BLOGS

รู้แล้วบอกต่อ…เทคนิคเติมลมยางรถกระบะ เติมลมยางรถ ที่ถูกต้อง

คุณต้องการให้ คาร์แทรค ช่วยเหลือเรื่องอะไร?

ฉันเป็น / ...
จำนวนยานพาหนะของคุณ
ขอบคุณค่ะ เจ้าหน้าที่คาร์แทรคจะติดต่อกลับหาคุณโดยเร็วที่สุด
Oops! Something went wrong while submitting the form.

รู้หรือไม่ว่า การเติมลมยางรถ หากทำได้ถูกต้อง จะช่วยถนอมรถให้ใช้งานได้นานขึ้น และลดอุบัติเหตุได้ด้วย! บทความคาร์แทรคตอนนี้ เราจะมาแนะนำเทคนิคการเติมลมยางรถ หลายๆ ประเภท เช่น เติมลมยางรถกระบะ ที่ถูกต้อง

เทคนิคเหล่านี้ สามารถนำไปใช้ได้ เมื่อต้องเติมลมยางรถเองด้วย

ความดันลมยาง แต่ละแบบ ให้ผลลัพธ์ต่างกัน

ความดันลมยางมากเกินไป อาจทำให้..

  • เกิดแรงสั่นสะเทือนกว่าปกติ ขณะขับขี่
  • ควบคุมและเบรกรถได้ยาก
  • เสี่ยงยางรถระเบิดมากกว่าปกติ
  • หน้ายางรถสึกหรอกว่าปกติ โดยเฉพาะดอกยางและร่องยางแนวกลางล้อ

ความดันลมยางน้อยเกินไป อาจทำให้..

  • หน้ายางรถสึกหรอเร็วกว่าปกติ โดยเฉพาะไหล่ยางรถ
  • ลดอายุการใช้งานยางรถ
  • กินน้ำมันเชื้อเพลิงรถมากกว่าปกติ

ความดันลมยางรถที่พอดี ช่วยให้..

  • ยืดอายุการใช้งานยางรถ
  • ยางรถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
  • ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง

เติมลมยาง ให้ดี ต้องอิงคู่มือประจำรถ

โดยทั่วไป รถยนต์ 4 ล้อควรมีแรงดันลมยางอยู่ที่ 25-30 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว (PSI)

แต่ต้องการ เติมลมยางรถ ให้ได้ระดับเหมาะสมพอดี ควรอิงตามคู่มือประจำรถแต่ละรุ่น ซึ่งจะมีให้แก่ผู้ขับขี่เมื่อตอนซื้อรถอยู่แล้ว

หากไม่มีคู่มือแล้ว ก็สามารถดูได้จากป้ายโลหะข้างประตูคนขับ (บางกรณีอาจติดที่ประตูหลังขวา หรือตำแหน่งคานกลางรถก็เป็นได้) ซึ่งจะปรากฎเป็นตัวเลขรหัสอยู่คู่กับรูปรถ ในกรณีนี้ ขอยกตัวอย่างการ เติมลมยางรถกระบะ เช่น

  • หากรถกระบะที่ด้านหลังไม่มีสิ่งของบรรทุก และมีตัวเลขในเครื่องหมายวงเล็บ <38> ที่ล้อด้านหน้า และ <42> ที่ล้อด้านหลัง แสดงว่าแนะนำให้เติมลมยางล้อหน้าที่ 38 ปอนด์ ล้อหลังที่ 42 ปอนด์
  • ส่วนรถกระบะที่มีของอยู่ท้ายรถ และมีตัวเลข <38> ที่ล้อหน้า และ <51> ที่ล้อหลัง หมายถึง ควรเติมลมยางที่ล้อหลังให้ถึง 51 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว เป็นต้น

จะเห็นได้ว่าการเติมลมยางรถกระบะ จะใช้แรงดันอากาศมากกว่ารถยนต์สี่ล้อทั่วไป ซึ่งส่วนสำคัญเป็นเพราะน้ำหนักบรรทุกที่ต่างกัน ซึ่งกำลังจะพูดถึงในหัวข้อถัดไป

เติมลมยางรถ ให้เข้ากับการใช้งานและน้ำหนักบรรทุก

การเติมลมยางต้องดูที่รุ่นรถและวัตถุประสงค์ในการใช้งานด้วย

  1. รถยนต์ขนาดเล็ก ควรเติมลมอยู่ที่ 25-30 ปอนด์
  2. รถยนต์ขนาดกลาง ควรเติมลมอยู่ที่ 30-35 ปอนด์
  3. รถตู้บรรทุก เช่น บรรทุกผู้โดยสาร ควรเติมลมอยู่ที่ 43-55 ปอนด์

สำหรับรถกระบะ จะแบ่งเป็น 2 แบบ หลักๆ

  1. รถกระบะตอนเดียว รถกระบะแค็บ และรถกระบะสี่ประตู ควรเติมลมยางรถให้แก่ล้อคู่หน้าในระดับแรงดัน 35 ถึง 38 ปอนด์

