ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารถยนต์เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของมนุษย์ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง การขนส่งสิ่งของต่าง ๆ จากสถานที่หนึ่งไปสู่จุดหมายปลายทางได้อย่างรวดเร็ว และประหยัดเวลามากขึ้นในการติดต่อธุรกิจประสานงาน นอกจากนี้รถยนต์ยังมีความสำคัญต่อทุก ๆ อาชีพ และนับวันยิ่งเพิ่มความสำคัญมากขึ้น แม้แต่ในถิ่นทุรกันดาร ชนบท ก็ยังมีความจำเป็นที่จะต้องใช้รถยนต์ในดำเนินชีวิตและการประกอบอาชีพ รถยนต์จึงเปรียบเสมือนอีกหนึ่งปัจจัยจำเป็นในการดำรงชีวิตของมนุษย์ยุคปัจจุบัน
เมื่อซื้อรถยนต์มาแล้วเราก็มักจะดูแลเอาใจใส่รถยนต์ของตนเองเป็นอย่างดี ทั้งขัดถูให้สีดูเงางามอยู่เสมอ อีกทั้งของประดับรถยนต์ต่าง ๆ ที่มักจะนำมาติดตั้งเพื่อความสวยงามตามแต่ใจของเจ้าของ แต่ไม่ว่าจะรักรถขนาดไหนบางครั้งก็อาจจะไม่สามารถป้องกันจากอุบัติเหตุ หรือการสูญเสียรถยนต์คันโปรดให้กับขโมยที่จ้องจะเอารถยนต์คันงามของคุณไปได้
แต่ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาจึงทำให้เกิด GPS ติดตามรถยนต์ หรือที่เรียกกันว่า GPS Tracking ซึ่งเหมาะสำหรับติดตั้งในรถยนต์ส่วนบุคคล เพื่อป้องกันจากการถูกโจรกรรม หรือติดตั้งไว้เพื่อติดตามป้องกันรถยนต์สูญหาย GPS ติดตามรถยนต์เกิดขึ้นจากการนำ GPS มาประยุกต์ใช้กับรถยนต์
หลังจากที่เรามีอุปกรณ์รับ-ส่งสัญญาณจากดาวเทียม GPS ก็ได้มีการนำมาประยุกต์ใช้เพิ่มเติมสร้างฮาร์ดแวร์ (Hardware) และซอร์ฟแวร์ (Software) ทำงานร่วมกับระบบ GPS จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ GPS แต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกันออกไปในเรื่องของความเสถียรและความแม่นยำ GPS ที่ใช้อยู่ในท้องตลาดปัจจุบันจะมีอยู่ 2 ประเภท คือ GPS Navigator (อุปกรณ์และระบบนำทาง) และ GPS Tracking System (อุปกรณ์และระบบติดตามรถยนต์ ยานพาหนะหรือสัตว์เลี้ยง)
อุปกรณ์และระบบติดตามรถยนต์ ยานพาหนะหรือสัตว์เลี้ยง คืออุปกรณ์รับข้อมูลตำแหน่งจากดาวเทียมโดยอ้างอิงจากดาวเทียมที่มีความแม่นยำสูงมากกว่า 3 ดวงขึ้นไปช่วยบอกพิกัดเป็นตัวเลขที่สามารถระบุได้ว่า GPS ติดตามรถยนต์ตัวนั้น ๆ อยู่จุดใดของโลก
GPS ติดตามรถยนต์ สามารถแสดงข้องมูลการเคลื่อนไหวของรถยนต์ GPS Tracking System มีทั้งแบบใช้เซิร์ฟเวอร์ (Server) เสียค่าบริการรายเดือน แบบซิมการ์ด (SIM Card) เพื่อทำงานร่วมกับสัญญาณโทรศัพท์หรือเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต (Internet)
ซึ่งมีระบบการทำงาน 2 แบบเช่นกัน
GPS Tracking แสดงตำแหน่งเรียลไทม์ (Real Time) – ทำงานโดยแจ้งตำแหน่งผ่านแอพพลิเคชั่น (Application) หรือเว็บไซต์ของผู้ให้บริการ ซึ่ง GPS Tracking แบบเรียลไทม์ (Real Time) จะมีราคาสูงถึงหลักหมื่นบาท รวมถึงต้องเสียค่าใช้จ่ายรายเดือนให้กับผู้ให้บริการเซิร์ฟเวอร์ (Server) ด้วย ส่วนมากจึงใช้ติดรถยนต์เชิงพาณิชย์ รถที่ใช้ตามองค์กรต่าง ๆ หรือรถยนต์ราคาแพง เพราะมีฟีเจอร์ (Feature) อื่น ๆให้เลือกใช้งานเพิ่มเติม
