BLOGS

วิธีขับรถเกียร์ออโต้ ขับอย่างไรให้นิ่มเหมือนเป็นมือโปร

คุณต้องการให้ คาร์แทรค ช่วยเหลือเรื่องอะไร?

ฉันเป็น / ...
จำนวนยานพาหนะของคุณ
ขอบคุณค่ะ เจ้าหน้าที่คาร์แทรคจะติดต่อกลับหาคุณโดยเร็วที่สุด
Oops! Something went wrong while submitting the form.

วิธีขับรถเกียร์ออโต้ เคล็ดลับและเทคนิคเล็กๆน้อยๆที่ช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างนุ่มนวลมากขึ้น มีอะไรบ้าง ไปดูกัน…

ในปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่า รถยนต์ คือพาหนะที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตของมนุษย์อย่างมาก เนื่องจากผู้คนทุกคนจำเป็นต้องเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ถึงแม้ปกติเราจะสามารถเดินทางโดยใช้ระบบขนส่งสาธารณะได้อยู่แล้ว แต่ในพื้นที่บางแห่งที่ไม่มีรถยนต์สาธารณะผ่าน

การมีรถยนต์ส่วนตัวไว้ใช้งานก็จะเพิ่มความสะดวกง่ายดายให้กับการเดินทางได้ อีกทั้งการเดินทางด้วยรถยนต์ ยังช่วยให้คุณประหยัดเวลาลงไปได้เยอะ เพราะไม่ต้องต่อรถ 2 ทอด 3 ทอด ขับแค่รวดเดียวก็ไปถึงที่หมายได้แล้ว

รถยนต์ที่มีการผลิตออกมาจำหน่ายในปัจจุบัน สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ระบบใหญ่ๆ ได้แก่ รถยนต์เกียร์ธรรมดา และ รถยนต์เกียร์ออโต้ ในรถยนต์ 2 ระบบนี้ ระบบเกียร์ออโต้ คือระบบที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากขับสบาย เหยียบแค่เบรกกับคันเร่งเท่านั้น ไม่ต้องคอยเหยียบคลัทช์ ผ่อนคลัทช์ แบบรถเกียร์ธรรมดาที่กว่าจะออกรถได้ก็กินเวลาหลายวินาที ไม่ค่อยทันใจเท่าใด

ยิ่งในสถานการณ์ที่ต้องอาศัยความเร็วอย่างการยูเทิร์นรถยนต์ในแยกที่ไม่มีไฟแดงแล้ว มันดูไม่ค่อยปลอดภัยเอาเสียเลย อีกทั้งหากผ่อนคลัทช์ไม่ได้จังหวะกับเครื่องยนต์ รถก็จะกระชากแล้วก็ดับ ต้องมาสตาร์ทกันใหม่อีก  ในขณะที่เกียร์ออโต้ ลืมปัญหาเหล่านี้ไปได้เลย …

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ารถยนต์เกียร์ออโต้จะขับได้ง่าย ไม่ต้องอาศัยทักษะมาก แต่เราก็จำเป็นต้องรู้วิธีขับรถเกียร์ออโต้ เพื่อให้การขับรถทำได้อย่างดีมากขึ้น ขับแล้วนิ่มเหมือนเป็นมือโปร

