ตั้งแต่ช่วงปี 2559 เป็นต้นมา กรมการขนส่งทางบก หรือ DLT ที่ควบคุมดูแลกฎหมายขนส่งโดยตรงในประเทศไทย ได้ออกกฎหมายการขนส่งที่เข้มงวดกับการเดินรถมากขึ้น สำหรับ กฎหมายรถบรรทุก และการบังคับให้ติดตั้ง GPS รถบรรทุก ในรถทุกคัน ไม่ว่าจะเป็นรถเทรลเลอร์ รถ 6 ล้อ รถ 10 ล้อ หรือรถพ่วง
ซึ่ง คาร์แทรค ได้รวบรวมเก็บความรู้เกี่ยวกับกฎหมายรถบรรทุก สิ่งจำเป็นที่ต้องทำ และโทษปรับอื่น ๆ ที่เจ้าของธุรกิจและคนขับรถบรรทุกไม่ควรพลาด มาสรุปเป็นหมวดหมู่ให้เข้าใจง่ายขึ้นแล้วในบทความนี้
กระทรวงคมนาคมออกกฎกระทรวงเรื่องส่วนควบและเครื่องอุปกรณ์สำหรับรถ เมื่อปี พ.ศ. 2551 และยังคงใช้มาถึงปัจจุบันไว้ดังนี้
การกำหนดน้ำหนักรถบรรทุก กำหนดขึ้นเพื่อดูแลเส้นทางการจราจรใหญ่เล็กต่าง ๆ ตั้งแต่ถนนใหญ่ไปจนถึงตรอกซอกซอย ไม่ให้ผุพังหรือทรุดโทรมก่อนกำหนดจากการใช้รถ และช่วยควบคุมการใช้รถให้เหมาะสมกับแต่ละเส้นทาง
กฎหมายรถบรรทุก ยังครอบคลุมไปถึงรถบรรทุกพ่วง หรือที่เราเรียกว่า รถพ่วงด้วย เช่น
นอกจากนี้ยังมีรถกึ่งพ่วงด้วย ดังนี้
สำหรับโทษของการฝ่าฝืนกฎหมายรถบรรทุก จะคิดในลักษณะอัตราทบทวี คือ จะเริ่มต้นการปรับที่ 10,000 บาท จากนั้นจะทบเพิ่มเป็น 30,000 บาท และกำหนดโทษขั้นสูงสุด ที่ 100,000 บาท
บทลงโทษนี้ครอบคลุมทุกห่วงโซ่ด้วย หากพบการฝ่าฝืนแอบลักลอบขนส่งสินค้าที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์
นอกจากบริษัทที่รับผิดชอบการขนส่ง ผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น คู่ค้าของบริษัทขนส่ง ผู้ใช้บริการขนส่ง บริษัทที่เป็นปลายทางที่รถบรรทุกไปส่งสินค้าให้ ฯลฯ จะถูกเรียกปรับไปด้วย เรียกได้ว่าโดนกันตั้งแต่เจ้าของธุรกิจที่เป็นผู้จ้าง ผู้ให้บริการขนส่งรถบรรทุก และผู้รับปลายทางเลยทีเดียว
การล็อกรถคอนเทนเนอร์หรือตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยไม่ให้สิ่งของร่วงหล่น หรือรั่วไหลในกรณีที่เป็นของเหลว
เพราะการไม่ล็อกคอนเทนเนอร์ มีส่วนเพิ่มความเสี่ยงในการขับขี่ต่อตัวรถคอนเทนเนอร์เอง และผู้ขับขี่ร่วมเส้นทางคนอื่น เป็นปัญหาที่ทำให้ตัวเลขสถิติอุบัติภัยบนท้องถนนเพิ่มขึ้นในทุกปี
สำหรับบทลงโทษการไม่ใช้สลักตู้คอนเทนเนอร์ หรือทวิสล็อก (Twist-lock) ผู้ขับขี่มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท ขณะที่ผู้ประกอบการเจ้าของรถบรรทุก มีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท
บริเวณอุปกรณ์สลักตู้คอนเทนเนอร์ หรือทวิสล็อก จะมีแผ่นสะท้อนแสงที่แสดงสถานะล็อก-ไม่ล็อก เพื่อให้ผู้ใช้รถร่วมเส้นทางได้สังเกตและระมัดระวังตัวเอง
หากอุปกรณ์สลักอยู่ในสถานะล็อก แผ่นสะท้อนแสงจะเป็นสีเหลืองหรือขาวตามแนวยาวของตัวรถ
แต่หากอุปกรณ์สลักอยู่ในสถานะไม่ล็อก แผ่นสะท้อนแสงจะเป็นสีแดงตามแนวยาวของตัวรถเช่นกัน
อุปกรณ์สะท้อนแสงและแผ่นสะท้อนแสง เป็นอุปกรณ์แสดงยานพาหนะบนท้องถนนในยามค่ำคืนที่สำคัญมาก เนื่องจากสถิติตัวเลขจากอุบัติเหตุรถชนระหว่างรถยนต์ส่วนบุคคลกับรถบรรทุกสิ่งของขนาดใหญ่ พบว่า ระยะความยาวและความกว้างของรถบดบังวิสัยทัศน์ของผู้ขับขี่หรือผู้ใช้รถใช้ถนนคันอื่น ๆ โดยเฉพาะการขับขี่ในเวลากลางคืน ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ หลายครั้งเป็นอุบัติเหตุร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต
ด้วยเหตุนี้ กฎหมายจึงริเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 กำหนดให้ รถโดยสารและรถบรรทุก ต้องติดตั้งอุปกรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็นตำแหน่งของรถในช่วงเวลากลางคืนหรือในสภาพที่มีแสงน้อย หรืออุปกรณ์สะท้อนแสงนั่นเอง
สำหรับรถโดยสารขนส่งบุคคล ให้ติดตั้งเฉพาะอุปกรณ์สะท้อนแสง
