BLOGS

ขับรถเร็วอย่างไร ให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุต่อตัวเองและผู้อื่น

สนใจใช้งาน GPS ติดรถ Cartrack วันนี้ ปรึกษาฟรี!

ฉันเป็น / ...
จำนวนยานพาหนะของคุณ
ขอบคุณค่ะ เจ้าหน้าที่คาร์แทรคจะติดต่อกลับหาคุณโดยเร็วที่สุด
Oops! Something went wrong while submitting the form.

กฎหมายมีการกำหนดความเร็วที่สามารถใช้ในการขับขี่ได้แตกต่างกันออกไป ทั้งตามพื้นที่และประเภทรถที่ใช้ อาจทำให้ผู้ใช้รถเกิดความไม่แน่ใจว่าขับรถเร็วเท่าไรถึงจะเรียกขับรถเร็ว และเราจะรู้ได้อย่างไรว่าที่ขับอยู่นี้เรียกว่าขับขี่ปลอดภัยแล้วหรือยัง? 

บทความตอนนี้ CARTRACK (คาร์แทรค) ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้าน GPS ติดตามรถ จะมาแนะนำวิธีการขับรถโดยใช้ความเร็วที่เหมาะสม เพื่อให้คุณนำไปเป็นหลักการในการตัดสินใจขณะขับรถกัน เพิ่มความปลอดภัยให้ตัวคุณ ผู้โดยสาร รวมถึงเพื่อนร่วมทางของคุณ และทำได้ไม่ยากเลย

บทความตอนนี้ชวนคุยเรื่อง:

  • สถิติอุบัติเหตุทางท้องถนนในประเทศไทย…ไม่ใช่เล่น ๆ
  • ขับรถเร็วอย่างไรให้เหมาะสมและปลอดภัย
  • GPS ติดตามรถ และกล้องติดรถ CARTRACK บันทึกทุกข้อมูลการใช้รถที่คุณควรรู้

สถิติอุบัติเหตุทางท้องถนนในประเทศไทย…ไม่ใช่เล่น ๆ

อุบัติเหตุบนท้องถนนจากการขับรถเร็ว คือสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของคนไทย จากการจัดอันดับผู้เสียชีวิตบนท้องถนนของโลกที่ประเทศไทยได้เป็นอันดับ 1 มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 และในปี พ.ศ. 2560 ปีเดียวมีอัตราการสูญเสียบนท้องถนนเป็นผู้เสียชีวิต 15,256 คน และผู้บาดเจ็บ 1,002,193 คน

นับเป็นการสูญเสียทั้งทรัพยากรและค่ารักษาพยาบาลที่มิอาจประเมินค่าได้ สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุนั้นส่วนมากก็เนื่องมาจากอาการเมาสุรา อาการหลับในและการขับรถเร็วเป็นหลัก

สาเหตุของการขับขี่ยานพาหนะอย่างรวดเร็วนั้นก็เนื่องมาจากหลายสาเหตุ ทั้งความเร่งรีบในชีวิตประจำวันที่ทำให้ผู้คนล้วนต้องแข่งขันกับเวลาจนต้องเพิ่มความเร็วในการขับขี่ หรือมาจากประสิทธิภาพของยวดยานพาหนะที่ดีมากขึ้น

ผู้ขับขี่หลายคนจึงเผลอเร่งความเร็วมากเกินไปจนสูญเสียการควบคุม กลายเป็นอุบัติเหตุที่ก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมากมายนั่นเอง

ขับรถเร็วอย่างไรให้เหมาะสมและปลอดภัย

หากผู้ขับรถจำเป็นต้องขับขี่รถด้วยความรวดเร็วจริง ๆ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติตนตามวิธีดังต่อไปนี้เพื่อความปลอดภัย ไม่ว่าจะขับขี่รถยนต์ รถสามล้อ รถแท็กซี่ รถทัวร์ รถบรรทุก หรือรถมอเตอร์ไซค์ คุณก็สามารถนำไปปรับใช้กันได้

