BLOGS

latitude longitude คือ อะไร และสำคัญอย่างไร

คุณต้องการให้ คาร์แทรค ช่วยเหลือเรื่องอะไร?

ฉันเป็น / ...
จำนวนยานพาหนะของคุณ
ขอบคุณค่ะ เจ้าหน้าที่คาร์แทรคจะติดต่อกลับหาคุณโดยเร็วที่สุด
Oops! Something went wrong while submitting the form.

ปัจจุบันเทคโนโลยีการสื่อสาร เช่นอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง 4G และระบบการเชื่อมต่อที่ทันสมัยต่าง ๆ เป็นตัวกลางที่ทำให้คนเราเกิดไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ ทั้งสามารถตอบโจทย์การเดินทางใกล้และไกลแบบ backpack ได้อย่างสะดวกรวดเร็วขึ้น วันนี้เรามาดูกันว่า Latitude Longitude คือ อะไร และเกี่ยวข้องกับการหาตำแหน่งอย่างไร

ทั้งนี้ ในอดีตการเดินทางไปไหนมาไหน เช่น กรุงเทพไปเชียงใหม่ หากเราเป็นผู้ขับขี่รถเอง ก็ต้องอาศัยการเปิดแผนที่กระดาษและศึกษาอ่านค่าเส้นละติจูด ลองจิจูด (latitude longitude คือ ศัพท์เทคนิคทางภูมิศาสตร์) เพื่อหาตำแหน่งหรือโลเคชั่น (Location) ตัวเองและปลายทาง เพื่อการหาเส้นทาง (Route) ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเดินทาง

โดยเลี่ยงช่องทางที่มีอุปสรรคทางภูมิศาสตร์ ตาม สีในแผนที่ เช่น สีเขียวบนแผนที่ หมายถึงเป็นป่า สีน้ำตาล-เหลืองระดับต่าง ๆ คือความสูงของพื้นที่จากระดับน้ำทะเล เป็นต้น

ทว่าในปัจจุบันต้องยอมรับว่าเป็นข้อดีอย่างยิ่งของเทคโนโลยี ที่มีนวัตกรรมการสืบค้นทิศทาง ด้วยการกำหนดค่า latitude และ longitude ซึ่งคำทั้งสองนี้ มีความหมายอย่างไร เรามาดูวิธีการอธิบายอย่างง่าย จากผู้รู้หรือกูรูทางด้านภูมิศาสตร์กัน

เส้นละติจูด

หรือ latitude หมายถึง มุมที่วัดได้ จากแนวเส้นขนานพื้น โดยกำหนดให้ค่าเส้นศูนย์สูตรโลกเป็นศูนย์ เช่น ขั้วโลกด้านหัวและท้าย ของรูปลูกโลกที่เราเห็นจากแผนที่ภูมิศาสตร์ตั้งแต่ชั้นมัธยม หากระบุเป็นเส้นละติจูดจะได้ว่า ขั้วโลกเหนือคือ ละติจูด 90 องศาเหนือ ส่วนขั้วโลกใต้ ก็ละติจูด 90 องศาใต้ เป็นต้น

เส้นลองจิจูด

หรือ longitude เป็นเหมือนการผ่าแตงโมในแนวที่สับจากด้านบนลงล่าง โดยแนวแกนกลางของแตงโม ก็เหมือนกับเส้นแกนศูนย์ของลองจิจูด ทำให้เกิดการแบ่งโซนภูมิศาสตร์โลกเป็นทวีปต่าง ๆ

โดยมีการกำหนดเส้นเมริเดียนหรือ Meridian ที่ลากผ่านเมืองสำคัญของโลกที่ชื่อว่าเมืองกรีนิช (Greenwich) ซึ่งอยู่ในประเทศอังกฤษ ให้เป็นเส้นลองจิจูดหลัก คือจุดเริ่มต้นในการนับ หรือเรียกว่า เส้นกรีนิช ลองจิจูดศูนย์องศา การอ่านค่าเส้นลองจิจูด จึงนับไปเป็นแนว องศาตะวันตก หรือ องศาตะวันออก โดยจะอ้างอิงจากเส้น meridian ที่สำคัญ ๆ นั่นเอง

ดังนั้น เรียกได้ว่า เส้น latitude longitude คือ รหัสลับทางภูมิศาสตร์ที่น่าค้นหา ขณะเดียวกันก็ช่วยให้เราสามารถหาพิกัดของตัวเอง และพิกัดทางภูมิศาสตร์ของสถานที่ได้ทุกแห่งในโลกเลยทีเดียว

แต่ก่อนที่จะอ่านรหัสลับของ latitude longitude ได้นั้น จำเป็นต้องทราบหลักการในการอ่านค่า latitude-longitude โดยการอ่านค่า latitude longitude ในการ search จาก Google map สามารถใช้หลักการ ดังนี้

  1. กำหนดให้ใช้ตัว d ในการแทนสัญลักษณ์คำว่า องศา ซึ่งเป็นการระบุพิกัดทางภูมิศาสตร์
  2. จะใช้จุดทศนิยม ไม่มีการใช้เครื่องหมาย “จุลภาค” ( , )
  3. จะใส่ค่าตัวเลขละติจูดเป็นลำดับที่ 1 ตามด้วยค่าตัวเลขลองจิจูดเป็นลำดับต่อมา
  4. สังเกตได้ว่า ค่าตัวเลขแรกสุด หรือ ซ้ายสุดของแกนคือ ลบ 90 องศา ส่วนขวาสุด คือ บวก 90 องศา สำหรับค่าละติจูด
  5. ส่วนค่าตัวเลขของลองจิจูด ค่าน้อยสุดคือ ลบ 180 องศา และสูงสุด คือ บวก 180 องศา

