หลายท่านที่ออกไปดื่มในงานเลี้ยงหรือดื่มเบา ๆ ก่อนกลับบ้านอาจคิดว่าตัวเองขับรถกลับบ้านเองได้ ทว่าในความเป็นจริงแล้วแอลกอฮอล์ทำให้การทำงานของระบบประสาทส่วนกลางและสมองช้าลง ทำให้การตัดสินใจช้าลง นอกจากนี้แอลกอฮอล์ยังยับยั้งสารเคมีบางอย่างไม่ให้ไปสู่สมอง ทำให้ประสิทธิภาพในการมองเห็นและการได้ยินลดลง การขับรถในสภาวะดังกล่าวจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
บทความคาร์แทรคตอนนี้จึงจะมาพูดถึงโทษเมาแล้วขับตามกฎหมายที่คุณจะได้รับ หากคุณดื่มแอลกอฮอล์แล้วมาขับขี่บนท้องถนน บอกเลยว่าไม่คุ้มเสียแน่นอน อย่ารอช้า มาติดตามไปพร้อมกับ CATRACK ผู้ให้บริการระบบ GPS ติดตามรถและกล้อง AI ติดตามพฤติกรรมคนขับกันเลย
ล่าสุดกรมการขนส่งทางบกได้มีการกำหนดโทษทางกฎหมายสำหรับผู้ขับขี่ที่ขับขี่หลังจากที่ดื่มสุรา แอลกอฮอล์ หรือสิ่งมึนเมาต่าง ๆ โดยหากมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินที่กำหนด ก็จะถือว่าเมาแล้วขับ ดังนี้
การเมาแล้วขับเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการจราจรทางบก แต่กลับถูกหลาย ๆ คนมองข้าม ไม่ปฏิบัติตาม ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะโทษเมาแล้วขับเบาเกินไป ในวันที่ 4 มกราคม 2560 คณะรัฐมนตรีจึงเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการจราจรทางบกฉบับใหม่ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอร่าง โดยปรับอัตราโทษความผิดฐานเมาแล้วขับขึ้น
แม้ร่างจะผ่านตั้งแต่ปี 2560 แต่ต้องผ่านกระบวนการมากมาย กระทั่งปัจจุบันก็ยังไม่มีการประกาศใช้ พ.ศ. 2561 นี้เรายังใช้พระราชบัญญัติเดิมกันอยู่ และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม มาดูกันสักหน่อยดีกว่าว่าร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบกฉบับใหม่นี้ มีความผิดฐานอะไรบ้างที่เกี่ยวข้องกับผู้ขับขี่ยานพาหนะขณะมึนเมา ตลอดจนกฎหมายใหม่จะปรับโทษขึ้นหรือคงโทษเดิมในแต่ละฐานไว้อย่างไรบ้าง
ความผิดฐานนี้คือเมาแล้วขับเฉย ๆ ยังไม่ได้ชนใคร ยังไม่ได้ทำให้ใครบาดเจ็บ ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 (2) แต่ก็ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องเป่าวัดระดับแอลกอฮอล์ ผู้ขับขี่จะต้องได้รับโทษ ดังนี้
โทษเดิม: จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000 – 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
โทษที่จะปรับใหม่: จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 10,000 – 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่มีกำหนดไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่และยึดรถที่ใช้ไม่เกิน 7 วัน
ข้อนี้แปลว่าเมาแล้วขับ จากนั้นไปชนคนอื่นจนเขาบาดเจ็บ การบาดเจ็บแบ่งออกเป็นสองแบบ คือ แบบแรกบาดเจ็บทางกาย ซึ่งคงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก และแบบที่สองบาดเจ็บทางจิตใจ การบาดเจ็บทางจิตใจไม่ใช่อารมณ์ แต่เป็นการบาดเจ็บทางสมอง การทำงานของสมอง หรือระบบประสาท เช่น สลบ ความจำเสื่อม เป็นลมชัก
ดังนั้นถ้าขับรถขณะเมาชนไปเฉี่ยวคน ไม่โดนอะไรเลยนอกจากอากาศ แล้วคนคนนั้นดันตกใจและโกรธมาก การตกใจหรือโกรธเป็นเพียงอารมณ์ ไม่ใช่อันตรายแก่จิตใจ คนขับจะยังไม่ถือว่าผิดในฐานนี้ แต่ไปฐานเมาแล้วขับเฉย ๆ ตามข้อ 1.
