BLOGS

ทำความรู้จักกับ Transport Management สิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจการขนส่ง

คุณต้องการให้ คาร์แทรค ช่วยเหลือเรื่องอะไร?

ฉันเป็น / ...
จำนวนยานพาหนะของคุณ
ขอบคุณค่ะ เจ้าหน้าที่คาร์แทรคจะติดต่อกลับหาคุณโดยเร็วที่สุด
Oops! Something went wrong while submitting the form.

Transport Management คือระบบการจัดการการขนส่ง ทั้งเรื่องของยานพาหนะ และการดำเนินงาน รวมไปถึงการวางแผน ควบคุมพนักงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างผลกำไร

Transport Management System หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า “TMS” เป็นระบบการทำงานที่กำลังได้รับความสนใจในยุคที่ธุรกิจต้องรวดเร็วทันใจสำหรับการจัดส่งสินค้าต่างๆ แน่นอนว่าต้องรู้จักกันเป็นอย่างดีในกลุ่มผู้ประกอบการ หรือบริษัทที่ทำงานเกี่ยวกับขนส่งสิ่งของ เรียกรวมทั้งหมดของระบบนี้ว่าเป็นตัวบริหารจัดการการขนส่งแบบครอบคลุมทั้งระบบ

มีตั้งแต่ลูกค้าสั่งของ ระบบทำการรับออเดอร์ จัดตารางเวลาขนส่งเที่ยวรถแต่ละรอบ ส่งข้อมูลให้ทางคนขับรถ ติดตามการขนส่งที่สามารถทราบได้แบบ Real Time เชื่อมต่อการเข้าถึงได้ทั้งบริษัทที่ใช้งานและลูกค้าที่สั่งของ เกิดเป็นความพึงพอใจและความมั่นใจในการให้บริการ เรียกได้ว่าเป็นระบบที่ช่วยเอาชนะคู่แข่งในยุคสมัยที่การค้าขายออนไลน์กำลังเฟื่องฟู ใครขนส่งไว ขนส่งดี ติดตามได้ ก็ย่อมเอาใจลูกค้าไปครองได้มากกว่านั่นเอง

หลักการทำงานของระบบ TMS มีอะไรบ้าง ?

ในขั้นตอนการทำงานของระบบ Transport Management ซึ่งนิยมใช้ในการขนส่งสินค้า จะมีหน้าที่ตั้งแต่จัดการใบส่งสินค้า ประมวลผลเพื่อหาเส้นทงที่ดีที่สุด ซึ่งหมายถึงประหยัดต่อค่าขนส่ง และให้ถึงจุดหมายรวดเร็วมากที่สุด นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการใช้รถขนส่งให้มีประสิทธิภาพแบบไม่ต้องตีรถเปล่ากลับให้เปลืองน้ำมันและเวลาไปแบบเปล่าประโยชน์ การขนส่งที่ดีจึงต้องคุ้มค่าทั้งขาไปและขากลับ

ระบบในปัจจุบันถ้าจะให้นั่งวางแผนการเดินรถด้วยสมองของมนุษย์เพียงอย่างเดียวก็คงใช้เวลานาน กว่าจะจัดเที่ยวส่งของได้แต่ละรอบ เพราะฉะนั้นทางเลือกที่ดึงเอาตัว Transport Management เข้ามาใช้ จะสามารถทุ่นเวลาไปได้มาก ตั้งแต่รู้ว่ารถแต่ละคันจะต้องจัดสินค้าอะไรลงไปบ้าง เพราะสินค้าแต่ละชิ้นต้องเดินทางไปในทิศทางที่สัมพันธ์กัน

มีการจัดตารางเดินรถเพื่อให้การขนส่งตรงเวลา ฐานข้อมูลของ Transport Management จะต้องมีข้อมูลสำคัญ อาทิเช่น แผนที่ GPS, ตำแหน่งเส้นทางรถติด, เส้นทางที่ใกล้ที่สุดในการเดินรถ, จุดจอดพักรถ, ข้อมูลอัตราการใช้เชื้อเพลิงของรถบรรทุก, ระยะเวลาในการวิ่ง, เส้นทางที่เหมาะสมของรถแต่ละประเภท, มีข้อมูลของพนักงานขับขี่, ระเบียบการเดินรถและขนส่งสินค้าตามข้อกฏหมาย, สถานที่แวะรับ-ส่งสินค้า ไปจนถึงระบบรับคำสั่งจากลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นจำนวน ต้นทาง ปลายทาง เวลานัดหมาย ฯลฯ ทั้งหมดนี้จะถูกรวบรวมเอาไว้ในระบบ ที่ใช้ทำหน้าที่ประมวลข้อมูลทุกอย่าง ทำให้ลดต้นทุนการขนส่งสินค้า สร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจได้อย่างมากมายเลยทีเดียว

Transportation Management System (TMS) มีข้อดีอย่างไร ?

