ระบบการขนส่งและโลจิสติกส์ ถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบธุรกิจคมนาคมที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ทั้งระบบการขนส่งในประเทศและระหว่างประเทศ มีบริการโลจิสติกส์และเดลิเวอรี่ (Delivery) เติบโตมากมายในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา สิ่งที่สำคัญที่จะทำให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้เป็นอย่างดี เป็นที่ประทับใจของผู้ใช้บริการก็คือ การมีระบบจัดการการขนส่งที่ดี
ในบทความนี้ CARTRACK (คาร์แทรค) ผู้ให้บริการระบบจัดการขนส่งและระบบจัดการยานพาหนะด้วย GPS จึงขอพามารู้จักกับความสำคัญและรูปแบบของการขนส่ง หรือ Transport Management ทั้ง 5 รูปแบบว่ามีจุดเด่นและเหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าประเภทใดบ้าง
การขนส่ง (Transportation) คือ การเคลื่อนย้ายคน (People), สินค้า (Goods) หรือ บริการ (Services) จากตำแหน่งสถานที่หนึ่งไปยังอีกตำแหน่งสถานที่หนึ่ง โดยใช้โครงสร้างพื้นฐาน, ยานพาหนะ และ วิธีดำเนินการที่แตกต่างกันออกไป
ในปัจจุบันการขนส่งสามารถแบ่งออกเป็น 5 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่…
จำแนกเป็น 2 รูปแบบ…
1. การขนส่งทางรถยนต์ (Motor Transportation) หรือ รถบรรทุก (Truck Transportation) เช่น รถเทรลเลอร์ รถพ่วง รถบรรทุกขนส่งห้องเย็น ฯลฯ ที่ในปัจจุบันเป็นที่นิยมอย่างมาก เหมาะสำหรับขนส่งสินค้าขนาดกลางไปถึงขนาดใหญ่ สะดวก รวดเร็ว ขนส่งสินค้าได้ตลอดเวลาตามความต้องการ และการขนส่งทางรถยนต์อีกรูปแบบคือ การขนส่งโดยใช้รถจักรยานยนต์ (Motorcycle) ที่จะเหมาะกับสินค้าขนาดเล็ก-กลาง ในระยะการขนส่งสั้น ๆ เท่านั้น
2. การขนส่งทางรถไฟ (Railroads) เป็นเส้นทางการขนส่งที่สำคัญอีกทางหนึ่ง ซึ่งเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในยุคสมัยก่อน หรือยุคบุกเบิกการขนส่งเลยก็ว่าได้ แม้ในปัจจุบันจะได้รับความนิยมลดน้อยลงก็ตาม เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าที่มีน้ำหนักและปริมาณมากในระยะทางไกล มีอัตราค่าบริการไม่แพงมากนัก และขนส่งสินค้าได้จำนวนมากหลายชนิด
การขนส่งรูปแบบนี้จะใช้เส้นทางลำเลียงสินค้าใส่เรือแล้วเดินทางผ่าน แม่น้ำ, ลำคลอง, ทะเล ส่วนใหญ่ใช้สำหรับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเหมาะสมกับสินค้าที่มีขนาดใหญ่ ขนส่งได้ปริมาณมาก เป็นสินค้าที่ยากแก่การเสียหาย เช่น หิน ทราย ข้าว เป็นต้น ซึ่งอัตราค่าขนส่งจะถูกกว่าเมื่อเทียบกับการขนส่งทางอื่น ๆ อีกทั้งยังสามารถบรรทุกสินค้าได้ในปริมาณที่เยอะ และสามารถส่งในระยะไกล ๆ ได้ ข้อเสียคือ ระยะเวลาที่ใช้ในการขนส่งไม่แน่นอน
การขนส่งทางอากาศเป็นรูปแบบที่เหมาะกับการขนส่งระหว่างประเทศ หรือการขนส่งที่ต้องการความรวดเร็วสูง สะดวกและปลอดภัย โดยส่วนใหญ่แล้วจะขนส่งสินค้าด้วยยานพาหนะ ‘เครื่องบิน’ เหมาะกับการขนส่งสินค้ามูลค่าสูง ประเภทที่เปราะบางและอาจเกิดความเสียหายง่าย ไม่เหมาะกับสินค้ามูลค่าต่ำ สินค้าที่มีขนาดใหญ่ และมีน้ำหนักมากเกินไป ซึ่งการขนส่งทางอากาศจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า เมื่อเทียบกับการขนส่งประเภทอื่น ๆ