ส่วนรถบรรทุกทุกลักษณะต้องติดตั้งอุปกรณ์สะท้อนแสง และรถบรรทุกตั้งแต่ 2 เพลา 4 ล้อ ยาง 6 เส้น ขึ้นไป ที่มีความกว้าง 2.1 เมตร หรือยาว 6 เมตรขึ้นไป จึงจะต้องติดแผ่นสะท้อนแสงเพิ่ม
ทั้งนี้ หากเป็นรถเก่าที่ยังไม่ได้ติดตั้งให้ถูกต้อง ต้องทำให้แล้วเสร็จภายใน 1 มกราคม พ.ศ. 2562
หรือหากติดตั้งแล้ว แต่สีสันของแถบป้ายฯ ยังไม่ถูกต้อง ต้องแก้ไขภายใน 1 มกราคม พ.ศ. 2563 มิเช่นนั้นจะถูกโทษปรับโดยอ้างอิงกฎหมายรถบรรทุก ส่วน พรบ. ขนส่งทางบก ปี พ.ศ. 2522 คือ โทษปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท
กรมการขนส่งทางบก กำหนดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 ให้ รถโดยสาร รถลากจูง และรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไปต้องติดตั้ง GPS หรือระบบ GPS Tracking ติดตามรถ เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลการขับรถและการใช้ยานพาหนะกับศูนย์บริหารจัดการเดินรถของกรมขนส่งฯ ได้แบบเรียลไทม์
ทั้งนี้ GPS รถบรรทุก จะช่วยเรื่องการติดตามพฤติกรรมการขับรถได้แบบละเอียดและแม่นยำ ซึ่งผู้ใช้รถและเจ้าของรถสามารถนำข้อมูลไปปรับปรุงการใช้รถ ซึ่งช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้
โดยจากสถิติการร้องเรียนเหตุบนท้องถนนที่อุปกรณ์ GPS บันทึกได้ในเดือน พ.ค. 2565 พบครึ่งหนึ่งของการร้องเรียนเป็นเรื่องพฤติกรรมการขับขี่ที่เสียงของคนขับรถ เช่น พนักงานขับรถใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ มีอาการมึนเมา ง่วงนอน ขับรถเร็ว ขับรถบนทางเท้า ออกนอกเส้นทาง ฯลฯ นำมาซึ่งความเสียหาย ทั้งที่สามารถป้องกันได้ตั้งแต่เหตุยังไม่เกิด
ดังนั้น การติด GPS รถบรรทุก จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ประกอบการที่มีรถบรรทุก เพราะนอกจากจะเพิ่มความปลอดภัยในทรัพย์สินและสามารถติดตามการขนส่งของรถแต่ละคันได้แล้ว ยังสามารถควบคุมและติดตามพฤติกรรมการขับขี่ของคนขับ และยังช่วยให้เจ้าของธุรกิจมีข้อมูลการใช้รถไว้ควบคุมค่าใช้จ่ายการขนส่งหรือต้นทุนธุรกิจได้อีกด้วย
เครื่อง GPS รถบรรทุก ของคาร์แทรค (CARTRACK) รับรองโดยกรมขนส่งฯ ส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบ DLT โดยตรง ต่อภาษีรถง่ายและสะดวก ติดตั้งฟรี รับประกันตลอดอายุการใช้งาน เปลี่ยนคันรถได้ไม่ต้องทำสัญญาใหม่
สามารถโทรสอบถามข้อมูลเจ้าหน้าที่ CARTRACK ได้ที่หมายเลข 02-136-2920 , 02-136-2921 ได้ในช่วงวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30 - 17.30 น. หรือกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มด้านบน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้เรายังมีบริการติดตั้งเซนเซอร์น้ำมัน หรือกล้อง AI ติดรถ กล้องติดรถบรรทุก เพื่อใช้งานร่วมกับกล่อง GPS ติดรถได้อีกด้วย ได้ทั้งราคาคุ้มค่า และเป็น GPS กรมการขนส่งทางบกให้การรับรอง ให้ CARTRACK ช่วยดูแลรถในธุรกิจให้คุณ
สำหรับลูกค้าคนสำคัญเช่นคุณ! ติดตั้งวันนี้ ฟรีค่าติดตั้งและค่าอุปกรณ์ GPS จ่ายเพียงค่าบริการ พร้อมโปรโมชันพิเศษ รับเลยทันที โปรโมชันติดตั้ง GPS ติดรถเช่า รถยนต์ รถตู้ รถกระบะ GPS รถบรรทุก จ่าย 10 เดือน ใช้ต่อเนื่อง 12 เดือน* (* เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)
ติดตาม CARTRACK (คาร์แทรค) เพิ่มเติมได้ที่
Facebook: Cartrack Thailand
Instagram: @cartrack.thailand
LINE: https://page.line.me/udi4517q?openQrModal=true หรือเข้าแอปฯ LINE เลือกเพิ่มเพื่อน เลือกค้นหา พิมพ์ @udi4517q ที่ ID และแอดเพื่อคุยสอบถามข้อมูลได้ทันที
เก็บความรู้ กฎหมายรถบรรทุก 6 ล้อ 10 ล้อ ข้อบังคับการติดตั้ง GPS รถบรรทุก สิ่งจำเป็นที่ต้องทำ และบทลงโทษ โทษปรับ ที่เจ้าของธุรกิจและคนขับรถบรรทุก ไม่ควรพลาด