เนื่องจากการขนส่งเป็นสิ่งสำคัญในปัจจุบันที่จะช่วยให้เกิดประสิทธิภาพในการลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ได้มากขึ้นหากมีการปรับปรุงประสิทธิภาพ ดังนั้นตัวระบบ TMS จึงมีข้อดีในด้านนี้จนเรียกได้ว่าเกือบจะสมบูรณ์แบบทั้งกระบวนการ ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับการจัดการของธุรกิจขนส่งว่าใช้งานระบบนี้จากแหล่งไหน

ปกติระบบที่ดีจะต้องทำงานในรูปแบบ standalone ซึ่งเชื่อมต่อกับระบบส่งมอบได้โดยตรง มีการเก็บข้อมูลออเดอร์อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ในกระบวนการขนส่งก็จะต้องมีข้อมูลเส้นทางเป็นฐานข้อมูลอยู่ ไม่ว่าจะเป็นทะเบียนรถ ระยะทางที่ต้องวิ่ง รถขนส่งที่ใช้งานเสื่อมสภาพไปหรือยัง ถึงเวลาต้องบำรุงรักษาแล้วไหม?

ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยลดต้นทุนในระยะยาว มองเห็นกำไรที่เพิ่มมากขึ้น เพราะระยะเวลาการเดินทางขนส่งถูกคำนวณให้ประหยัด ทั้งเชื้อเพลิงและเวลา ไม่ต้องเดินรถหลายเที่ยว อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบ GPS ได้ด้วย รถยนต์ขนส่งเหล่านี้จึงมีการติดตั้งเครื่องติดตามเอาไว้ เพื่อให้บริษัทสามารถเข้าถึงข้อมูลว่าตอนนี้รถยนต์เดินทางไปถึงจุดหมายแล้วหรือยัง ข้อมูลที่ส่งเข้ามาก็เป็นแบบ Real Time ช่วยลดความผิดพลาดในการทำงานวางแผน

ระบบต่างๆ เป็นแบบอัตโนมัติ ง่ายและสะดวก ใช้งานกับ GPS ได้ทุกยี่ห้อ ป้องกันปัญหาทุจริตระหว่างขั้นตอนการจัดส่งสินค้า มองเห็นความปลอดภัยในการใช้รถยนต์ขนส่งของคนขับ ข้อมูลทั้งหมดยังนำมาใช้ประเมินกำไร ต้นทุน เพื่อสรุปยอดรายได้ทั้งหมด แน่นอนว่าด้วยความแม่นยำในการกำหนดวันส่งสินค้าให้ผู้รับได้ ย่อมได้รับไว้วางใจจากลูกค้า เพราะพัสดุถึงที่หมายตามกำหนดเวลา และตรวจสอบได้ตลอดนั่นเอง

TMS กับการติดตามเส้นทาง ที่ช่วยเพิ่มความไว้วางใจให้ลูกค้า

การติดตั้งระบบ GPS เข้าไปร่วมกับระบบการทำงาน จะทำให้เกิดประสิทธิภาพที่ชวนดึงดูดใจจากลูกค้านั่นก็คือ การส่งพัสดุที่ถึงเป้าหมายได้ทันเวลา ไม่มีความผิดพลาดทั้งสถานที่และประเภทของสินค้า ซึ่งเป็นจุดเด่นในการแข่งขันทางการตลาดที่สำคัญในองค์กรที่อยากพัฒนาตัวเองให้มีประสิทธิภาพการขนส่งที่จะเริ่มมากขึ้นในอนาคต ที่ใครๆ ก็อยากรู้ว่าสินค้าของตัวเองถึงจุดหมายปลายทางโดยสวัสดิภาพหรือไม่ หรืออยู่ในช่วงไหนของการเดินทางแล้ว

ทั้งหมดนี้จะสามารถตรวจสอบได้ผ่านระบบ TMS สามารถเอาไปต่อยอดการทำธุรกิจที่มั่นคงในอนาคต ยิ่งกรณีที่มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ในการขนส่งสินค้าด้วยแล้ว ระบบนี้จะยิ่งช่วยสร้างความไว้วางใจให้ลูกค้าเพิ่มมากขึ้น เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจการขนส่งทุกรูปแบบที่ขาดไม่ได้ เรียกได้ว่านี่คือรูปแบบของฐานข้อมูลที่มีการประมวลผล ช่วยให้การขนส่งเชื่อมโยงทุกขั้นตอนให้กลายเป็นระบบเดียวกัน

จะเห็นได้ว่าระบบการทำงานของ Transport Management มีข้อดีอย่างมากที่จะสร้างจุดแข็งให้ธุรกิจการจัดส่งสินค้า ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ เพราะมีการบันทึกข้อมูลทุกอย่างลงไปทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบงานในรูปแบบ Big Data ที่ธุรกิจจะสามารถนำเอาไปวิเคราะห์เพื่อพัฒนาธุรกิจของตัวเองให้เติบโต สร้างผลกำไร และเอาชนะคู่แข่งได้มากขึ้น

Transport Management คือระบบการจัดการการขนส่ง ทั้งเรื่องของยานพาหนะ และการดำเนินงาน รวมไปถึงการวางแผน ควบคุมพนักงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างผลกำไร