GPS Tracking แสดงตำแหน่งไม่เรียลไทม์หรือกึ่งเรียลไทม์ – ทำงานโดยแจ้งตำแหน่งผ่าน SMS จะมีราคาถูกกว่าอาจจะอยู่ที่หลักพันบาท รวมถึงไม่มีค่าบริการรายเดือน จึงนิยมติดตั้งในรถยนต์ หรือรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป เพราะเพียงพอต่อความต้องการ เช่น แจ้งตำแหน่งในกรณีรถยนต์สูญหาย เป็นต้น
เมื่อผู้ใช้ต้องการที่จะทราบตำแหน่งของรถแค่ส่งข้อความ SMS ผ่านมือถือเพื่อให้ GPS Tracking แจ้งพิกัดกลับมา ซึ่งผู้ใช้จะมีค่าบริการในการส่งข้อความ SMS ตามการใช้งานจริงที่เกิดขึ้น ส่วนของการเลือกซิมการ์ด (SIM Card) ก็แล้วแต่ผู้ใช้จะเลือกเป็นแบบเติมเงินหรือรายเดือนตามที่สะดวก แต่ถ้าเลือกแบบเติมเงินก็จะต้องคำนึงว่าเมื่อไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ GPS Tracking ก็ไร้ประโยชน์เพราะไม่สามารบอกพิกัดตำแหน่งได้
GPS ติดตามรถ แบบติดตั้งเอง ส่วนใหญ่การติดตั้งจะถูกซ่อนไว้ตามจุดต่าง ๆ ของรถและเป็นชนิดที่มีแบตเตอรี่สำรองในตัวนาน ๆ หรือมีการต่อสายไฟในรถ รวมไปถึงการเสียบในช่องไฟ 12 V (โวลต์) ซึ่งแบบติดตั้งเองจะมีราคาถูก
GPS ติดตามรถ แบบติดตั้งเข้ากับระบบของรถยนต์ ราคาของการติดตั้งเข้ากับระบบของรถยนต์จะมีราคาแพงกว่าแบบติดตั้งเอง ซึ่งผู้ใช้จะได้รับการบริการจากทางร้านใช้ไฟต่อตรงกับแบตเตอรี่รถยนต์ ทำให้มีฟังก์ชั่นให้เลือกมากกว่าแบบติดตั้งเอง เช่น การตั้งขอบเขตที่รถยนต์สามารถวิ่งได้ หรือสั่งตัดการทำงานของเครื่องยนต์ เป็นต้น
อุปกรณ์ GPS Tracking ใช้งานค่อนข้างง่าย เพียงแค่คุณมีซิมการ์ด (SIM Card) ที่สามารถรับสัญญาณโทรศัพท์ได้ คุณก็จะสามารถติดตามรถยนต์ผ่านโทรศัพท์มือถือ iPhone ระบบปฏิบัติการณ์ Android และระบบ Win8 ได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่คุณโทรเข้าไปในหมายเลขในซิมเครื่องก็จะส่งบอกพิกัดของรถยนต์ให้เจ้าของรู้ตลอดเวลา ว่ารถยนต์ของคุณอยู่ในตำแหน่งใดได้ตลอด 24 ชั่วโมง
อีกทั้ง GPS ติดตามรถยนต์บางรุ่นสามารถดูเส้นทางย้อนหลังได้ และสามารถกำหนดพื้นที่ในการวิ่งให้อยู่ในเขตพื้นที่ที่กำหนดไว้อีกด้วย แต่หากคุณต้องการติดตามแบบ Real Time และต้องการให้เครื่องรับสัญญาณ GPS ทำหน้าที่สั่งดับเครื่องยนต์ ก็สามารถทำได้เช่นกัน
การเลือกใช้ GPS ติดตามรถยนต์มีปัจจัยในการตัดสินหลายอย่างด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น ขนาด ราคา การบริการ และฟังก์ชั่นการใช้งาน ที่จะทำให้คุณทำงาน หรือธุรกิจ ได้อย่างราบรื่น อีกทั้งยังต้องทำเพื่อให้ถูกต้องตามกฏหมายของกรมขนส่งที่ประกาศให้มีการติดตั้ง GPS อีกด้วย
ซึ่งในท้องตลาดมีอุปกรณ์ GPS ติดตามรถยนต์ให้เลือกอยู่มากมายทีเดียว ทั้งนี้ผู้ใช้อาจจะต้องพบกับราคาที่แพงในระดับหนึ่ง และหากเลือกไม่ดีอาจจะเจอกับของปลอม ที่จะทำให้คุณเสียทั้งเงิน ทั้งเวลา ซ้ำยังไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้เต็มประสิทธิภาพอีกด้วย ข้อมูลต่อไปนี้จึงเป็นข้อมูลเบื้องต้นเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อ GPS ติดตามรถยนต์
ในการเลือกซื้อนั้นส่วนมากรูปร่างของเจ้าตัวอุปกรณ์ GPS Tracking จะมีลักษณะคล้าย ๆ กันหมด แต่จะควรจะเลือกอย่างไร?
พิจารณาจากบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ – บริษัทจะต้องให้ข้อมูล สามารถอธิบายข้อสงสัยของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดีเนื่องจาก GPS Tracking เน้นเรื่องบริการหลังการขาย เมื่อคุณติดตั้งอุปกรณ์ GPS แล้วจะต้องมีการดูแลรักษาในระยะยาว และการบริการที่น่าประทับ และติดต่อได้ตลอดเวลาเมื่อประสบปัญหา
พิจารณาจากคุณภาพของอุปกรณ์ ประเทศที่ผลิต – แน่นอนว่าผลิตภัณฑ์ที่ถูกผลิตจากประเทศจีนนั้นเราย่อมรู้กันเป็นอย่างดีถึงคุณภาพของมัน แต่ในสมัยนี้ฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดก็คือจีนนั้นเอง ไม่เเปลกหากคุณพบว่า กล่องจีพีเอสของคุณไม่ว่าจะซื้อมาจากไหนทำไมถึง made in China แทบทั้งสิ้น
แต่อย่าเพิ่งกังวลไป ยังมีอุปกรณ์ GPS ที่ถูกผลิตขึ้นและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องอยู่มากมาย ยกตัวอย่างเช่น GPS ของ คาร์แทรค ที่ผลิตขึ้นเองจากประเทศแอฟริกาใต้ และมีการพัฒนาโดยทีมวิจัยของตัวเอง รวมไปถึงโปรแกรมที่ใช้ ก็มีการพัฒนาเพื่อการใช้งานของลูกค้า ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
พิจารณาจากสเปคเครื่อง – สำคัญสุดในการเลือกซื้อ GPS ที่ผู้ใช้จะต้องดู คือจะต้องเจาะจงที่สเปคภายใน เพราะ GPS จะทำงานก็ต้องอาศัยการส่งสัญญาณเช่นกัน อย่างที่เรารู้กันนั้น นั่นคือระบบ GPRS , 2G , 3G หรือ 4G เป็นต้น ยิ่งความเร็วมากเท่าไหร่ นั้นหมายถึง การรับส่งสัญญาณจะเร็วขึ้น ทำให้การติดตามแบบ Real Time มีประสิทธิภาพและแม่นยำมากยิ่งขึ้น
พิจารณาจากราคา – ในการเลือกอุปกรณ์ GPS Tracking ของดีไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงเสมอไปสำหรับราคาของ GPS Tracking เพราะในปัจจุบัน ผู้ให้บริการส่วนใหญ่ มักมีระบบการชำระเงินที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อลูกค้าและผู้ใช้งาน ทั้งเป็นการเช่ารายเดือน หกเดือน หรือรายปี เป็นต้น แต่ก็ยังมีแบบที่ซื้ออุปกรณ์ไปเลยก็มีเช่นกัน แต่ค่าใช้จ่ายก็จะมากเช่นกัน ดังนั้นขึ้นอยู่กับสภาพคล่องและความสะดวกของแต่คน
ซึ่ง GPS แบบพกพาหรืออุปกรณ์ที่มีราคาถูก เราสามารถหาได้ตามอินเตอร์เน็ตทั่วไป แต่คุณภาพการใช้งาน วัสดุ เทคโนโลยี และการติดตามส่งสัญญาณ อาจเป็นไปตามราคาของมันเช่นกัน
การทดลองใช้ เพื่อทดสอบระบบ – ผู้ให้บริการส่วนใหญ่มักมีระบบการทดลองใช้อยู่หลายที่ คุณสามารถติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่หรือพนักงานของบริษัทนั้นๆ เพื่อขอทำการทดลองใช้งาน
หากคุณยังตัดสินใจไม่ได้ ว่าจะเลือกแบบไหน หรือยี่ห้อไหนดี ให้คุณพิจารณาจากความต้องการของคุณก่อนว่า คุณต้องการ GPS ใช้งานเพื่ออะไร และฟังก์ชั่นที่คุณต้องการ มีอะไรบ้าง
