BLOGS

เทคนิคเลือกใช้น้ำมันรถให้เหมาะกับรถคุณ

สนใจใช้งาน GPS ติดรถ Cartrack วันนี้ ปรึกษาฟรี!

ฉันเป็น / ...
จำนวนยานพาหนะของคุณ
ขอบคุณค่ะ เจ้าหน้าที่คาร์แทรคจะติดต่อกลับหาคุณโดยเร็วที่สุด
Oops! Something went wrong while submitting the form.

น้ำมันรถ คือส่วนสำคัญของรถ หากเราเลือกใช้น้ำมันรถที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับรถแล้ว ย่อมทำให้รถมีอายุการใช้งานและสมรรถนะการขับเคลื่อนที่ดี

ในการใช้งานรถทุกวันนี้ ผู้ใช้รถทุกท่านนอกจากจะต้องดูแลยานพาหนะให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานแล้ว ยังต้องคำนึงถึงการเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงกับรถของคุณด้วย เพื่อประสิทธิภาพในการขับขี่ที่เต็มสมรรถนะ และสามารถยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ให้ยาวนานได้มากกว่าเดิม 

ทั้งนี้หลายคนอาจจะยังไม่แน่ใจว่า เราใช้น้ำมันรถที่ถูกต้องและเหมาะสมอยู่หรือไม่ วันนี้คาร์แทรค ผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ GPS ติดตามรถและเซนเซอร์น้ำมัน จึงขอนำข้อมูลดี ๆ มาฝากกัน เพื่อให้คุณสามารถใช้น้ำมันรถได้อย่างเหมาะสมกับรถของคุณ และไม่เกิดผลเสียตามมานั่นเอง

ทำไมต้องใช้น้ำมันรถให้เหมาะสมกับรถแต่ละประเภท

เนื่องด้วยน้ำมันแต่ละประเภทนั้น มีความเหมาะกับการนำมาใช้งานกับประเภทรถที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นหากคุณใช้น้ำมันผิดประเภทก็อาจจะส่งผลเสียต่อตัวเครื่องยนต์ได้ ซึ่งคุณจำเป็นจะต้องเช็กเครื่องยนต์กับทางศูนย์ว่ารถที่คุณใช้อยู่นั้นรองรับน้ำมันชนิดใด เกรดใด เพื่อจะได้เลือกใช้ได้อย่างถูกต้อง

ประเภทของน้ำมันรถ

ก่อนอื่นผู้ใช้รถต้องทำความเข้าใจขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับประเภทของน้ำมัน ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ก็คือ น้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ โดยสองประเภทนี้จะมีความแตกต่างของส่วนผสมและสารประกอบหลักที่แตกต่างกันไป ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้

น้ำมันดีเซล

สำหรับน้ำมันดีเซลเป็นรูปแบบเชื้อเพลิงที่นิยมใช้กับรถบรรทุก ส่วนน้ำมันไบโอดีเซลจะนิยมใช้กับเครื่องยนต์ทางการเกษตร รวมถึงรถยนต์หลายรุ่นจากหลายแบรนด์ในท้องตลาด เนื่องจากมีการเผาไหม้ที่ดี ช่วยให้เครื่องยนต์โดยเฉพาะเครื่องยนต์ของรถที่มีขนาดใหญ่ สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ 

โดยน้ำมันดีเซลจะมีการแบ่งระดับคุณภาพน้ำมันแยกย่อยลงไปอีก คือ น้ำมันพรีเมียมดีเซล ที่จะมีราคาสูงที่สุดในบรรดาน้ำมันดีเซล น้ำมันไบโอดีเซล B7 น้ำมันไบโอดีเซล B10 และ น้ำมันไบโอดีเซล B20 ซึ่งได้รับการปรับปรุงคุณภาพให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่สุด

แต่ข้อจำกัดในการเลือกใช้งานน้ำมันดีเซลและไบโอดีเซลคือต้องเลือกน้ำมันที่ได้คุณภาพจริง ๆ ไม่เช่นนั้นอาจจะส่งผลต่อส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ให้เสื่อมสภาพเร็วได้

น้ำมันเบนซิน 95

น้ำมันรถที่มีราคาสูงกว่าน้ำมันทั่ว ๆ ไปในท้องตลาด เนื่องจากไม่มีสารประกอบเอทิลแอลกอฮอล์มาเป็นส่วนผสม ทำให้เกิดการเผาไหม้ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เต็มสมรรถนะลื่นไหลในทุกการขับขี่ไม่มีน็อคระหว่างทาง ซึ่งผู้ที่ใช้รถน้ำมันเบนซินอยู่แล้ว สามารถเติมน้ำมันชนิดนี้ได้ แต่อาจจะต้องยอมรับในราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าน้ำมันชนิดอื่น