สำหรับโทษเมาแล้วขับจนทำให้คนอื่นบาดเจ็บยังคงไว้แบบเดิม คือ จำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่าหนึ่งปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
ข้อนี้คือเมาแล้วขับ จากนั้นชนคนจนเป็นอันตรายสาหัส ส่วนอะไรคือสาหัสหรือไม่สาหัสนี่ คุณผู้อ่านไม่ต้องคิดเอง เพราะประมวลกฎหมายอาญาเขากำหนดไว้ให้แล้ว มีทั้งหมด 8 ประการด้วยกันคือ
โทษเมาแล้วขับชนิดนี้จะหนักกว่าชนคนบาดเจ็บธรรมดา ๆ ตามข้อ 2. โดยยังคงโทษเดิมเอาไว้ คือ จำคุกตั้งแต่ 2-6 ปี และปรับตั้งแต่ 40,000 – 120,000 บาท และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
กรณีนี้คือเมาแล้วขับ จากนั้นก็ไปชนคนตาย กรณีคนถูกชนบาดเจ็บแล้วเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ก็ถือว่าความผิดของคนขับรถเข้าฐานนี้เหมือนกัน สำหรับอัตราโทษเมาแล้วขับจนชนคนตายแต่เดิมแรงมากพออยู่แล้วจึงไม่มีการปรับเปลี่ยน คือ จำคุกตั้งแต่ 3-10 ปี และปรับตั้งแต่ 60,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
หากใครชะล่าใจ มองว่าค่าปรับ 10,000-20,000 บาทเป็นเรื่องเล็ก ลองคิดว่าคุณต้องนอนห้องขังในโรงพักอย่างน้อย 1 คืน ไปรอฟังคำพิพากษาในศาลที่มีนักโทษทุกประเภทนั่งรวมกันอยู่ แถมโดนยึดรถด้วย อย่างนั้นมันคุ้มกันหรือเปล่า หรืออย่างน้อยลองนึกว่าเป็นเราเองที่ต้องประสบอุบัติเหตุจากความประมาทของผู้อื่น คุณคงไม่รู้สึกดีแน่นอน
ดังนั้นควรขับขี่ด้วยความไม่ประมาท นึกถึงใจเขาใจเรา อย่าให้ความคึกคะนองมาบังตาจนเป็นเหตุให้คุณทำผิดกฎหมายด้วยการเมาแล้วขับเลยจะดีที่สุด
สำหรับธุรกิจมีรถที่สนใจหาอุปกรณ์ติดตั้งเสริม เพื่อติดตามหรือควบคุมพฤติกรรมคนขับรถว่ามีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะทำผิดกฎหมายหรือไม่ กล้องติดรถระบบ AI จาก CARTRACK ช่วยได้
ด้วยระบบกล้องที่มาพร้อม GPS ติดรถในตัว ได้ภาพวิดีโอฟุตเทจสำหรับเหตุการณ์เรียลไทม์ที่เกิดขึ้นในห้องโดยสาร สามารถนำไปใช้ประกอบการอบรม เพื่อปรับปรุงการขับขี่ของคนขับรถได้ง่าย ๆ
นอกจากนี้กล้องระบบ AI ยังมีความพิเศษคือสามารถตรวจจับพฤติกรรมเสี่ยงของคนขับรถ เช่น หาวบ่อยครั้ง, ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย, ใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างขับรถ รวมถึงการนำวัตถุมาบังเลนส์กล้องเพื่อป้องกันการจับภาพ ระบบกล้อง AI ก็จะแจ้งเตือนให้หยุดพฤติกรรมนั้นทันที
หากต้องการทดลองใช้งานระบบก่อนสั่งซื้อกล้องติดรถ ติดต่อเจ้าหน้าที่ CARTRACK ได้โดยตรง คลิกทดลองใช้ฟรี เพื่อกรอกข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ หรือโทร 02-136-2920 , 02-136-2921 ได้ในช่วงวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30 - 17.30 น.
พิเศษ! โปรโมชันสำหรับลูกค้าคนสำคัญเช่นคุณ รับเลยทันที โปรโมชันติดตั้ง GPS ติดรถยนต์ GPS ติดรถบรรทุก จ่าย 10 เดือน ใช้ต่อเนื่อง 12 เดือน* (* เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)
ติดตาม CARTRACK (คาร์แทรค) เพิ่มเติมได้ที่
Facebook: Cartrack Thailand
Instagram: @cartrack.thailand
LINE: https://page.line.me/udi4517q?openQrModal=true หรือเข้าแอปฯ LINE เลือกเพิ่มเพื่อน เลือกค้นหา พิมพ์ @udi4517q ที่ ID และแอดเพื่อคุยสอบถามข้อมูลได้ทันที
ปรับโทษเมาแล้วขับเพิ่มขึ้น เพื่อลดอัตราการเกิดเหตุ หากเมาแล้วขับชนคนตาย เมาแล้วขับชนคนบาดเจ็บ ต้องรับโทษอะไรบ้าง พร้อมแนะนำกล้อง AI ติดตามพฤติกรรมคนขับเรียลไทม์