BLOGS

รถยนต์ไฟฟ้า ลุยน้ำ ไฟจะช็อตมั้ย? เรื่องคาใจที่คนอยากใช้รถ EV อยากรู้!

คุณต้องการให้ คาร์แทรค ช่วยเหลือเรื่องอะไร?

ฉันเป็น / ...
จำนวนยานพาหนะของคุณ
ขอบคุณค่ะ เจ้าหน้าที่คาร์แทรคจะติดต่อกลับหาคุณโดยเร็วที่สุด
Oops! Something went wrong while submitting the form.

ขับรถในเมือง เจอน้ำท่วมปุบปับบ่อยๆ อยากออกรถ EV ไฟจะช็อตรึเปล่า? หืม ไฟช็อตได้จริงหรือ?

ตั้งแต่ต้นปี 2565 เรื่องของ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) กลับมาเป็นกระแสที่คนพูดถึงกันมากขึ้น ด้วยปัจจัยหลายอย่าง เช่น น้ำมันเชื้อเพลิงมีราคาสูงขึ้น มลพิษทางอากาศและภาวะโลกร้อนที่แย่ลง รัฐเล็งอุดหนุนผู้ใช้รถพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น ฯลฯ

หลากหลายสถานการณ์ที่ประดังประเดเข้ามาพร้อมกัน รถยนต์ไฟฟ้า จึงเรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวใกล้ตัวมากขึ้นและได้รับความสนใจจากผู้ใช้รถส่วนบุคคลหรือสนใจอยากจะใช้รถส่วนบุคคลมากเลยทีเดียว

บทความนี้ คาร์แทรค จะพาไปรู้จักรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ด้วยการตอบข้อสงสัยยอดฮิตของ รถยนต์ไฟฟ้า ที่สอบถามกันเยอะมากในอินเทอร์เน็ต

ส่วนถ้าใครอยากอ่าน ความเป็นมาของรถยนต์ไฟฟ้า ที่ไม่ใหม่อย่างที่คิด ก็คลิกเข้าไปอ่านก่อนจะเข้าสู่คำถามยอดฮิตของเราได้เลย (หรือจะย้อนกลับมาคลิกอ่านทีหลังก็ได้!)

รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ทำงานอย่างไร มีกี่ขั้นตอน?

รถยนต์ไฟฟ้า ทำงานด้วยการชาร์จไฟฟ้าจากจุดชาร์จ โดยมีจุดรับพลังงานไฟ ที่หน้าตาคล้ายกับประตูฝาถังน้ำมันรถของรถที่ใช้น้ำมันทั่วไป

จุดชาร์จจะมีสายที่เอามาเสียบกับจุดรับพลังงานไฟฟ้าของรถยนต์ไฟฟ้า ไฟฟ้าที่รับเข้ามา จะถูกเก็บไว้ในแบตเตอรี่รถที่ชาร์จใหม่ได้เรื่อยๆ (Rechargable)

พลังงานไฟฟ้าในรถยนต์ไฟฟ้าทำหน้าที่ส่งพลังให้ล้อรถหมุน นั่นเป็นที่มาว่าทำไมรถยนต์ไฟฟ้าถึงหมุนได้ทั้งที่ไม่ได้ใช้น้ำมัน

รถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจะเร่งความเร็วได้ไวกว่ารถยนต์หรือยานพาหนะที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงด้วย เพราะตัวยานพาหนะทั้งหมดเบากว่า

รถยนต์ไฟฟ้า ใช้มอเตอร์อะไร? / แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า มีอะไรบ้าง?

