แบตเตอรี่ ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญของรถยนต์ที่ใช้เป็นแหล่งพลังงานหลักในการขับขี่ยานพาหนะ ซึ่งแบตเตอรี่จะทำหน้าที่จ่ายกระแสไฟฟ้าไปใช้ยังส่วนต่าง ๆ รวมถึงสามารถเก็บสะสมพลังงานไฟฟ้าเอาไว้ใช้เมื่อคราวจำเป็นได้อีก
เพราะฉะนั้นจะต้องมีการดูแลแบตเตอรี่อย่างถูกวิธี และใส่ใจในการดูแลรักษาอยู่เสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้แบตเสื่อมได้ง่าย เพราะเมื่อถึงเวลาที่แบตเสื่อม คุณอาจจะต้องเสียเวลามากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากต้องหารถคันอื่นมาช่วยจั๊มแบตเตอรี่ หรือหนักเข้าก็ต้องเอารถเข้าศูนย์เพื่อหาสาเหตุ แก้ไขซ่อมแซม และเพื่อไม่ให้เกิดเหตุแบตเสื่อมระหว่างที่คุณใช้รถ
วันนี้คาร์แทรค (CARTRACK) ผู้ให้บริการระบบ GPS ติดตามรถ และระบบจัดการยานพาหนะ จึงมีวิธีสังเกตอาการแบตเสื่อมของรถยนต์มาฝากกัน
อาการแบตเตอรี่เสื่อมของรถยนต์นั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการที่ห้องเครื่องมีอุณหภูมิความร้อนที่สูงเกินไป การเปิดอุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าในรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน หรือการจอดรถเอาไว้นานโดยไม่ได้ใช้งาน เมื่อกลับมาใช้แล้วก็พบว่าแบตเตอรี่เสื่อมสภาพไปแล้ว
นอกจากนี้ก็ยังมีสาเหตุมาจากความเคยชินของผู้ใช้รถ ที่มักจะจอดรถพร้อมกับการสตาร์ทเครื่องบ่อย ๆ ซึ่งจะทำให้มีความเสี่ยงในการเสื่อมของแบตเตอรี่รถยนต์เพิ่มมากขึ้นด้วยนั่นเอง
หลังจากทำความเข้าใจกับอาการแบตเตอรี่เสื่อมของรถยนต์แล้ว ทีนี้เรามาสังเกตกันดีกว่าว่า คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณกำลังเสื่อมสภาพ ซึ่งมีวิธีสังเกตได้ง่าย ๆ ดังต่อไปนี้
อาการสตาร์ทรถไม่ติด เป็นปัญหาสากลที่มีต้นเหตุสำคัญมาจากแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพหรือใกล้เสื่อมสภาพ คุณอาจจะสังเกตเห็นได้ชัดว่า จากการใช้รถยนต์ในแต่ละวัน รถยนต์ของคุณเริ่มทำงานไม่ปกติ โดยเฉพาะการสตาร์ทรถ ที่ใช้เวลายาวนานมากขึ้น กว่าจะสตาร์ทติดทีก็เล่นเอาเหนื่อย สาเหตุนี้นอกจากจะเป็นที่แบตเตอรี่แล้ว ก็ยังมีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดจากระบบไดสตาร์ทมีปัญหาได้อีกด้วย
สังเกตง่าย ๆ จากการขับรถตอนกลางคืน ถ้าคุณรู้สึกว่าไฟหน้ารถยนต์จากที่เคยส่องสว่าง ค่อย ๆ จางลงจนผิดปกติ นั่นก็หมายความว่า แบตเตอรี่รถยนต์ของคุณอาจจะกำลังมีปัญหาในเรื่องของการเก็บพลังงานไฟฟ้าหรือเริ่มเสื่อมสภาพแล้วก็ได้
เนื่องจากแบตเตอรี่รถยนต์เป็นแหล่งจ่ายพลังงานไฟฟ้าของทุกอุปกรณ์ที่ใช้ไฟในรถยนต์ เมื่อคุณใช้อุปกรณ์เหล่านั้นแล้วสังเกตเห็นความผิดปกติของการจ่ายไฟ ไฟไม่เข้า หรือไม่สามารถใช้งานได้
สาเหตุหลักก็มาจากแบตเตอรี่ที่กำลังเสื่อมสภาพนี่แหละ โดยคุณสามารถสังเกตง่าย ๆ จากไฟเหนือศีรษะในห้องคนขับ, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บริเวณด้านหน้าของคนขับ รวมไปถึงกระจกไฟฟ้าของตัวรถ ที่ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพเท่าที่ควร หากพบปัญหาเหล่านี้ ให้เดาได้เลยว่านั่นเป็นอาการแบตเสื่อมแน่ ๆ
รถยนต์บางคันใช้งานแบตเตอรี่มานานมากกว่าอายุการใช้งานที่ระบุเอาไว้ โดยแบตเตอรี่ส่วนใหญ่จะมีอายุการใช้งานราว ๆ 2 ปี ถ้ามากกว่านี้ แบตเตอรี่ก็อาจจะเสื่อมสภาพลงได้ ดังนั้นเพื่อให้การใช้งานอย่างต่อเนื่อง คุณควรเปลี่ยนแบตเตอรี่เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานตามระยะเวลาที่เหมาะสม
หากคุณจำไม่ได้ว่าแบตเตอรี่ที่คุณใช้อยู่ ใช้มากี่ปีแล้ว ก็ให้ทำการสังเกตจากฉลากหรือสัญลักษณ์ด้านข้างบริเวณแบตเตอรี่ ซึ่งจะมีระบุวันที่ที่เราเริ่มซื้อแบตเตอรี่เป็นครั้งแรก
