดิม แต่น้ำมันกลับหมดไวขึ้น ข้อมูลนี้ก็สามารถติดตามได้เช่นกัน ด้วยการติดตั้งเซนเซอร์น้ำมันเพิ่มเติม
หรือแม้แต่ธุรกิจที่ใช้รถบรรทุกใหญ่ที่มีขนาด 10 ล้อขึ้นไป หรือรถบรรทุกประเภทที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดให้ติด GPS ติดรถ เพื่อส่งข้อมูลจากเครื่องรูดใบขับขี่เข้ากรมขนส่งฯ อัตโนมัติ
สำหรับประเภทของธุรกิจโลจิสติกส์ที่ดำเนินการโดยใช้ยานพาหนะเป็นหลัก และควรติดตั้งระบบ GPS เพื่อติดตามและเก็บข้อมูลการใช้รถ มีดังนี้
Inbound Logistics คือ โลจิสติกส์ระหว่างผู้ผลิตกับบริษัท
ตัวอย่างเช่น สำหรับบริษัทชิ้นส่วนรถยนต์ โลจิสติกส์ภายในทำหน้าที่เคลื่อนย้าย ขนส่ง และเก็บเข้าที่พวกชิ้นส่วนตั้งต้นหรืออุปกรณ์เพื่อประกอบเป็นชิ้นส่วน ให้กับผู้ผลิตชิ้นส่วน เพื่อให้งานประกอบชิ้นส่วนรถยนต์เสร็จสมบูรณ์และถึงมือบริษัทชิ้นส่วนรถยนต์
Outbound Logistics คือ โลจิสติกส์ระหว่างผู้ผลิต บริษัทขนส่ง และผู้รับปลายทางแบบ End User
โดย Outbound Logistics จะทำหน้าที่เคลื่อนย้าย ขนส่ง และเก็บเข้าที่พวกวัตถุดิบตั้งต้นให้บริษัทผู้ผลิต แล้วเมื่อผู้ผลิตผลิตเสร็จ ก็จะดำเนินการส่งถึงผู้รับปลายทางที่เป็น End User
Outbound Logistics จะต่างจาก Inbound Logistics ตรงที่จะเพิ่มบริการส่งถึงผู้ใช้งานสุดท้ายของระบบเลย ไม่ได้ส่งไปที่บริษัทแล้วจบ
Reverse Logistics คือ การขนส่งวัตถุดิบหรือสินค้าใด ๆ จากผู้ใช้งานสุดท้าย (End user) กลับมาที่บริษัทต้นทางหรือผู้ผลิตเลย
โดย Reverse logistics จะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนคืนสินค้าเพื่อเปลี่ยนชิ้นใหม่และนำชิ้นเก่ากลับมาทำลายทิ้งหรือรีไซเคิล
ส่วนมากธุรกิจที่ใช้บริการ Reverse Logistics เป็นกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์
Third-Party Logistics หรือ 3PL คือ ธุรกิจโลจิสติกส์ หรือ Outsource ที่ให้บริการโลจิสติกส์ ที่ดูแลตั้งแต่
ข้อดีของ โลจิสติกส์แบบ 3PL คือ เจ้าของธุรกิจหรือสินค้าสามารถโฟกัสแค่การผลิตสินค้า การตลาด และการขาย และให้บริษัท 3PL เป็นผู้ดูแลการขนส่งและสต๊อกสินค้าแทน
Fourth-party logistics หรือ 4PL เป็นธุรกิจโลจิสติกส์ที่ให้บริการทุกอย่างแบบ 3PL แต่เพิ่มเติมคือ ยกระดับโดยมีการประเมินการทำงาน ออกแบบพัฒนา จัดทำ และติดตาม Supply Chain ทั้งหมดของธุรกิจนั้น ๆ ให้เกิดประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุด
รวมถึง 4PL จะส่งออกหรือ Outsource งาน Logistics ให้กับบริษัทโลจิสติกส์รายย่อยด้วย ต่างจาก 3PL ที่ทำงานด้วยตัวบริษัทเอง
ทั้งนี้ การที่ 3PL จะพัฒนาไปสู่ 4PL จะต้องสร้างเครือข่ายหาพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างแข็งแกร่งจริง ๆ
หากธุรกิจของคุณเป็นหนึ่งในรูปแบบของธุรกิจโลจิสติกส์ที่ CARTRACK (คาร์แทรค) ได้กล่าวถึงข้างต้นนี้และยังไม่ได้ติดตั้ง GPS ติดรถ ก็ขอแนะนำให้รีบตัดสินใจติดจะดีกว่า
เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานแล้ว ยังช่วยให้การจัดการรถนั้นง่ายขึ้น ช่วยลดขั้นตอนการรวมข้อมูลต่าง ๆ และยังช่วยติดตามการทุจริตน้ำมัน ค่าปรับที่ไม่จำเป็น ที่อาจจะหลุดรอดสายตาคุณไปได้อีกด้วย
CARTRACK เพื่อนคู่หูของธุรกิจโลจิสติกส์และธุรกิจที่อยากทำระบบโลจิสติกส์ของตัวเอง ด้วยระบบ Fleet Management และระบบ Delivery
ระบบ Fleet Management ทำอะไรได้บ้าง
ระบบ Delivery ทำอะไรได้บ้าง
ขอทราบข้อมูลระบบ Fleet Management และระบบ GPS ติดรถบรรทุก CARTRACK สามารถโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ได้โดยตรงที่ 02-136-2920 , 02-136-2921 ได้ในช่วงวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30 - 17.30 น. หรือกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มด้านบน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้เรายังมีบริการติดตั้งเซนเซอร์น้ำมัน หรือกล้องติดรถบรรทุก กล้องติดรถระบบ AI เพื่อใช้งานร่วมกับกล่อง GPS ติดรถได้อีกด้วย ได้ทั้งราคาคุ้มค่า และเป็น GPS กรมการขนส่งทางบกให้การรับรอง ให้ CARTRACK ช่วยดูแลรถในธุรกิจให้คุณ
สำหรับลูกค้าคนสำคัญเช่นคุณ! ติดตั้งวันนี้ ฟรีค่าติดตั้งและค่าอุปกรณ์ GPS จ่ายเพียงค่าบริการ พร้อมโปรโมชันพิเศษ รับเลยทันที โปรโมชันติดตั้ง GPS ติดรถยนต์ รถตู้ รถกระบะ GPS รถบรรทุก จ่าย 10 เดือน ใช้ต่อเนื่อง 12 เดือน* (* เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)
ติดตาม CARTRACK (คาร์แทรค) เพิ่มเติมได้ที่
Facebook: Cartrack Thailand
Instagram: @cartrack.thailand
LINE: https://page.line.me/udi4517q?openQrModal=true หรือเข้าแอปฯ LINE เลือกเพิ่มเพื่อน เลือกค้นหา พิมพ์ @udi4517q ที่ ID และแอดเพื่อคุยสอบถามข้อมูลได้ทันที
ธุรกิจโลจิสติกส์ ไม่ใช่เพียงบริษัทรับส่งสินค้าเท่านั้น แต่ยังมีบริการอื่นๆ อีก ทั้งแบบ 3PL และ 4PL มาดูกันว่าธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ใดบ้างที่ควรมี GPS ติดรถ