ธุรกิจ Logistic คือธุรกิจการขนส่ง เป็นการให้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยแผนการที่ถูกกำหนด ควบคุมการจัดส่งสินค้า ซึ่งรวมถึงการจัดเก็บข้อมูลของสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องในการนำส่งไปจนถึงจุดหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบ Logistic จึงนับเป็นธุรกิจที่เข้ามาช่วยบริหารจัดการงานด้านธุรกิจส่วนนี้ให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีขึ้น พร้อม ๆ กับช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้ด้วย ยิ่งในปัจจุบันที่ธุรกิจ E commerce ได้เข้ามามีบทบาทต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คน และกำลังมีอัตราที่เติบโตสูง จึงส่งผลสะท้อนถึงธุรกิจ Logistics Thailand โดยตรง ซึ่งมีการคาดการณ์กันเอาไว้ว่าธุรกิจ Logistic นี้มีอนาคตที่น่าสนใจ ดังต่อไปนี้
เนื่องจากธุรกิจ Logistic เป็นธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตควบคู่ไปกับธุรกิจ E commerce เพราะการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์นั้นเข้ากับชีวิตผู้คนที่เร่งรีบในปัจจุบันเป็นอย่างมาก โดย สำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือชื่อย่อว่า ETDA ได้ทำการประเมินมูลค่าการซื้อขายผ่านออนไลน์ในปี พ.ศ. 2561 ได้เติบโตมากกว่า 3 ล้านล้านบาทอย่างแน่นอน เป็นอัตราที่เพิ่มจากปี พ.ศ. 2560 อยู่ในระดับที่ 4 ล้านล้านบาท ส่งผลให้ธุรกิจ Logistics Thailand กลายเป็นธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตควบคู่ตามไปด้วย เพราะการจัดการระบบขนส่งสินค้าจากผู้ขาย E commerce ไปจนถึงมือผู้ซื้อนั้นจำเป็นต้องอาศัยการขนส่งสินค้าเป็นหลัก
คาดการณ์กันว่ารูปแบบการให้บริการของธุรกิจ Logistics Thailand จะมีอยู่ 2 รูปแบบสำคัญได้แก่แบบที่ใช้แอพพลิเคชันและยานพาหนะของตนเองเตรียมไว้ให้บริการ ให้บริการส่งเอกสารและพัสดุขนาดเล็กในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก ส่วนใหญ่เริ่มจากการพัฒนาระบบแอพพลิเคชันก่อน แล้วจึงบริหารจัดการระบบขนส่งสินค้าและยานพาหนะให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าต่อไป อีกแบบหนึ่งจะมีเพียงแอพพลิเคชันทำหน้าที่เสมือนเป็น Online Market Place หรือตัวกลางระหว่างผู้ให้บริการขนส่งและผู้ขายสินค้าเท่านั้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการให้บริการลักษณะใดก็ล้วนให้ความสำคัญกับรูปแบบออนไลน์เป็นหลัก เพราะเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายและสะดวกมากกว่ารูปแบบอื่น ๆ
เพื่อตอบสนองต่อการให้บริการแก่ลูกค้าที่เป็นทั้งผู้ส่งสินค้าและรับสินค้าได้อย่างเต็มที่ ซึ่งในปัจจุบันผู้ให้บริการ Logistics Thailand ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดใหญ่ที่สุดหรือประมาณ 50% และมีอัตราการเติบโตกว่า 10 – 20% แต่ละวันคือไปรษณีย์ไทย โดยจะให้บริการจัดส่งพัสดุด่วนประมาณ 8-10 ล้านชิ้น ซึ่งนอกจากสาขาการให้บริการที่กระจายเกือบทุกภูมิภาคแล้ว ไปรษณีย์ไทยยังนำระบบคัดแยกอัตโนมัติมาใช้งานเพื่อความรวดเร็วและแม่นยำ ทำให้สามารถลดจำนวนพนักงานหน้าที่คัดแยกให้น้อยลง แล้วไปเพิ่มเติมในส่วนของพนักงานนำจ่ายพัสดุให้มากขึ้น มีอุปกรณ์นำจ่ายที่รวดเร็วสามารถตรวจสอบสถานะได้ตลอดเวลา
เมื่ออัตราการเติบโตสูงก็ย่อมเกิด Start up ใหม่ ๆ เข้ามาแข่งขันเพิ่มมากขึ้นในธุรกิจ Logistics Thailand อย่าง “เคอร์รี่ เอ็กซ์เพรส” บริษัทสัญชาติฮ่องกง ที่เข้ามาลงทุนกับสำนักงานใหญ่ในประเทศไทยมานานนับสิบปี มีเครือข่ายที่พร้อมให้บริการครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ในประเทศไทย การให้จัดส่งพัสดุด่วนของ เคอร์รี่ เอ็กซ์เพรส ได้รับนิยมมากจนได้รับการโหวตให้เป็นธุรกิจออนไลน์ขวัญใจคนไทยแห่งปี 2560 สาขาการบริหารจัดส่งสินค้าเยี่ยมยอดครองใจมหาชน ที่ออกโดยสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA และทางเคอรี่เองก็ได้ประกาศเพิ่มเงินลงทุนกว่า 800 ล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการจัดส่งพัสดุด่วน ด้วยนโยบายที่ต้องการให้ เคอร์รี่ เอ็กซ์เพรส มีอยู่ทุก ๆ ที่ทั่วไทย สามารถจัดส่งพัสดุเร่งด่วนได้ภายใน 1 วัน ภายในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ พร้อมเพิ่มจุดให้บริการใหม่ทั่วทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย จากเดิม 1,500 สาขาเป็น 2,500 สาขาภายในปี 2561 นี้