1. ขับรถเร็วได้ แต่ต้องดูกฎหมายด้วย

แม้ว่าคุณจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ด้วยความรวดเร็วมากเพียงใดก็ตาม แต่ก็จำเป็นต้องขับขี่โดยเคารพตามกฎจราจร เพราะกฎกระทรวง ฉบับที่ 6 ประกอบกับ ฉบับที่ 10 ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มีระบุข้อกำหนดเรื่องประเภทเส้นทาง ประเภทรถยนต์ และความเร็วที่กำหนดอย่างชัดเจน 

เช่น รถยนต์ทั่วไปและรถจักรยานยนต์ เมื่อวิ่งในเขตกรุงเทพมหานคร เขตเมืองพัทยา และเขตเทศบาล จะต้องใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นต้น

กฎดังกล่าวถูกออกแบบโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ขับขี่รถยนต์และผู้ร่วมทางเป็นสำคัญ อย่างในกรณีที่ใกล้โรงเรียน แหล่งชุมชน หรือบริเวณทางโค้งทางแยก ก็ควรชะลอความเร็วลงเพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมรถ และลดการเกิดเหตุไม่คาดฝันอันเนื่องมาจากรถยนต์คันอื่น ๆ หรือผู้สัญจร สัตว์ สิ่งกีดขวาง ตัดผ่านหน้ารถกะทันหัน

นอกจากนี้ควรสังเกตป้ายจราจรที่แนะนำเรื่องการจำกัดความเร็วในแต่ละบริเวณด้วย การขับรถเร็ว ด้วยความเคารพในกฎหมายจะทำให้คุณและผู้ร่วมทางทุกคนมีความปลอดภัย

2. รถของคุณพร้อมแค่ไหนที่จะขับรถเร็ว

สาเหตุสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่จะทำให้ผู้ขับรถเร็วประสบอุบัติเหตุก็คือ รถไม่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานจนสูญเสียการควบคุมและทำให้เกิดอุบัติเหตุในที่สุด

ดังนั้นผู้ขับขี่รถที่ต้องการใช้ความเร็วควรตรวจสอบสภาพรถให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ ทั้งน้ำมันเบรกอยู่ในระดับที่เหมาะสม สภาพยางไม่มีรอยรั่ว ดอกยางอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่ปริแตก หรือมีร่องรอยเสียหาย

รวมไปถึงอุปกรณ์ที่ช่วยในการมองเห็นอย่างไฟส่องสว่างหรือที่ปัดน้ำฝน เพราะอุปกรณ์เหล่านี้ส่งผลต่อการมองเห็นและประสิทธิภาพในการขับขี่รถ ลองคิดดูว่าถ้าจำเป็นต้องเบรกกะทันหันแต่เบรกทำงานผิดพลาด จะเป็นอย่างไรคงไม่ต้องกล่าวถึง

3. เตรียมความพร้อมตัวคุณเองก่อนคิดจะขับรถเร็ว

ความพร้อมของร่างกายผู้ขับขี่มีความจำเป็นอย่างมากต่อการขับขี่รถด้วยความเร็ว อย่างการนอนหลับน้อยที่ส่งผลต่อการรวบรวมสมาธิในระหว่างที่กำลังขับรถเร็ว ประสาทสั่งงานก็จะช้าตัดสินใจไม่รวดเร็ว ดังนั้นหากคุณเป็นผู้ที่ชื่นชอบการใช้ความเร็ว ก็ควรเตรียมความพร้อมของร่างกายให้ดีด้วย

การนอนหลับนอกจากจะช่วยระบบประสาทและสมองทำงานได้อย่างดีเยี่ยมแล้ว ยังเป็นการป้องกันอาการหลับในได้เป็นอย่างดีอีกด้วย 

อย่างไรก็ตามข้อเสียในการขับเร็วเป็นระยะเวลานาน ๆ นั้น เป็นการกระตุ้นให้ร่างกายต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ทั้งการมองหนทางอย่างชัดเจนว่าปลอดภัยต่อการใช้ความเร็วหรือไม่ มีสิ่งกีดขวางหรือสามารถวิ่งร่วมกับผู้ร่วมทางได้อย่างปลอดภัยหรือไม่