หลังจากนั้นคุณสามารถเลือกผู้ให้บริการที่มีฟังก์ชั่นหรือระบบตามความต้องการของคุณได้ เช่น ระบบการตรวจสอบหรือวัดระดับน้ำมัน , การติดตามแบบ Real Time , การย้อนดูการเดินทางย้อนหลัง , การแจ้งเตือนเมื่อใช้ความเร็วเกินกำหนดเป็นต้น
เมื่อคุณทราบถึงความต้องการแล้ว ก็ไม่ยากในการเลือกใช้งาน GPS ติดตามรถยนต์ ตามแบบที่คุณต้องการได้
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่รถบรรทุกทุกคันจำเป็นต้องติด GPS ติดตาม หรือ GPS Tracking เพราะเนื่องจากกฏหมายจากกรมขนส่งที่ออกกฏบังคับใช้ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2559 นั้น ให้รถบรรทุก 6-10 ล้อ ขึ้นไป ต้องติดตั้ง GPS ที่ได้รับการรับรองจากกรมขนส่งทางบกเท่านั้น ที่สามารถตรวจสอบการเดินทาง ตรวจสอบการใช้งานรถย้อนหลัง และแสดงตัวตนผู้ขับขี่ได้
นอกจากนั้นประโยชน์ของการติด GPS ติดรถบรรทุก นั้น ยังสามารถเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานได้หลากหลาย เช่น การตรวจวัดอุณภูมิ , การจำกัดความเร็ว , การตรวจวัดระดับน้ำมัน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับ ธุรกิจตั้งแต่เล็กไปจนธุรกิจขนส่งที่มีขนาดใหญ่ ทำให้คุณควบคุมทุกอย่างได้ เพียงการมอนิเตอร์ผ่านโปรแกรม ก็สามารถติดตามงานของรถบรรทุกทุกคันได้แล้ว ทั้งในแอพฯ บนมือถือ หรือทางคอมพิวเตอร์ก็ทำได้เช่นกัน
ระบบจะต้องทำการแจ้งเตือนในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ดังนี้ เมื่อรถมีความเร็วเกินกำหนด รถถูกตัดสายไฟหรือถูกตัดสายสัญญาณ คนขับรถไม่รูดบัตรใบขับขี่ รถมุ่งไปยังพื้นที่อันตรายสุ่มเสี่ยง เช่น ชายแดน/จุด POI เป็นต้น และรถออกนอกเส้นทางที่กำหนด นอกจากนี้การตรวจเช็คสถานะต่าง ๆ ก็สำคัญไม่ว่าจะเป็นสถานะของเครื่องยนต์การ ติด/ดับ ของเครื่อง สถานะแบตเตอรี่ เชื่อมต่อ/ถูกตัดออก ความเร็วของรถ ณ เวลาปัจจุบัน
ตำแหน่งของรถที่ต้องตรวจสอบได้ตลอด 24 ชั่วโมงหรือทุกสถานะของรถที่สามารถเลือกเฉพาะช่วงเวลาที่ต้องการ ระยะทางการใช้งานในแต่ละวัน และสุดท้ายข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่ 6-12 เดือน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ GPS Tracking ติดตามรถบรรทุกจะต้องสามารถแจ้งเตือนและตรวจเช็คอยู่เสมอ
จึงทำให้เห็นว่าการที่กรมการขนส่งทางบกมีข้อกฎหมายบังคับใช้ให้รถบรรทุกทุกคันติด GPS Trackingส่งผลดีต่อการควบคุมการจราจรและช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน รวมไปถึงช่วยผู้ประกอบการในการลดต้นทุนการเดินรถของบริษัท และต้นทุนทางโลจิสติกส์ นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบการปฏิบัติงานของพนักงานพร้อมทั้งสถานะของรถบรรทุกที่ถูกนำไปใช้งานในแต่ละครั้ง เพื่อป้องกันการทุจริตต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นตามมา