เป็นการขนส่งสินค้าประเภทของเหลวและก๊าซ ผ่านสายเดิน ท่อ ที่ติดตั้งไว้ เช่น น้ำประปา น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น ซึ่งการขนส่งทางท่อจะแตกต่างกับการขนส่งประเภทอื่นตรงที่อุปกรณ์ที่ใช้ในการขนส่งไม่ต้องเคลื่อนที่ โดยเส้นทางขนส่งทางท่ออาจจะอยู่บนดิน ใต้ดินหรือใต้น้ำ ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ ทำให้กำหนดเวลาการขนส่งได้แน่นอนชัดเจน ประหยัดต้นทุน เวลาในการขนย้ายสินค้า และมีความปลอดภัยสูงจากการสูญหายหรือลักขโมย ใช้กำลังคนน้อย ซึ่งมีข้อเสียตรงที่ขนส่งได้เฉพาะสินค้าที่เป็นของเหลวหรือก๊าซเท่านั้น และมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนครั้งแรกสูงมาก
การขนส่งรูปแบบคอนเทนเนอร์จะเป็นการบรรจุสินค้าลงใน ตู้ หรือ กล่องเหล็กขนาดใหญ่ แล้วทำการขนส่งโดย รถบรรทุก รถไฟ เรือ หรือเครื่องบิน ไปยังจุดหมายปลายทาง โดยไม่มีการขนถ่ายสินค้าออกจากตู้ระหว่างทำการขนส่งเที่ยวนั้น ซึ่งตู้คอนเทนเนอร์ทนทานต่อสภาพลมฟ้าอากาศ จึงสามารถป้องกันสินค้าชำรุดเสียหายได้เป็นอย่างดีนั่นเอง
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูล ความหมาย และ ประเภท ของการขนส่ง ที่คาร์แทรคได้นำมาฝากกัน ซึ่งในปัจจุบันการขนส่งมีความเจริญก้าวหน้าและมีการพัฒนาไปไกลมากยิ่งขึ้น มีวิธีการขนส่งโดยใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ควบคู่ไปด้วยมากมาย ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถเลือกวิธีการขนส่งได้หลายวิธี ดังนั้นเราจึงควรศึกษาวิธีการแต่ละรูปแบบ และเทคโนโลยีที่เพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง ให้เหมาะสมกับธุรกิจของตนเอง
หากธุรกิจของคุณต้องใช้ยานพาหนะในการดำเนินงาน ไม่ว่าจะมีจำนวนรถเพียงหนึ่งคัน ร้อยคัน หรือพันคันก็ตาม โปรแกรมจัดการยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่ง (Fleet Management) จาก คาร์แทรค (Cartrack) พร้อมช่วยจัดการการใช้งานรถให้คุณ สามารถตรวจสอบระยะทางในการใช้รถ ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ หรือแม้แต่ติดตั้ง GPS ติดตามรถขนส่ง และกล้องเรียลไทม์อัจฉริยะ เพื่อติดตามดูแลพฤติกรรมของพนักงานขับรถ และนำมาข้อมูลเหล่านี้มาใช้วิเคราะห์ ปรับเปลี่ยน และลดต้นทุนให้กับธุรกิจได้อย่างง่ายดาย
สนใจใช้บริการระบบจัดการรถ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบ GPS ติดรถ สามารถโทรสอบถามข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ CARTRACK ได้ที่หมายเลข 02-136-2920 , 02-136-2921 ได้ในช่วงวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30 - 17.30 น. หรือกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มด้านบน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด
เรายังมีบริการติดตั้งเซนเซอร์วัดระดับน้ำมัน เพื่อใช้งานร่วมกับกล่อง GPS ติดรถ หรือกล้อง AI ติดรถ กล้องติดรถยนต์ รถบรรทุกได้อีกด้วย ราคาคุ้มค่า พร้อมยกระดับการทำงานให้ธุรกิจมีรถของคุณด้วยข้อมูลที่ชัดเจนและเป็นประโยชน์
สำหรับลูกค้าคนสำคัญ! ติดตั้งวันนี้ ฟรีค่าติดตั้งและค่าอุปกรณ์กล่อง GPS จ่ายเพียงค่าบริการ พร้อมโปรโมชันพิเศษ รับเลยทันที โปรโมชันติดตั้ง GPS ติดรถยนต์ รถตู้ รถกระบะ GPS ติดรถบรรทุก จ่าย 10 เดือน ใช้ต่อเนื่อง 12 เดือน* (* เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)
ติดตาม CARTRACK (คาร์แทรค) เพิ่มเติมได้ที่
Facebook: Cartrack Thailand
Instagram: @cartrack.thailand
LINE: https://page.line.me/udi4517q?openQrModal=true หรือเข้าแอปฯ LINE เลือกเพิ่มเพื่อน เลือกค้นหา พิมพ์ @udi4517q ที่ ID และแอดเพื่อคุยสอบถามข้อมูลได้ทันที
การขนส่ง กระบวนการสำคัญในระบบโลจิสติกส์ ช่วยให้สินค้าถึงมือผู้บริโภค รู้จักรูปแบบของการขนส่งให้มากขึ้น พร้อมระบบจัดการขนส่ง transport management ตัวช่วยธุรกิจ