และยังมีอีกรายที่น่าจับตามองคือ “เอสซีจี โลจิสติกส์” ที่ผันตัวเองมาจากธุรกิจขนส่งปูนซีเมนต์ โดยในปีที่ผ่านมาธุรกิจโลจิสติกส์ของเอสซีจีเติบโตขึ้นกว่า 7% ด้วยมูลค่าท้องตลาด 16,000 ล้านบาท อัตราการให้บริการ 7 ล้านเที่ยว และปริมาณสินค้าที่ขนส่ง 3.6 ล้านตัน ปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 10% เป้าหมายรายได้ที่ 17,000 ล้านบาท มีบริการขนส่ง 2 รูปแบบ แบบแรกคือ SCG Logistic ให้บริการขนส่งแบบบริษัทสู่บริษัท และแบบที่ 2 คือ SCG Express เป็นการร่วมลงทุนกับ Yamato Asia หรือแมวดำของญี่ปุ่น เริ่มให้บริการตั้งแต่ต้นปี 2560 เป็นต้นมา นอกจากนี้ก็ยังมีผู้ลงทุนในธุรกิจ Logistics Thailand อีกมากมายไม่ว่าจะเป็น LINE MAN, Lalamove, DHI หรือ Nim Express
เมื่อธุรกิจ Logistics ในประเทศไทยมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จึงเริ่มเกิดการกระจายออกไปยังประเทศอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มประเทศอาเซียน หรือประเทศมหาอำนาจทางธุรกิจอย่างประเทศจีนเห็นได้ชัดจากการเข้ามาของ แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้ง อาลีบาบา กรุ๊ป อี–คอมเมิร์ซขนาดใหญ่ของจีน ที่ได้ลงนามกับรัฐบาลไทยประเดิมการลงทุนตาม ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มีโครงการใหญ่กว่า 4 โครงการที่มีมูลค่าการลงทุน 11,000 ล้านบาท เพื่อช่วยผลักดันสินค้าเกษตรและ OTOP ของไทยด้วยตลาดอี-คอมเมิร์ซ เพิ่มโอกาสให้สินค้าไทยให้เข้าไปสู่ตลาดของจีนที่มีกำลังซื้อมากกว่า 350 ล้านคนได้
ทางอาลีบาบายังมีแผนเปิดตัว โครงการ Smart Digital Hub ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) คาดว่าเริ่มก่อสร้างภายในปี พ.ศ. 2561-2562 โครงการนี้ประกอบไปด้วย Digital Platform ,ศูนย์กระจายสินค้า, การขนส่งที่ร่วมมือกับไปรษณีย์ไทย และการลงทุนด้านไอที นำระบบอัตโนมัติ และหุ่นยนต์มาใช้ Smart Digital Hub เป็นโครงการที่ใช้เทคโนโลยีเพื่อประมวลข้อมูลโลจิสติกส์ ช่วยในการกระจายสินค้าระหว่างไทย-จีน และพรมแดนประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก เพิ่มความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น
อาจกล่าวได้ว่าธุรกิจ Logistics Thailand เปรียบเสมือนธุรกิจที่ได้รับการติดปีกให้มีอัตราการเจริญเติบโตที่สูงมาก มูลค่าตามท้องตลาดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ซึ่งสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งจากภาครัฐและประเทศคู่ค้ายังคงมีแนวโน้มที่ดีต่อธุรกิจประเภทนี้เป็นอย่างมาก
ธุรกิจที่ต้องใช้ รถยนต์จำนวนหลายคันในการขนส่ง หรือใช้งานพร้อมๆกันในเวลาเดียวกัน รวมไปถึงการใช้งานรถ รถตู้ ที่ต้องไปถึงหรือส่งของตามเวลาที่กำหนด การใช้ GPS เข้ามาช่วย จะทำให้การงานและการวางแผนงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การใช้ระบบ GPS ควบคู่กับ ธุรกิจ Logistics นั้น ส่งผลให้การดำเนินการนั้นเเม่นยำมากขึ้น การวางแผนเส้นทางการเดินรถมีความกระชับ ช่วยร่นเวลาการทำงาน ทำให้ไปถึงจุดหมายได้ทันเวลาที่กำหนดไว้ อีกทั้งยังช่วยประหยัดงบที่จะต้องใช้กับการเติมเชื้อเพลิงอีกด้วย
บ่อยครั้งที่เราต้องจัดการรถยนต์ที่อยู่ในการควบคุมด้วยการโทรตาม หรือข้อความหาเพื่อติดตามงาน เเต่หากคุณติดตั้งระบบ GPS มันจะช่วยให้คุณสามารถดูการเคลื่อนไหว หรือตำแหน่งที่เเม่นยำในเวลาปัจจุบันของรถคันนั้นได้ทันที ผ่านเว็ปไซต์ หรือแอพพลิเคชั่น เราสามารถตั้งจุดเป้าหมายที่รถยนต์จะต้องไปถึง เเล้วเเจ้งเตือนเมื่อเข้าพื้นที่ การติดตามคนขับที่ขับด้วยความเร็วเกินกำหนด GPS สามารถ ติดตั้งได้ทั้ง รถตู้ รถบรรทุก รถกระบะ รถยนต์ส่วนตัวทั่วไป
Logistics Thailand จะเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างในอนาคต ทั้งในด้านของการแข่งขัน การปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น