นอกเหนือจากรถยนต์และรถบรรทุกที่มีการติดตั้งอุปกรณ์ GPS ติดตามรถแล้ว รถมอเตอร์ไซค์ก็เป็นอีกหนึ่งยานพาหนะที่มีการติดตั้งอุปกรณ์ GPS Trackingเข้ากับตัวรถ เนื่องจากในสภาวะปัจจุบันที่การจราจรบนท้องถนนเมืองกรุงที่เต็มไปด้วยรถยนต์ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่จำนวนมหาศาล ทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดในช่วงเวลาเร่งด่วนของทุก ๆ วัน วิถีการคมนาคมของผู้ใช้รถใช้ถนนจึงต้องมีหลากหลายกันออกไป ทางเลือกหนึ่งที่ถูกใช้เมื่อยามที่ต้องการความเร่งรีบในชีวิตนั่นก็คือ รถมอเตอร์ไซค์
ตอนนี้การใช้รถมอเตอร์ไซค์ไม่ได้อยู่ในรูปแบบของการรับ-ส่งผู้โดยสาร หรือที่เรียกกันว่า “วินมอเตอร์ไซค์” เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป ปัจจุบันมีการนำรถมอเตอร์มาทำอยู่ในรูปแบบของการขนส่งสิ่งของ พัสดุต่าง ๆ รวมไปถึงการนำมาทำในรูปแบบของการขนส่งอาหาร ซึ่งเมื่อก่อนจะมีเฉพาะร้านอาหารที่ทำเป็นระบบ Delivery เท่านั้น แต่ปัจจุบันสามารถส่งอาหารได้ทุกชนิด ทุกประเภทและยังสามารถเลือกช่วงเวลาในการจัดส่งได้ตามที่ต้องการ
รถมอเตอร์ไซค์จึงถูกนำมาใช้ในการช่วยลดระยะเวลา ทำให้ชีวิตคนกรุงที่มีความเร่งรีบสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้กันในรูปแบบของเชิงธุรกิจพาณิชย์แล้ว ด้วยสภาพการจราจรที่ติดขัด บางบ้านหรือบางครอบครัวก็เลือกที่จะซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไว้สักคันที่บ้านเพื่อไว้ใช้ในยามที่ต้องออกไปข้างนอกแบบเร่งด่วนหรือกลัวว่าจะไม่ทันนัดหมาย และด้วยราคาที่ไม่ได้แพงมากนักทุกคนจึงสามารถมีไว้ครอบครองได้ แต่ก็ยังไม่พ้นที่จะมีคนขโมยรถมอเตอร์ไซค์นำไปขายในตลาดมือสอง หรือส่งออกไปยังประเทศเพื่อบ้าน เพราะด้วยรถที่มีขนาดเล็กสามารถยกไปได้ง่ายรถมอเตอร์ไซค์จึงเป็นยานพาหนะที่ถูกโจรกรรมมากที่สุดในปัจจุบัน ดังนั้นด้วยเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนามาจึงทำให้เกิด GPS Tracker ติดตามรถมอเตอร์ไซค์เพื่อช่วยป้องกันรถหาย
การติดตั้งอุปกรณ์ GPS ติดตามรถมอเตอร์ไซค์นั้นจึงนิยมมากในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะป้องกันขโมยที่มาทำการโจรกรรมรถแล้วยังสามารถที่จะตรวจสอบข้อมูลสถานะของรถมอเตอร์ไซค์ได้อีกด้วยในรูปแบบของการนำรถมอเตอร์ไซค์มาใช้ในการขนส่งสิ่งของต่าง ๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันมีแอพพลิเคชั่น(Application) ต่าง ๆ ที่เปิดขึ้นมาเพื่อให้บริการด้วยรถมอเตอร์ไซค์ เช่น Grab Bike, Line Man, Lalamove, Food Panda เป็นต้น ทำให้การติดตั้ง GPS ติดตามรถมอเตอร์ไซค์มีความสำคัญเพิ่มมากยิ่งขึ้น