เริ่มเห็นแล้วใช่ไหมว่า ไม่เป็นเรื่องยากเกินไปที่จะทำความเข้าใจพิกัดทางภูมิศาสตร์ด้วยค่าละติจูดและลองจิจูด

ขั้นต่อไป คือการลองหาพิกัดสถานที่ใด ๆ ใน กูเกิลแมพ ดู โดยการ คลิ๊กขวา ที่สถานที่ เช่น วัดพระแก้วฯ ก็จะเห็นพิกัดปรากฏขึ้นมาในทันที หรือหากเราได้รับรหัสมาว่า latitude longitude คือตัวเลขอะไรบ้าง ก็สามารถมาคีย์ในช่อง Search ใน “Google Maps” ได้เช่นกัน

ละติจูด และ ลองติจูด ถูกนำมาใช้งานในหลายรูปแบบ

การบอกพิกัด หรือการระบุตำแหน่งต่างๆเหล่านี้ ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับ ระบบ GPS เพื่อให้ได้ความแม่นยำ และทำให้เข้าถึงง่าย ไม่ยุ่งยากอีกต่อไป ซึ่งใครก็สามารถใช้งานและทำความเข้าใจได้ไม่ยาก และยังจำเป็นต่อการประกอบอาชีพหรือการทำงานบางอย่างด้วย

ซึ่งในปัจจุบันจะเห็นว่าไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องภูมิศาสตร์ จึงจะใช้ประโยชน์จากการอ่านข้อมูลพิกัดละติจูด ลองจิจูดได้ แม้ที่จริงแล้วข้อมูลนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องศึกษาให้ถ่องแท้สำหรับผู้ที่มีหน้าที่หรืออาชีพเฉพาะทางบางอย่าง ได้แก่

นักบิน

ที่จำเป็นต้องศึกษาพิกัดในการเดินทางบนน่านฟ้า ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีเลนถนน ไม่มีป้ายจราจรอย่างบนพื้นดิน การอ่านค่าทางภูมิศาสตร์ได้จึงเป็นหนึ่งในพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับอาชีพนี้

อาชีพ ATC หรืองานควบคุมการจราจรทางอากาศ

เป็นอาชีพที่ทำหน้าที่ประสานเส้นทางการบิน คล้ายเจ้าหน้าที่จราจรบนภาคพื้นดิน เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องบินชนิดต่าง ๆ ที่แล่นด้วยความเร็วต่างกัน มาจากทิศทางต่างกัน เกิดการปะทะชนกันได้

นักโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับพัฒนาระบบควบคุมการจราจรทางอากาศ

เป็นอาชีพที่นอกจากต้องมีพื้นฐานในการเป็น computer programmer แล้ว ยังต้องมีความรู้เพิ่มเติมในส่วนของภูมิศาสตร์จึงจะสามารถพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ มาตอบโจทย์การจัดสรรเส้นทางจราจรทางอากาศให้ดียิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ

นักเดินทางแนวธรรมชาติ

เช่น นักไต่เขา-ปีนหน้าผา นักสำรวจภายในถ้ำ นักสำรวจใต้ผืนน้ำ เช่น ทะเล มหาสมุทร จำเป็นต้องใช้เข็มทิศในการอ่านพิกัด เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและต้องปฏิบัติภารกิจการงานให้สำเร็จด้วย

นักพยากรณ์อากาศ

ผู้ที่ทำงานด้านอุตินิยมวิทยา เป็นงานที่ต้องมีความเข้าใจเรื่องพิกัด latitude longitude เป็นอย่างดี และต้องสามารถคาดการณ์ได้อย่างค่อนข้างแม่นยำ เพื่อเตือนภัยแก่ประชาชนทั่วโลก ซึ่งสำคัญต่อการป้องกันอุบัติภัย เช่น ลมทะเลแรง เรือเล็กงดออกจากฝั่ง เป็นต้น

รวมถึงที่สำคัญมาก ๆ อย่างสภาพอากาศที่เสี่ยงต่อการเกิดเหตุการณ์สึนามิมีที่จุดใดบ้าง หากสามารถพยากรณ์ได้อย่างแม่นยำล่วงหน้าเป็นเวลานานขึ้น ก็จะทำให้ลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนได้เป็นอย่างมาก

การมีความรู้ความเข้าใจ ในเรื่องพิกัด latitude longitude คือ อะไร สำหรับคนทั่วไป ส่วนใหญ่เพื่อการค้นหาเส้นทาง การหาตำแหน่งของปลายทาง เพื่อการบริหารจัดการวางแผนเรื่องการเดินทาง เช่น การตั้งงบประมาณค่าน้ำมันเชื้อเพลิงหรือค่าแก๊สธรรมชาติที่ต้องใช้สำหรับเครื่องยนต์ในการเดินทาง หรือ คำนวณเวลาเพื่อการจัดตารางเวลานัดหมายต่าง ๆ อย่างเป็นแบบแผน เป็นต้น

latitude longitude คืออะไร และสำคัญอย่างไร เส้นรุ้งและเส้นแวง กับการเดินทาง ปัจจุบันยังสำคัญอยู่หรือไม่