น้ำมันเบนซิน 91

น้ำมันรถชนิดนี้มีความแตกต่างจากน้ำมันเบนซิน 95 ตรงที่ แม้จะไม่มีเอทิลแอลกอฮอล์มาเป็นส่วนผสม แต่ค่าออกเทนจะมาในอัตราที่ต่ำกว่าเบนซิน 95 ทำให้สมรรถนะของตัวรถระหว่างขับขี่ เป็นไปอย่างลื่นไหล ไม่มีน็อค แต่ก็ยังสมบูรณ์ไม่เท่าเบนซิน 95 

โดยรถที่สามารถใช้น้ำมันประเภทนี้ได้ ก็คือรถยนต์ที่เติมน้ำมันเบนซินอยู่แล้ว ซึ่งรถคันนั้นต้องไม่ใช่รถประเภทที่มีข้อระบุว่า “เติมน้ำมันเบนซิน 95 เท่านั้น”

น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95

น้ำมันที่มีส่วนประกอบของน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วและเอทิลแอลกอฮอล์ ซึ่งคุณสมบัติในการใช้งานน้ำมันรถประเภทนี้ ก็จะมีความคล้ายกับน้ำมันเบนซิน 95 แต่มีราคาถูกกว่า และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91

น้ำมันชนิดมีส่วนประกอบของน้ำมันเบนซินพื้นฐานและเอทิลแอลกอฮอล์ ในอัตราส่วน 9:1 ทำให้มีคุณสมบัติในการใช้ทดแทนน้ำมันเบนซิน 91 ได้ แต่สมรรถนะในการใช้งานหรือขับขี่จะยังคงเป็นรองน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 โดยรถยนต์ที่ใช้งานน้ำมันชนิดนี้ได้ จะต้องเป็นรถประเภทที่มีข้อระบุว่า “สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ได้”

น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 (น้ำมันเบนซิน E20)

น้ำมันรถประเภทนี้จะมีส่วนผสมของน้ำมันเบนซินพื้นฐานและเอทิลแอลกอฮอล์ ในอัตราส่วน 80:20 เป็นน้ำมันที่ต้องสังเกตให้ดีก่อนใช้งานว่ารถที่คุณใช้งานอยู่รองรับน้ำมันชนิดนี้หรือไม่ เพราะไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะทำให้เกิดความเสียหายของเครื่องยนต์ตามมา เช่น สตาร์ทเครื่องไม่ติด, รถวิ่งไม่ลื่นไหล, เครื่องสะดุด ฯลฯ

น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85

น้ำมันที่มีส่วนผสมของน้ำมันเบนซิน และเอทิลแอลกอฮอล์ ในอัตราส่วน 15:85 เป็นน้ำมันที่เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ที่ไม่ได้ใช้งานหนัก ไม่เน้นเรื่องการขับขี่แรงๆ แต่อาจจะสิ้นเปลืองน้ำมันมากทีเดียว เนื่องด้วยน้ำมันประเภทนี้มีการระเหยของน้ำมันที่รวดเร็วกว่าน้ำมันประเภทอื่นนั่นเอง

เมื่อรู้แบบนี้แล้วก็ควรเลือกน้ำมันที่เหมาะสมกับประเภทรถของคุณจะดีที่สุด เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มสมรรถนะ ไม่เกิดความเสียหายหรือชำรุดระหว่างใช้งาน อีกทั้งยังเป็นการยืดอายุของเครื่องยนต์ให้มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

ผลกระทบที่เกิดขึ้น เมื่อใช้น้ำมันรถผิดประเภท

จากที่ทราบกันไปแล้วว่าน้ำมันแต่ละประเภท จะมีความเหมาะกับรถที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงควรเลือกน้ำมันรถให้เหมาะกับรถของคุณมากที่สุด ซึ่งหากเลือกใช้น้ำมันไม่เหมาะสม ก็จะทำให้เกิดผลเสียเหล่านี้ตามมาได้

  1. เครื่องยนต์ติด ๆ ดับ ๆ
  2. เครื่องยนต์สะดุดระหว่างใช้งาน
  3. เร่งเครื่องไม่ขึ้น
  4. เครื่องยนต์ดับอย่างไม่ทราบสาเหตุ
  5. อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในเครื่องยนต์มีการอุดตัน หรือทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