รถยนต์ไฟฟ้า ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า (Electric Motor / Electric Engine) ที่ทำหน้าที่ส่งพลังงานให้ล้อหมุน

มอเตอร์ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

1. Synchronous Motor (มอเตอร์ ซิงโครนัส)

มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง (AC) ที่การหมุนของเพลา สอดคล้องเท่ากันกับความถี่ของกระแสไฟฟ้า

หรืออธิบายได้อีกอย่างว่า ระยะการหมุนเท่ากับจำนวนรอบของไฟฟ้ากระแสตรง ความเท่ากันนี้จึงเป็นที่มาของชื่อ Synchronous (คล้ายๆ กับเวลาที่เราพูดถึงอะไรที่เข้ากันได้ว่า ซิ้งกัน ประมาณนั้นเลย)

2. Induction Motor หรือ Asynchronous Motor (มอเตอร์ อะซิงโครนัส)

ส่วน Induction Motor หรือ Asynchronous Motor คือ มอเตอร์เหนี่ยวนำ หรือมอเตอร์ที่ความเร็วของตัวแดนหมุนน้อยกว่าความเร็วของสนามแม่เหล็กของมอเตอร์

ข้อดีข้อเสียหลักๆ ของมอเตอร์ทั้งสองแบบคือ Synchronous Motor จะมีประสิทธิภาพพลังงานมากกว่า แต่ราคาก็แพงกว่า และต้องการการบำรุงรักษามากกว่าเช่นกัน

แต่ก็ด้วยเทคโนโลยีของมอเตอร์ที่พัฒนาแข่งกับเวลาสุดๆ อีกเช่นกันที่ทำให้ มอเตอร์แต่ละแบบ มีแบ่งแยกย่อยออกมา จนมีระดับข้อดีข้อเสียที่แตกต่างออกไป

ถ้าสนใจรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นไหนอยู่ แล้วพอจะทราบประเภทของแบตเตอรี่นั้นๆ ก็ลองเอาข้อมูลไปค้นหาก่อนตัดสินใจซื้อ ก็จะช่วยให้มั่นใจในการซื้อรถมากขึ้น

รถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ นำมาใช้อย่างไร?

ถ้าอธิบายแบบเข้าใจง่ายสามัญที่สุด วิธีการที่รถยนต์ไฟฟ้านำแบตเตอรี่มาใช้ คล้ายกันกับระบบเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เราเห็นในชีวิตประจำวัน เช่น ปั๊มน้ำ เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว พัดลม เครื่องปรับอากาศ เพราะขับเคลื่อนด้วยกระแสไฟฟ้าเหมือนกัน

ต่างกันเพียงเล็กน้อยแค่ว่า รถยนต์ไฟฟ้าจะดึงกระแสไฟมาจากแบตเตอรี่ในรถ (ที่ชาร์จไฟแล้ว) ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าจะดึงกระแสไฟจากปลั๊กไฟที่เสียบกับเต้าเสียบตามผนังบ้าน

รถยนต์ไฟฟ้าชาร์จไฟที่ไหน?

จุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า มีในสถานีบริการน้ำมันหลักๆ ทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังมีตามตึกอาคารสำนักงาน โรงแรม ห้างสรรพสินค้า บางแห่งด้วย

ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถโหลดแอปพลิเคชันหาจุดชาร์จไฟมาใช้ได้แล้ว เช่น MEA EV, PlugShare, EA Anywhere, Evolt, EV Station, Charge Loma, PlugShare ฯลฯ

แต่ละแอพฯ จะแสดงจุดชาร์จไฟแตกต่างกัน จากการเชื่อมข้อมูลจุดชาร์จของผู้ให้บริการแต่ละราย

ซึ่งจากการสอบถามแหล่งข้อมูลที่เป็นผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าประจำ Charge Loma กับ PlugShare จะแสดงจุดชาร์จที่ครอบคลุมผู้ให้บริการหลากหลายเจ้าที่สุดในเวลานี้ (มิ.ย. 2565)

รถยนต์ไฟฟ้ามีข้อดีอย่างไร?