วิธีขับรถเกียร์ออโต้ ให้มีประสิทธิภาพ มีดังต่อไปนี้

  1. ก่อนจะสตาร์ทรถ  –  ให้คุณตรวจดูตำแหน่งเกียร์ก่อนว่าอยู่ในตำแหน่งใด ซึ่งโดยทั่วไปควรอยู่ที่ตำแหน่ง P แต่ถึงคุณดูแล้วเกียร์จะอยู่ที่ตำแหน่ง P คุณก็ต้องตรวจให้แน่ใจอีกทีว่าคันโยกอยู่ที่ P จริงๆ เพราะเคยมีกรณีที่คันโยกของเกียร์ค้างอยู่ที่ P กับ R เมื่อสตาร์ทรถขึ้น ปรากฏว่ารถเกิดการกระชากจนเกียร์มาตกที่ตำแหน่ง R แบบไม่ได้ตั้งใจ ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ดังนั้นก่อนสตาร์ทรถ อย่าลืมดูตำแหน่งเกียร์ให้แน่ชัดด้วย
  2. เมื่อสตาร์ทรถแล้ว  –  ให้เหยียบเบรกเสมอ ก่อนจะทำการทดเกียร์ เพราะในบางเกียร์ เช่น R และ D จะเป็นเกียร์ที่ทำให้รถเคลื่อนที่ หากคุณเข้าเกียร์ทั้งๆ ที่ยังไม่เหยียบเบรก จะทำให้รถกระชาก หรือเกิดอุบัติเหตุเนื่องจากคุมรถไม่อยู่ เมื่อเข้าเกียร์ได้แล้ว จึงค่อยๆ ผ่อนเบรกจนรถเริ่มเคลื่อนตัวต่อไป
  3. ภายหลังจากที่ปล่อยเบรก  –  จนรถเริ่มเคลื่อนที่ไปข้างหน้า หรือถอยหลังตามเกียร์ที่คุณเลือกแล้ว อย่าเพิ่งรีบเหยียบคันเร่งทันที ลองประเมินความเร็วรถยนต์ในขณะนั้นก่อน ว่าเร็วหรือช้ามากน้อยเพียงใด และสภาพทางที่กำลังขับอยู่นั้นเหมาะสมกับการใช้ความเร็วมากน้อยแค่ไหน ถ้ารู้สึกว่าเร็วอยู่แล้ว คุณก็อาจจะกดคันเร่งเพียงเล็กน้อย หรือบางทีคุณอาจจะไม่จำเป็นต้องกดคันเร่งเลยก็ได้ แค่คอยควบคุมระบบเบรกแล้วให้รถเคลื่อนไปในทิศทางที่ต้องการ
  4. การควบคุมคันเร่ง  –  ระวังอย่าเหยียบคันเร่งแบบฉับพลัน เนื่องจากจะทำให้รอบเครื่องยนต์ของรถพุ่งสูงขึ้นอย่างผิดปกติ จนทำให้รู้สึกว่าขับรถไม่นิ่ม หากต้องการเร่งความเร็ว ให้ใช้วิธีค่อยๆ กดคันเร่งลงไป ให้รู้สึกว่ารถค่อยๆ เร็วขึ้น เมื่อได้ความเร็วที่ต้องการแล้ว ให้ค้างเท้าไว้ที่ความลึกจุดนั้น ไม่ต้องกดคันเร่งต่อไปอีก จะทำให้รถของคุณมีความเร็วคงที่แบบไม่จำเป็นต้องใช้เบรกช่วย
  5. เมื่อต้องการเบรก  –  ให้ถอนเท้าออกจากคันเร่ง แล้วค่อยๆ กดเบรก ตัวรถจะชะลอความเร็วลง จนกระทั่งหยุด หรือถ้าคุณต้องการให้รถเบรกในระยะที่ใกล้ขึ้น ให้คุณใช้แรงกดเบรกพอสมควร ไม่ต้องมาก โดยเมื่อกดลงไปแล้วครั้งหนึ่งให้ผ่อนเท้าออก จากนั้นกดเบรกลงไปใหม่ ทำย้ำๆ ซ้ำๆ คุณก็จะสามารถเบรกได้ในระยะที่ใกล้กว่าปกติ โดยยังคงความนิ่มนวลในการขับอยู่ ทั้งนี้ ขอให้คุณอย่าใช้วิธีกระทืบเบรกลงไปแบบสุดเท้าเลยเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดการเบรกแบบฉับพลันจนรถกระชาก คนในรถหัวพุ่งกันไปตามๆ กัน ยิ่งถ้าคุณมาด้วยความเร็วสูงมากๆ การเบรกแบบฉับพลัน อาจทำให้รถเสียการทรงตัว เกิดการพลิกคว่ำ หรือควบคุมรถไม่ได้จนเกิดอุบัติเหตุได้
  6. การจอดรถเกียร์ออโต้  –  ถ้าเป็นการจอดชั่วคราวอย่างเช่นจอดติดไฟแดง หรือจอดให้คนที่โดยสารมาด้วยลงไปทำธุระสักครู่ อย่าใช้วิธีเปลี่ยนเกียร์เป็นเกียร์ N ระหว่างการจอด เนื่องจากจะทำให้ระบบเกียร์สึกหรอได้เร็วกว่าปกติ อีกทั้งเกียร์ N เป็นเกียร์ธรรมชาติที่ไม่มีสิ่งใดห้ามรถไว้ หากคุณจอดรถด้วยเกียร์ N ไว้บนทางที่ค่อนข้างลาด รถอาจจะเกิดการไหลแบบไม่ได้ตั้งใจได้ ทางที่ดี ถ้าคุณจอดแค่ชั่วขณะ แนะนำว่าไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ ให้ค้างไว้ที่เกียร์ D นั้นเลย แล้วใช้วิธีเหยียบเบรกเอา แต่ในบางครั้งถ้าคุณต้องจอดรถเป็นเวลานานๆ จนเกิดอาการปวดเท้าขึ้น คุณจะเปลี่ยนเกียร์เป็น N ก็สามารถทำได้ แต่คุณต้องดึงเบรกมือขึ้นด้วย เพื่อป้องกันรถไหล

ทั้ง 6 ข้อนี้ ก็คือ วิธีขับรถเกียร์ออโต้ให้ดีเหมือนมือโปร จะเห็นได้ว่าคุณไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิคขั้นสูงอะไรเลย ใช้แค่วิธีการง่ายๆ คุณก็สามารถขับรถเกียร์ออโต้ได้คล่อง นิ่ม และไม่มีปัญหาตามมาระหว่างการขับแล้ว

วิธีขับรถเกียร์ออโต้ ง่ายกว่าการขับด้วยเกียร์ธรรมดาก็จริง แต่จะขับอย่างไรให้รู้สึกว่าขับได้นุ่มนวลราวกับมืออาชีพ มีเทคนิคและเคล็ดลับอย่างไร