จากที่กล่าวมาข้างต้นทำให้เห็นว่า GPS Tracking ติดตามรถ สามารถนำมาใช้งานได้หลากหลายวัตถุประสงค์ หลาย ๆ ผู้ใช้ที่ติดตั้งอุปกรณ์ GPS ติดตามรถ เพื่อป้องกันรถสูญหาย เป็นการป้องกันเหตุล่วงหน้า ซึ่งจากแผนที่ที่แม่นยำและมีความเสถียรจึงทำให้ตำรวจหรือผู้เสียหายสามารถรู้ทุกความเคลื่อนไหวของรถนำมาซึ่งการติดตามรถที่ถูกขโมยไปได้อย่างง่ายดาย ทั้งนี้ในเชิงพาณิชย์ยังทำให้ผู้ประกอบการสามารถทราบทุกความเคลื่อนไหวของรถเพื่อที่จะสามารถติดตามรถได้ในกรณีที่เกิดเหตุที่ไม่ได้คาดการณ์มาก่อน นอกจากนี้เราจึงได้รวบข้อมูลการเลือกซอร์ฟแวร์ (Software) สำหรับ GPS ติดตามรถและประโยชน์ของการติดตั้งอุปกรณ์ GPS ติดตามรถ ดังต่อไปนี้
โปรแกรมที่ใช้งานบนหน้าเว็บ
โปรแกรมที่ติดตั้งบนคอมพิวเตอร์
บริษัทที่มักจะนำเทคโนโลยี GPS มาใช้นั้นส่วนใหญ่อย่างที่บอกจะเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ ๆ เนื่องจากช่วงแรก ๆ ที่เทคโนโลยีตัวนี้เข้ามาในประเทศไทยมีราคาอุปกรณ์ที่สูงมาก เมื่อพิจารณาจากต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นถือว่าไม่คุ้มค่า ทั้งนี้พิจารณาจากมูลค่าของสินค้าที่จะถูกขนส่ง แต่ในปัจจุบันบริษัทต่าง ๆ ก็ได้นำระบบ GPS มาใช้กับการขนส่งมากยิ่งขึ้น เนื่องจากสินค้าที่จะต้องบรรทุกขนส่งนั้นมีมูลค่าสูง เช่น รถขนเงินสด รถขนรถยนต์ เป็นต้น และเมื่อมีการนิยมนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายราคาของระบบ GPS จึงถูกลดลงมา ซึ่งมีราคาชุดละประมาณหลักพันบาทต่อการติดตั้งรถหนึ่งคัน และต้องเสียค่าบริการ GPRS ในการรับส่งข้อมูลกับผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ เฉลี่ยประมาณเดือนละ 500 บาท ซึ่งระบบที่นิยมใช้มักเป็นระบบติดตามแบบ Real Time รองรับการทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถเห็นทั้งข้อดี – ข้อเสียจากการติดตั้งได้ดังนี้
สรุป GPS ติดตามรถ เป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจ, เจ้าหน้าที่ดับเพลิง, การใช้งานในกองทัพและธุรกิจเกี่ยวกับการขนส่งสินค้า ซึ่งจากหน่วยงานที่กล่าวมาจะใช้ระบบการติดตามตำแหน่งรถยนต์หรือยานพาหนะทั้งสิ้น ซึ่งระบบติดตามรถยนต์หรือยานพาหนะโดยทั่วไปแล้วจะประกอบไปด้วยอุปกรณ์รับสัญญาณวิทยุหรือสัญญาณโทรศัพท์, อุปกรณ์รับสัญญาณ GPS รวมทั้งเสาอากาศเพื่อรับสัญญาณ GPS โดยระบบเน็ตเวิร์ค (Network) จะเชื่อมต่อผ่านระบบสัญญาณวิทยุหรือโทรศัพท์ไปยังระบบคอมพิวเตอร์ที่มีหน้าที่แสดงผลตำแหน่งของรถยนต์หรือยานพาหนะนั้นเพื่อให้ทราบว่ารถยนต์หรือยานพาหนะนั้นอยู่ที่ตำแหน่งใด โดย GPS ติดตามรถจะมีระบบการวิเคราะห์และจะไปแสดงตำแหน่งให้สอดคล้องกับแผนที่โลก ซึ่งระบบติดตามยานพาหนะเป็นอีกระบบหนึ่งที่สามารถใช้เพื่อเพิ่มความรับผิดชอบของบุคลากรและเพิ่มประสิทธิภาพของขั้นตอนการจัดส่งสินค้าหรือบริการต่างๆ ของบริษัท โดยระบบการติดตามรถยนต์หรือยานพาหนะที่เรียกกันว่า GPS Tracking จะทำให้การบริหารและจัดการงานเหล่านี้มีประสิทธิภาพ ทั้งยังลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นออกไปได้อีกด้วย