การขับขี่ในลักษณะดังกล่าวเป็นระยะเวลานาน ๆ ก็จะส่งผลให้ร่างกายเกิดความเมื่อยล้าได้ ดวงตาที่ต้องสู้แสงเป็นระยะเวลานาน ๆ เองก็อาจมีอาการล้าได้ ดังนั้นจำเป็นต้องหยุดพักบ้างเป็นระยะ ๆ อาจแวะจอดพักเพื่อลดมายืดเส้นยืดสายบ้าง หรือหยุดพักในที่ปลอดภัยเพื่อหลับตาลงสักครู่ก็จะเป็นการลดความเมื่อยล้าลงไปได้มาก 

โดยเฉพาะกลุ่มรถบรรทุกที่มีข้อกฎหมายกำหนดชัดเจนว่า ต้องมีการพักรถเป็นระยะ และบังคับติดตั้ง GPS รถบรรทุกและเครื่องรูดใบขับขี่ เพื่อส่งข้อมูลการใช้งานรถและการขับขี่ของคนขับแต่ละคนเข้าไปที่กรมการขนส่งทางบกโดยตรงเลยทีเดียว

นอกจากนี้ในระหว่างการขับขี่รถยนต์และยานพาหนะต่าง ๆ ด้วยความเร็ว ผู้ขับขี่ควรมีสมาธิที่การขับรถอย่างแน่วแน่ จึงไม่ควรทำกิจกรรมอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นโทรศัพท์มือถือ การเปิดดูภาพเคลื่อนไหวอย่างละคร หรือคอนเสิร์ตในระหว่างการขับรถ เพราะกิจกรรมต่าง ๆ เหล่านี้อาจดึงความสนใจของผู้ขับขี่ไป และทำให้เกิดอันตรายได้

4. เช็กความปลอดภัยของเส้นทาง

ในกรณีที่เดินทางไปยังเส้นทางที่ไม่รู้จักควรลดระดับความเร็วลงมาให้เหมาะสม เพราะผู้ขับขี่จะไม่มีทางรู้ล่วงหน้าได้ว่าหนทางข้างหน้ามีอุปสรรคหรืออันตรายแอบแฝงอยู่หรือไม่ เช่น ทางโค้ง ทางลาดชัน หลุมบ่อ เนิน จึงยังไม่ควรเร่งความเร็วให้มากเกินไป แต่ควรขับรถเร็วด้วยความมั่นใจถึงความปลอดภัยก่อน ยิ่งเป็นช่วงเวลามืดค่ำหรือมีหมอกลงยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ให้เพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว

5. กลางวัน กลางคืน แสงแดดจ้า ฝนตก มีผลกับการขับรถเร็วอย่างไร

สภาพอากาศและช่วงเวลาล้วนมีผลต่อการขับรถทั้งสิ้น แสงแดดที่แรงส่งผลต่อดวงตา ผิวถนนที่ร้อนระอุส่งผลต่อยางรถ เวลาโพล้เพล้มืดค่ำส่งผลให้การมองเห็นแย่ลง โดยเฉพาะเมื่อเกิดฝนตกไม่ว่าจะมีปริมาณน้ำฝนมากน้อยเพียงใด มักทำให้การยึดเกาะพื้นผิวถนนของยางรถลดลงได้ เกิดอาการรถเหินน้ำ

ดังนั้นผู้ที่ชอบขับรถเร็ว ควรเพิ่มความระมัดระวังในขณะฝนตกให้ดี โดยอาจเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุเมื่อต้องเบรกรถกะทันหัน หรือหากฝนตกหนักจนส่งผลให้ทัศนวิสัยแย่ลงควรขับขี่ให้ช้าลงเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน

การขับรถเร็วอาจเป็นการกระทำที่เสี่ยงอันตรายหากผู้ขับขี่ไม่เตรียมการทั้งยานพาหนะและตัวผู้ขับขี่เองให้พร้อม ปฏิบัติตามกฎการจราจรและวินัยการจราจรอย่างเคร่งครัด หากไม่มั่นใจหรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยงก็ควรลดระดับความเร็วให้ลดลงเพื่อเพิ่มความปลอดภัย 

รวมถึงการหยุดพักเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้าในระหว่างการขับรถ การกระทำต่าง ๆ เหล่านี้เป็นปัจจัยที่ช่วยให้การขับขี่รถยนต์ด้วยความเร็วเป็นไปอย่างปลอดภัยตลอดการเดินทาง

GPS ติดตามรถ และกล้องติดรถ CARTRACK บันทึกทุกข้อมูลการใช้รถที่คุณควรรู้

เป็นธรรมดาที่เราจะไม่สามารถติดตามและตรวจสอบได้ว่าคนขับรถหรือพนักงานขับรถแต่ละคน มีพฤติกรรมการขับขี่และการใช้รถที่ถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ และในการทำธุรกิจทุกวันนี้แค่ความเชื่อใจอาจไม่พอ การมีข้อมูลที่บันทึกไว้อย่างชัดเจน ย่อมทำให้การบริหารจัดการรถของคุณง่ายขึ้นกว่าอย่างเห็นได้ชัด

เลือกติดตั้ง GPS ติดตามรถ กับ CARTRACK บันทึกข้อมูลความเร็วรถ ระยะเวลาที่รถถูกสตาร์ทจอดแช่นิ่ง หรือแม้แต่จำนวนครั้งในการเบรกกะทันหัน เร่งความเร็วกะทันหัน ติดตามได้ทุกความเคลื่อนไหวของรถในแอปพลิเคชันเดียว ตลอด 24 ชั่วโมง และยังเป็น GPS กรมการขนส่งทางบกรับรอง

นอกจากนี้ยังมีกล้องติดรถระบบ AI อัจฉริยะ เป็นกล้องหลายมุมมองที่เก็บภาพหน้ารถ รวมถึงพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในระหว่างขับขี่ของพนักงานขับรถ 

ทั้งอาการง่วง เพลีย เล่นโทรศัพท์ขณะขับรถ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ทุกพฤติกรรมจะไม่หลุดรอดการบันทึกของกล้องไปได้ นอกจากนี้กล้องยังมีการส่งเสียงแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ เพื่อให้คนขับหยุดพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านั้นทันทีอีกด้วย

หากสนใจติดตั้ง GPS ติดตามรถ ราคาคุ้มค่า หรืออยากสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับกล้องติดหน้ารถเพิ่มเติม สามารถโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ได้โดยตรงที่ 02-136-2920 , 02-136-2921 ได้ในช่วงวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30 - 17.30 น. หรือกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มด้านบน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด

พิเศษ! ติดตั้งวันนี้ ฟรีค่าติดตั้งและค่าอุปกรณ์ GPS จ่ายเพียงค่าบริการ พร้อมโปรโมชันสำหรับลูกค้าคนสำคัญเช่นคุณ รับเลยทันที โปรโมชันติดตั้ง GPS ติดรถยนต์ รถตู้ รถกระบะ GPS ติดตามรถบรรทุก จ่าย 10 เดือน ใช้ต่อเนื่อง 12 เดือน* (* เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)

ติดตาม CARTRACK (คาร์แทรค) เพิ่มเติมได้ที่

Facebook: Cartrack Thailand

Instagram: @cartrack.thailand‍

LINE: https://page.line.me/udi4517q?openQrModal=true หรือเข้าแอปฯ LINE เลือกเพิ่มเพื่อน เลือกค้นหา พิมพ์ @udi4517q ที่ ID และแอดเพื่อคุยสอบถามข้อมูลได้ทันที

ขับรถเร็วอย่างไร ให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ

ขับรถเร็ว สาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของคนไทย หากผู้ขับรถจำเป็นต้องขับขี่รถด้วยความเร็ว ควรขับอย่างไรเหมาะสมและปลอดภัยกับทุกคน