ข้อดีหลักๆ ของการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ข้อแรก คือ ประหยัดค่าเชื้อเพลิงรถ เพราะใช้ไฟฟ้าแทนการใช้น้ำมัน ซึ่งราคาต่างกันเยอะมาก

ข้อสอง คือ ลดการปล่อยมลพิษทางอากาศจนเหลือน้อยมาก และข้อสุดท้าย คือ ช่วยลดการใช้ทรัพยากรโลกอย่างน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ เนื่องจากสามารถใช้พลังงานทดแทนอื่น มาผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าได้ เช่น พลังงานลม พลังงานน้ำ

ข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้าล่ะ?

ไหนๆ พูดถึงข้อดีแล้ว ก็ขอพูดถึงข้อเสีย เพื่อช่วยเปรียบเทียบได้ดีขึ้น

ข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้า (ณ เวลานี้) คือ ยังหาจุดชาร์จไฟยาก เมื่อเทียบกับรถยนต์ใช้น้ำมันทั่วไปที่หาปั๊มน้ำมันได้ง่ายกว่า ทำให้หลายคนลังเลใจ เพราะคิดว่า สิ่งนี้อาจเป็นอุปสรรคเวลาขับรถท่องเที่ยวทางไกล

ข้อต่อมา คือ รถใช้เวลาชาร์จไฟนานกว่าการเติมน้ำมันหลายเท่าตัวมากๆ จนทำให้การเดินทางไกลไม่สะดวก (เดินทาง 4 ชม. ชาร์จ 1 ชม. ขึ้นไป ก็ไม่ไหวนะ!)

จึงพบมากว่า คนส่วนใหญ่ที่ตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า มักซื้อเพื่อการใช้สัญจรในเมือง เช่น จากบ้านไปออฟฟิศ เป็นส่วนใหญ่

นอกจากนี้ มักติดตั้งที่ชาร์จไฟไว้ที่บ้าน เพื่อชาร์จไฟเวลากลางคืน ไว้ใช้งานในเช้าวันรุ่งขึ้น เพราะเวลาการชาร์จไฟรถมันนานมากจริงๆ!

ส่วนข้อสุดท้าย คือ ค่าบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้า สูงกว่ารถยนต์ใช้เชื้อเพลิงทั่วไป

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็อย่างที่วงเล็บไว้ว่า “ณ เวลานี้” เพราะในอนาคตเมื่อบริษัทผู้ผลิตที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มกำลังการผลิต พัฒนา หรือขยายมากขึ้น

ก็มีโอกาสสูงที่จุดชาร์จไฟฟ้าให้รถจะเพิ่มมากขึ้นและครอบคลุมในทุกพื้นที่ แบตเตอรี่รถได้รับการพัฒนาให้ชาร์จไฟได้เร็วขึ้น จนไม่ใช้เวลานานมาก

และที่สำคัญ ค่าบำรุงรักษาก็ลดลง เพราะมีตัวเลือกผู้ให้บริการมากขึ้นกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยและหลากหลายขึ้นด้วย

รถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี?

ซื้อรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี คำตอบของคำถามนี้ขึ้นอยู่กับผู้ซื้อจริงๆ

การเลือกรถยนต์ไฟฟ้าไม่ต่างอะไรกับการซื้อรถยนต์ทั่วไปเลย ที่ขึ้นอยู่กับ ราคา ความชอบความถูกใจ รสนิยม เพราะทุกวันนี้ ผู้ผลิตรถทุกระดับต่างผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกมาแล้วทั้งนั้น ชอบแบบไหน ก็เลือกได้ตามความชอบจริงๆ

ไฟจะช็อตมั้ย ถ้ารถยนต์ไฟฟ้าขับลุยน้ำขัง หรือวิ่งผ่านแหล่งน้ำหรือน้ำท่วม?

คำถามยอดฮิต หรือข้อสงสัยยอดนิยมเลยก็ว่าได้ ก็พอขึ้นชื่อว่าเป็น “ไฟฟ้า” ก็ต้องย่อมไม่ถูกกับน้ำ ถ้าขับรถยนต์ไฟฟ้าไปเจอน้ำท่วม ไฟจะช็อตไหม?