    ส่วนล้อคู่หลังควรเพิ่มลมมากกว่าล้อคู่หน้าเพื่อรองรับน้ำหนักในการบรรทุกสิ่งของที่เพิ่มขึ้น โดยเพิ่มให้แรงดันลมอยู่ในช่วง 38 ถึง 40 ปอนด์ ลดการกระดอนของตัวรถขณะวิ่งโดยผู้โดยสารจะรู้สึกว่านั่งแล้วไม่นุ่ม
  2. รถกระบะขนาดใหญ่ กลุ่มรถปิคอัพ รถขนย้ายสิ่งของน้ำหนักมากเกือบตลอดเวลา เช่น เครื่องเรือน เครื่องไม้ เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ ควรเพิ่มแรงดันลมยางให้มากขึ้นเป็น 35 ถึง 40 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว หรือเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ได้

    แต่ไม่ควรเกิน 65 ปอนด์ในแต่ละล้อ หากบรรทุกสิ่งของหนักไม่เกิน 1 พันกิโลกรัม หรือ 1 ตัน

เติมลมยางดี สังเกตจากน้ำหนักพวงมาลัยและความรู้สึกในการขับขี่

สำหรับผู้ที่ขับขี่รถคันใดคันหนึ่งเป็นประจำอยู่แล้ว จะสังเกตเรื่องนี้ได้ง่ายมาก

โดยหลังเติมลมยางรถ หากรู้สึกว่าพวงมาลัยหนักผิดปกติ ควบคุมการหมุนซ้ายขวาได้ยาก แสดงว่าลมยางอ่อนเกินไป แก้ไขได้ง่าย ๆ เพียงเพิ่มแรงดันลมยางล้ออีกข้างละ 2 ถึง 3 ปอนด์

หรือหากรู้สึกว่าขับรถกระบะคู่ใจแล้วไม่นุ่มอย่างเคยหลังการเติมลมยาง มีความรู้สึกกระด้าง นั่งแล้วกระดอน โดยเฉพาะเมื่อวิ่งผ่านถนนที่มีความขรุขระ หรือมีลูกระนาด แล้วมีความโคลงเคลงมากกว่าปกติ

แสดงว่าปริมาณลมยางที่เติมมากเกินไปจนยางแข็ง ควรลดแรงดันลมยางลงข้างละ 2 ถึง 3 ปอนด์ จะช่วยให้ขับขี่ได้นุ่มนวลขึ้น

เติมลมยางรถในช่วงเวลาที่เหมาะสม

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเติมลมยางรถกระบะ ควรเป็นช่วงที่อุณหภูมิอากาศไม่ร้อนจัด หรือรถที่จอดข้ามคืน หรือรถจอดหยุดนิ่งหลังการใช้งานหนักต่อเนื่องมาแล้วหลายชั่วโมง

เพื่อให้ยางรถอยู่ในสภาพที่เป็นปกติ ยางไม่ขยายตัวและเสถียรที่สุด เพราะความร้อนเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้การเติมลมยางรถกระบะมีค่าคลาดเคลื่อนไป

ผู้ขับขี่สามารถใช้วิธีเติมลมยางที่อู่ตอนค่ำ แล้ววัดระดับแรงลมยางซ้ำอีกครั้งด้วยเกจวัดลมยางส่วนตัวในตอนเช้าก่อนเดินทางก็ได้ ซึ่งเดี๋ยวนี้ เกจวัดลมยางส่วนตัวสามารถหาซื้อได้ทั่วไป มีทั้งแบบเกจที่เป็นมิเตอร์และดิจิตอล

ทั้งนี้ในปัจจุบัน ยังมีตัวเลือกใหม่สำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ คือ ลมยางแบบไนโตรเจน ซึ่งถือว่าเป็นแก๊สที่มีความปลอดภัยสูงในการเติมลมยางรถทุกประเภท

เนื่องจากผ่านการวิจัยและทดสอบมาแล้วว่าไม่เกิดความร้อนสะสมและไม่เพิ่มแรงดันลมยางหลังการขับขี่ ทำให้ลดอัตราเสี่ยงที่ยางจะระเบิดได้

หากจะเปลี่ยนไปเติมลมยางไนโตรเจน ต้องปล่อยลมยางธรรมดาที่มีอยู่ออกก่อน เพราะหากลมทั้งสองแบบรวมกันจะทำให้ลมยางไนโตรเจนเสียคุณสมบัติ และกลายสภาพเป็นลมยางแบบปกติ

สำหรับรถกระบะหรือรถบรรทุกทุกประเภท ที่ต้องการดูแลรถอย่างเต็มที่ มากกว่าแค่เรื่องลมยาง ต้องลองระบบ Fleet Management ของ CARTRACK ที่ช่วยคุณ

  • ติดตามพิกัด GPS รถ
  • บันทึกและรายงานการใช้งานรถแต่ละคัน
  • แจ้งเตือนซ่อมบำรุงล่วงหน้า
  • แจ้งการใช้น้ำมัน เตือนขโมยน้ำมัน
  • บันทึกภาพการขับขี่และผู้ขับขี่ในห้องโดยสาร และเตือนผู้ขับขี่ทันที
  • จับความเคลื่อนไหว (sensor) เฉพาะทางอื่นๆ ตามต้องการ

สนใจข้อมูลและสอบถามใบเสนอราคาและโปรโมชัน โทรในเวลาทำการที่ 02-136-2929 หรือคลิกปุ่ม “ติดต่อเราฟรีที่นี่” เพื่อกรอกข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด

เติมลมยางรถกระบะ ที่ถูกต้อง นอกจากจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยแล้ว ยังช่วยลดต้นทุนการใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิง ลมยาง และการซ่อมบำรุงต่างๆ ในระยะยาว