เลือกน้ำมันเครื่อง Engine oil อย่างไร จึงจะเหมาะกับรถคุณ

Engine oil หรือน้ำมันเครื่อง เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ เราจะมีวิธีเลือกใช้ Engine oil อย่างไรให้เหมาะสมกับรถยนต์ของเรา

น้ำมันเครื่องถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำให้รถยนต์สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน สังเกตว่าหากรถคันไหนเลือกใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพไม่ดี โอกาสที่จะเกิดความเสียหายต่อรถก็จะมีง่ายมากกว่าปกติหลายเท่าตัวเลยทีเดียว ดังนั้นการเลือกใช้งานให้ถูกต้องตามประเภทของเครื่องยนต์จึงเป็นสิ่งสำคัญ และยังเป็นอีกแนวทางที่จะช่วยดูแลรถยนต์ของคุณด้วย การใส่ใจกับ Engine oil หรือน้ำมันเครื่องจึงเป็นสิ่งที่ห้ามมองข้ามโดยเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นอาจต้องเสียเงินแพง ๆ ในการเปลี่ยนเครื่องใหม่ยกชุดก็ได้

ประเภทของน้ำมันเครื่อง Engine oil

หากว่ากันตามมาตรฐานทั่วไปแล้ว ประเภทของ Engine oil หรือน้ำมันเครื่องที่เราใช้งานกันอยู่ในทุกวันนี้จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท หลัก ๆ ก็คือ แบ่งตามประเภทเครื่องยนต์ระหว่างดีเซลกับเบนซินนั่นเอง โดยไม่ต้องสนใจด้วยซ้ำว่ารถยนต์คันดังกล่าวจะใช้งานระบบติดตั้งแก๊สหรือระบบไฮบริด

ให้ดูแค่ว่าเครื่องยนต์หลักของเขาใช้งานเบนซินหรือดีเซลเท่านั้นก็เลือกน้ำมันเครื่องไปใช้ให้ถูกต้องเป็นพอ กรณีที่บางคนไม่เคยรู้จริง ๆ ว่ารถของตนเองใช้งานเครื่องยนต์แบบไหนกันแน่ แนะนำให้ลองหาคู่มือมาอ่าน ไม่ก็ให้ดูว่าปกติเราต้องเติมน้ำมันอะไร เพราะเครื่องเบนซินกับเครื่องดีเซลต้องใช้น้ำมันต่างกันชัดเจน ไม่สามารถใช้งานร่วมกันได้

อย่างไรก็ตามเรายังสามารถแบ่งตามระยะทางที่ต้องมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องได้ด้วย ทำนองว่าหากมีการเปลี่ยนถ่ายบ่อย ๆ ก็เลือกใช้ประเภทหนึ่ง แต่ถ้าไม่ได้เปลี่ยนบ่อย ๆ ก็เลือกใช้อีกแบบได้ ดังนี้

• Synthetic น้ำมันเครื่องธรรมดา ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นโดยการถูกกลั่นมาจากน้ำมันปิโตรเลียม เหมาะกับระยะ 3,000 – 5,000 กม.
• Semi Synthetic น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นทั่วไปกับตัวชนิดสังเคราะห์ เหมาะกับระยะ 5,000 – 7,000 กม.
• Fully Synthetic น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นผ่านการสังเคราะห์จากน้ำมันปิโตรเลียม เหมาะกับระยะ 7,000 – 10,000 กม.

วิธีเลือกน้ำมันเครื่อง Engine oil ให้เหมาะกับรถของคุณ

การเลือก Engine oil ให้เหมาะกับรถคือเรื่องสำคัญมาก เพราะนอกจากจะทำให้รถใช้งานได้ยาวนานแล้ว ยังช่วยให้เกิดความสบายใจระหว่างขับขี่อีกด้วย ดังนั้นมาดูกันว่าควรเลือกอย่างไรให้เหมาะกับรถตนเอง