คำตอบ คือ เราสามารถขับรถยนต์ไฟฟ้าเวลาฝนตกได้ เพราะระบบขับขี่และแบตเตอรี่รถมีการซีลปิดอย่างแน่นหนาแล้ว และตัวแบตเตอรี่ยังแยกออกจากโครงรถยนต์ด้วย

แต่หากฝนเริ่มตกหนักมากขึ้น จนถึงขั้นเสี่ยงจะเกิดเป็นน้ำท่วมขังได้ภายในเวลาไม่กี่ชม. (ดังที่เกิดเป็นประจำในกรุงเทพมหานครและพัทยา รวมถึงหลายเมืองใหญ่) ผู้ขับขี่ควรหาที่จอดที่ปลอดภัยและไปจอดตรงนั้นชั่วคราว เช่น ลานจอดรถบนตึกสูง

เพราะแม้ความเสี่ยงไฟช็อตจะต่ำมากถึงขั้นไม่มีเลย แต่การที่รถยนต์ไฟฟ้าแช่อยู่ในน้ำเป็นเวลานาน อาจเสี่ยงเกิดไฟฟ้ารั่วหรือก่อให้เกิดแก๊สพิษ

ในกรณีที่รถจมน้ำและเกิดฟองปุดๆ ในบริเวณ ให้รีบออกห่างจากจุดนั้นด่วน เพราะนั่นอาจหมายถึงมีแก๊สพิษรั่วไหลในบริเวณนั้น โดยเฉพาะในน้ำเค็ม เช่น น้ำทะเล จะมีความเสี่ยงไฟฟ้าช็อตหรือลัดวงจรสูงกว่าปกติ

สุดท้าย หากรถยนต์ไฟฟ้าจมน้ำจริงๆ ให้เรียกช่างลากรถที่รู้วิธีจัดการกับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ เพราะช่างที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะจะรู้วิธีจัดการกับรถประเภทนี้ และรู้ว่าเมื่อลากไปไว้ในลานจอดที่ปลอดภัยแล้วควรจอดห่างจากรถคันอื่นๆ เป็นรัศมี 15 เมตร เพื่อความปลอดภัยด้วย

หวังว่า บทความนี้ของ คาร์แทรค จะช่วยตอบข้อสงสัยยอดฮิตของคนที่สนใจรถยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV ได้

และสำหรับผู้ใช้รถ EV ที่ต้องการเพิ่มความปลอดภัยและวัดการทำงานของรถอย่างละเอียด Cartrack ให้บริการระบบ Fleet Management ที่ช่วย

  • ติดตามพิกัดรถทั่วไทย ป้องกันรถหาย แจ้งเตือนทันทีที่มีการสตาร์ทหรือดับเครื่อง
  • บันทึกข้อมูลการใช้งานรถ เพื่อบำรุงรักษาได้ตามเวลาที่เหมาะสมที่สุด และรู้ว่ารถใช้งานไปกับอะไรบ้าง

สำหรับเรื่องรถหายกับรถยนต์ไฟฟ้าข้อนี้สำคัญมาก เพราะเครื่องยนต์ของรถยนต์ไฟฟ้าค่อนข้างเงียบ แม้แต่จอดไว้ในพื้นที่โรงงาน สำนักงาน หรือหน้าบ้าน ก็อาจไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ ให้ Cartrack เป็นผู้ช่วยดูแลรถให้คุณ สบายใจหมดกังวล รับรองว่าคุ้มค่ามากกว่าแน่นอน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับองค์กรบริษัทหรือส่วนบุคคล โทรเลย 02-136-2929 หรือคลิกปุ่ม “ติดต่อเราฟรีที่นี่” เพื่อกรอกข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ

ขับรถในเมือง เจอน้ำท่วมปุบปับบ่อยๆ อยากออกรถ EV ไฟจะช็อตรึเปล่า? หืม ไฟช็อตได้จริงหรือ?