ข้อสังเกตหลักของอาการแบตเสื่อมนั้น ส่วนใหญ่ก็จะมาจากความผิดปกติในการทำงานของระบบไฟฟ้าในส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์ ซึ่งคุณสังเกตได้โดยง่าย เมื่อคุณเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกตินั้นแล้ว ให้คุณจัดการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องและเพื่อความปลอดภัยขณะขับขี่รถยนต์บนท้องถนนนั่นเอง
หากคุณไม่ค่อยได้หมั่นตรวจเช็กสภาพของแบตเตอรี่ เริ่มต้นตอนนี้ก็ยังไม่สาย หรืออาจจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้รถในแต่ละวัน เพื่อการใช้งานแบตเตอรี่ที่จะสามารถยืดระยะเวลาได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ก็ควรดูแลถนอมสภาพของแบตเตอรี่อยู่เสมอ ทั้งการดูแลขั้วแบตเตอรี่ให้สะอาด การตรวจสภาพระดับน้ำกลั่น การเช็กระบบไฟชาร์จ รวมไปถึงการหลีกเลี่ยงใช้กระแสไฟมาก ๆ ในขณะที่อุณหภูมิต่ำ ก็ถือเป็นวิธีง่าย ๆ ที่คุณจะรักษาสภาพของแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน ห่างไกลอาการแบตเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร แถมยังไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่บ่อย ๆ อีกด้วย
แบตเตอรี่เป็นส่วนสำคัญของรถยนต์ที่ทำให้กระบวนการการทำงานต่าง ๆ ในรถเป็นไปด้วยความราบรื่น หากคุณรู้วิธีในการรักษาแบตเตอรี่และวิธีสังเกตอาการแบตเสื่อมแล้ว ก็อย่าลืมเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ของคุณให้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการติดตั้ง GPS ติดตามรถให้กับรถยนต์ของคุณ
นอกจากจะติดตามตำแหน่งของรถได้อย่างแม่นยำแล้ว GPS ติดรถยนต์นี้ยังช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยและคอยคำนวณปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้รถให้คุณได้สะดวกสบายในทุกการขับขี่มากขึ้นด้วย
รวมถึงช่วยป้องกันรถหายได้เหมือนกัน เพราะหากรถถูกขโมยไป GPS จะช่วยระบุตำแหน่งรถของคุณ ทำให้ติดตามเอาคืนได้ง่ายนั่นเอง เหมาะมากกับรถที่มีผู้ขับขี่หลายคน หรือรถที่ใช้งานในธุรกิจรถเช่า รถให้บริการรับส่งผู้โดยสาร ฯลฯ
ดังนั้นหากรถยนต์ของคุณยังไม่ติดตั้ง GPS และสนใจอยากจะติดตั้ง สามารถโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ได้โดยตรงที่ 02-136-2920 , 02-136-2921 ได้ในช่วงวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30 - 17.30 น. หรือกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มด้านบน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้เรายังมีบริการติดตั้งเซนเซอร์น้ำมัน เพื่อใช้งานร่วมกับกล่อง GPS ติดตามรถ หรือกล้อง AI ซึ่งเป็นกล้อง GPS ติดรถแบบ CCTV ใช้งานกับรถยนต์หรือรถบรรทุกได้ ราคาคุ้มค่า พร้อมยกระดับการทำงานให้ธุรกิจมีรถของคุณด้วยข้อมูลที่ชัดเจนและเป็นประโยชน์
สำหรับลูกค้าใหม่ CARTRACK! ติดตั้งวันนี้ ฟรีค่าติดตั้งและค่าอุปกรณ์กล่อง GPS จ่ายเพียงค่าบริการ พร้อมโปรโมชันพิเศษ รับเลยทันที โปรโมชันติดตั้ง GPS ติดรถยนต์ รถตู้ รถกระบะ GPS ติดรถบรรทุก จ่าย 10 เดือน ใช้ต่อเนื่อง 12 เดือน* (* เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)
ติดตาม CARTRACK (คาร์แทรค) เพิ่มเติมได้ที่
Facebook: Cartrack Thailand
Instagram: @cartrack.thailand
LINE: https://page.line.me/udi4517q?openQrModal=true หรือเข้าแอปฯ LINE เลือกเพิ่มเพื่อน เลือกค้นหา พิมพ์ @udi4517q ที่ ID และแอดเพื่อคุยสอบถามข้อมูลได้ทันที
อาการแบตเสื่อม อาการของแบตเตอรี่รถยนต์ ที่เกิดขึ้นได้ด้วยสภาพแวดล้อม อุณหภูมิ การใช้งาน หรืออายุของตัวแบต หากแบตรถเสื่อมจะมีอาการอย่างไร มาเช็กกับ CARTRACK