วิธีแก้ไข เมื่อใช้น้ำมันที่ไม่เหมาะกับรถของตนเอง

เมื่อเผลอใช้น้ำมันที่ไม่เหมาะกับรถ จนทำให้เกิดผลเสียตามข้างต้น คาร์แทรคขอแนะนำให้แก้ไขเบื้องต้นด้วยวิธีดังต่อไปนี้

ห้ามสตาร์ทรถ

เมื่อรู้ว่าเติมน้ำมันรถผิดประเภทให้คุณดับเครื่อง ห้ามสตาร์ทรถเด็ดขาด เพราะการสตาร์ทรถจะส่งผลให้น้ำมันที่คุณเติมมาไหลเข้าไปในเครื่องยนต์ และทำให้เครื่องยนต์เกิดความเสียหาย จนต้องส่งเข้าอู่ซ่อมกันอีกเยอะเลยทีเดียว

ถ่ายน้ำมัน

ให้รีบถ่ายน้ำมันออกทันที และจากนั้นให้ทำการไล่ระบบเครื่องยนต์รถใหม่ โดยพยายามถ่ายน้ำมันออกให้ได้มากที่สุด

เติมน้ำมันที่ถูกประเภทเข้าไป

หลังจากศึกษาแล้วว่ารถของคุณควรเติมน้ำมันประเภทไหน ให้เติมน้ำมันที่เหมาะสมเข้าไปใหม่ เพื่อให้ใช้งานได้ตามปกติ

ทดสอบเครื่องยนต์

ให้คุณทำการทดสอบระบบเครื่องยนต์ เพื่อให้มั่นใจว่ารถของคุณสามารถกลับมาใช้งานได้ปกติ หรือถ้ายังไม่สามารถใช้งานได้ ให้คุณนำรถติดต่อศูนย์ เพื่อการช่วยเหลือและแก้ไขที่ถูกต้องต่อไป

รถแต่ละคันนั้นมาพร้อมรูปแบบการทำงานที่แตกต่างกัน ไม่ใช่ว่ารถทุกแบรนด์ ทุกยี่ห้อจะสามารถใช้น้ำมันร่วมกันได้ทั้งหมด เพราะตัวเครื่องยนต์ที่ออกแบบมา มีความแตกต่างในการรองรับน้ำมันในหลาย ๆ ประเภท ทำให้ผู้ใช้รถต้องศึกษาให้ถี่ถ้วนก่อนเติมน้ำมันทุกครั้ง

เลือกใช้น้ำมันถูกประเภทแล้ว อย่าลืมติดตามระดับการใช้เชื้อเพลิงด้วยเซนเซอร์น้ำมันกัน!

หากใช้น้ำมันถูกประเภทที่ตอบสนองต่อตัวเครื่องยนต์ได้สมบูรณ์แล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ การติดตั้งระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ให้กับรถเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา เช่น GPS Tracker ระบบนำทางยานพาหนะที่จะช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่

รวมถึง เซนเซอร์วัดระดับน้ำมัน อุปกรณ์วัดระดับน้ำมันในถัง ที่เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีการใช้งานรถขนาดใหญ่ เช่น รถบรรทุก รถขนส่ง รถเทรลเลอร์ เพื่อให้พนักงานและผู้ใช้รถสามารถใช้งานรถของคุณได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัยตลอดการเดินทาง และยังช่วยควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย

ต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับราคาและรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม สามารถโทรติดต่อเจ้าหน้าที่ของเราได้ที่หมายเลข โทร 021362920 หรือ 021362921 ในวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลาทำการ หรือกรอกฟอร์มด้านบนและรอให้เจ้าหน้าที่ของเรา ติดต่อกลับหาคุณโดยเร็วที่สุด

อย่าพลาดโอกาสในการทดลองใช้งาน GPS ติดรถ และเซนเซอร์น้ำมันเชื้อเพลิง กับ คาร์เเทรค : ทดลองใช้ฟรี !

แนะนำเทคนิคเลือกใช้น้ำมันรถที่มีคุณภาพ เหมาะกับรถ เพื่อให้ใช้งานรถได้ยาวนานและมีสมรรถนะการขับเคลื่อนที่ดี พร้อมแนะนำ เซนเซอร์น้ำมัน ตัวช่วยติดตามระดับเชื้อเพลิง