• ต้องรู้จักค่าความหนืดก่อน เป็นค่าความข้น – ใส ของตัวน้ำมันหล่อลื่น เป็นตัวเลขที่ถูกระบุขึ้นมาติดกับค่าการทนความเย็น สังเกตง่าย ๆ คือจะตามหลังตัวอักษร SAE เช่น SAE 5W-40 ซึ่งค่าความหนืดที่ว่านี้มีหน้าที่ในการบอกถึงความหนืดในตัวน้ำมันเครื่องโดยมีตั้งแต่ 60, 50, 40, 30, 20, 10 และ 5 ให้จำไว้เสมอเลยว่ายิ่งตัวเลขค่าความหนืดสูง ตัวเลขก็จะสูงตาม โดยค่าความหนืดเหล่านี้จะมีผลต่อเรื่องของการหล่อลื่นและยังช่วยในเรื่องยืดอายุการใช้งานเครื่องยนต์ไม่ให้สึกหรอได้ง่ายด้วย
• เลือกประเภทให้เหมาะ อย่างที่กล่าวไปในหัวข้อก่อนหน้าว่าต้องเลือกให้ถูกว่ารถยนต์ของตนเองใช้เครื่องยนต์แบบไหน เครื่องเบนซินหรือดีเซล รวมถึงเรื่องของระยะทางด้วย สมมุติว่าเข้าเช็คระยะและถ่ายน้ำมันเครื่องบ่อย ก็อาจเลือกแบบ Synthetic ก็พอแล้ว แต่ถ้าใครไม่ค่อยได้ถ่ายน้ำมันเครื่อง ควรเลือก Fully Synthetic
• ห้ามลืมการอ่านรายละเอียดตรงฉลากเด็ดขาด โดยให้อ่านอย่างละเอียดว่าน้ำมันเครื่องชนิดนี้ใช้กับเครื่องยนต์ประเภทไหนด้วย ทุกวันนี้มีการพัฒนารูปแบบของผลิตภัณฑ์เต็มไปหมด เช่น สามารถใช้งานได้ทั้ง 2 ชนิด, ใช้งานสำหรับเครื่องยนต์ระบบเบนซินแต่เป็นเชื้อเพลิง LPG / NGV โดยเฉพาะ เป็นต้น

เหตุผลที่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หรือ Engine oil

ลำดับแรกเราต้องเข้าใจว่าเครื่องยนต์ของรถยนต์ทุกคันคืออุปกรณ์ที่เกิดการเสียดสีมากที่สุด เรียกว่าพอมีการสตาร์ทรถเอาไว้ เครื่องยนต์จะทำงานตลอดเวลา เมื่อมีการทำงานก็หมายถึงการเสียดสีเกิดขึ้นทุกวินาที มีการกระทบกันระหว่างฟันเฟือง, เพลาลูกเบี้ยว ฯลฯ อุปกรณ์ต่าง ๆ ในเครื่องยนต์ย่อมเกิดการสึกกร่อนได้เป็นเรื่องธรรมดา นั่นคือสาเหตุสำคัญที่ทำให้เราจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนถ่ายนั้นเครื่องหรือ Engine oil

โดยเจ้าน้ำมันเครื่องนี้ทำหน้าที่เหมือนเป็นแผ่นฟิล์มใสบาง ๆ เข้าไปควบคุมและช่วยเหลือให้อุปกรณ์ภายในเครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดปัญหาการเสียดสีที่รุนแรง ช่วยเรื่องการหล่อลื่นอุปกรณ์จุดต่าง ๆ ล้างเอาสิ่งสกปรกออกจากเครื่องผ่านไส้กรองน้ำมันเครื่อง ฯลฯ ที่กล่าวมาทั้งหมดจึงเป็นปัจจัยสำคัญว่าเมื่อถึงเวลาที่กำหนดเราต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง

เกร็ดความรู้ของการเปลี่ยนถ่าย Engine oil

สำหรับคนที่ขับรถในเมืองเป็นประจำ ด้วยสภาพการจราจรอันแสนสาหัสแบบนี้หากเป็นไปได้ควรมีการเปลี่ยนถ่าย Engine oil ก่อนกำหนดซักประมาณ 1,000 กม. เหตุผลเพราะเวลาที่รถจอดนิ่งบ่อยครั้งทั้งที่ยังติดเครื่องอยู่ มันทำให้เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ

การเปลี่ยนถ่ายล่วงหน้าจึงช่วยรักษาความสามารถในการทำงานของเครื่องยนต์ได้ดีขึ้น และไม่ต้องรู้สึกเสียดายเงินหรือเสียดายน้ำมันเครื่องเก่าด้วยเนื่องจากยิ่งเปลี่ยนถ่ายบ่อยยิ่งทำให้เครื่องสะอาด กระนั้นในทางกลับกันหลายคนกังวลว่าแล้วหากเกินกำหนดจะเป็นอะไรหรือไม่ ก็ต้องบอกว่าเครื่องยนต์มันไม่ได้บอบบางขนาดนั้น หากเกินกำหนดจริงก็ยังใช้งานได้ราว  500 – 1,000 กม. แล้วค่อยเปลี่ยนถ่ายก็ได้เช่นกัน

การเลือกน้ำมันเครื่อง Engine oil คือสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในการดูแลรถยนต์สุดที่รักของคุณเหมือนกัน หากไม่อยากเสียเงินในการซ่อมแพง ๆ เริ่มต้นดูแลตั้งแต่วันนี้ รับรองว่าจะช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นแน่นอน

อย่าพลาดโอกาสในการทดลองใช้งาน GPS ฟรี กับ คาร์เเทรค : ทดลองใช้ฟรี !

‍