BLOGS

5 สาเหตุ ขาดโอกาสใช้รถและรถเสีย ที่ธุรกิจหลีกเลี่ยงได้

คุณต้องการให้ คาร์แทรค ช่วยเหลือเรื่องอะไร?

ฉันเป็น / ...
จำนวนยานพาหนะของคุณ
ขอบคุณค่ะ เจ้าหน้าที่คาร์แทรคจะติดต่อกลับหาคุณโดยเร็วที่สุด
Oops! Something went wrong while submitting the form.

รถเสีย คือ ฝันร้ายของธุรกิจขนส่ง หรือธุรกิจที่มีการส่งสินค้าเป็นส่วนหนึ่ง เพราะมันจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจได้โดยตรง และมากกว่า 82% ของธุรกิจประสบปัญหานี้อยู่เป็นประจำและมองว่าเป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ 

ซึ่งปัญหารถเสีย เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ก็จริง แต่จะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำและหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงหรือ? บทความคาร์แทรคตอนนี้ชวนทำความเข้าใจภาวะขาดโอกาสใช้รถ โดยเฉพาะ รถเสีย และวิธีการแก้ไขปัญหานี้อย่างยั่งยืน เพื่อไม่ให้ธุรกิจที่ใช้รถของคุณเสียหายหรือหยุดความเสียหายไม่ให้ขยายมากกว่าที่เป็น

รถเสีย สิ่งเล็กๆ ที่สร้างผลกระทบใหญ่

  • อุบัติเหตุหรือการชน: รถที่ประสบอุบัติเหตุอาจต้องได้รับการซ่อมแซมอย่างหนัก ซึ่งส่งผลต่อการหยุดเดินเครื่องแบบฉุกเฉิน
  • ปัญหาเกี่ยวกับน้ำมัน: น้ำมันหมดถังอย่างไม่คาดคิด หรือมีปัญหากับระบบน้ำมันของรถ ล้วนส่งผลต่อความล่าช้า ซึ่งอาจสร้างความเสียหายได้มาก โดยเฉพาะในธุรกิจบริการส่งสินค้า
  • การขาดการบำรุงรักษา: ชิ้นส่วนรถยนต์สึกหรอและเสียหาย ทำให้รถยนต์เกิดการชำรุด การไม่มีแผนการบำรุงรักษาเป็นระยะอย่างสม่ำเสมอ หรือไม่บำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ อาจนำไปสู่การหยุดทำงานหรือความเสียหายที่ไม่คาดคิด ซึ่งสามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม
  • เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับผู้ขับขี่: ปัญหาที่เกิดจากความผิดพลาดของผู้ขับขี่ เช่น การขับรถโดยประมาท การใช้เครื่องมือไม่ถูกวิธี การละเลย และการดูแลรักษาไม่เหมาะสม อาจนำไปสู่ปัญหาของรถที่ไม่คาดคิดและเสี่ยงสูงที่จะส่งผลให้รถใช้งานไม่ได้ในภายหลัง
  • สภาพถนน: หลุมบนถนน ถนนขรุขระ และเศษวัสดุ สามารถสร้างความเสียหายให้กับช่วงล่าง ระบบกันสะเทือน และยางรถ ทำให้ต้องหยุดเดินรถแบบฉุกเฉินได้

ผลกระทบของการหยุดเดินรถในงานจัดการยานพาหนะ

1. ผลลัพธ์การทำงานที่ลดลง

เนื่องจากรถไม่สามารถใช้งานได้ การหยุดเดินรถส่งผลต่อผลลัพธ์การทำงานที่ลดลง คุณอาจส่งมอบสินค้าหรือบริการตามนัดหมายล่าช้า ทำให้ธุรกิจทั้งหมดของคุณล่าช้าตามกำหนด 

นอกจากนี้ยังส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้า กระทบต่อภาพลักษณ์และชื่อเสียงของบริษัทคุณ แม้ว่า การทำงานชดเชยเพื่อขนส่งย้อนหลังให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้จะเป็นทางออกที่ธุรกิจต้องทำหรือมักจะทำ 

แต่สิ่งนี้อาจทำให้ระดับความปลอดภัยพื้นฐานลดลง และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหรืออุปกรณ์ไม่ทำงานเพิ่มมากขึ้น

2. ต้องใช้งานรถคันอื่นมากเกินไป

เมื่อรถคันหนึ่งไม่สามารถใช้งานได้ บริษัทขนส่งก็ต้องเลือกใช้รถคันอื่นมากขึ้นเพื่อทดแทน 

แม้ว่าวิธีนี้อาจดูเหมือนเป็นการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นที่ง่ายดาย แต่ก็อาจส่งผลเสียหายมากขึ้น เนื่องจากการใช้งานยานพาหนะเกินกว่าเวลาที่กำหนดไว้ส่งผลต่อสภาพและอายุการใช้งานของรถได้

3. สูญเสียรายได้

การหยุดใช้งานรถบางคัน ส่งผลกระทบต่อผลกำไรของธุรกิจได้อย่างมาก เพราะการไม่สามารถส่งมอบสินค้าหรือบริการตรงเวลาอาจนำไปสู่การสูญเสียรายได้และโอกาสทางธุรกิจ 

สิ่งนี้ไม่เพียงแค่ส่งผลต่อการผิดกำหนดทางการค้า แต่ยังกระทบแง่ลบต่อความพึงพอใจของลูกค้า ลูกค้าที่เจอผิดนัดอาจเริ่มมองหาตัวเลือกใหม่และย้ายธุรกิจไปหาคู่แข่งของเรา 

การสูญเสียรายได้ยังหมายความว่าคุณไม่สามารถจ่ายเงินให้กับพนักงานขับรถได้อย่างคุ้มค่า ซึ่งส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจและการรักษาพนักงานขับรถอย่างมาก

4. ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

การซ่อมแซมรถและการจัดการกับการหยุดใช้งานรถที่ไม่คาดคิด อาจเพิ่มต้นทุนการดำเนินงานของกองรถได้อย่างมาก 

เพราะเราไม่สามารถประเมินมูลค่าหรือตั้งงบประมาณกับความเสียหายที่ไม่คาดคิดไว้ล่วงหน้าได้ จนอาจต้องนำเงินจากส่วนอื่นของธุรกิจมาใช้ เพื่อทำทุกวิถีทางให้งานเดินหน้าไปได้ก่อน

ผลกระทบของการหยุดเดินรถในงานจัดการยานพาหนะ

ประโยชน์ของการลดเหตุรถเสียหรือไม่สามารถใช้งานได้ มีอะไรบ้าง?

1. เพิ่มผลลัพธ์จากการทำงาน

การลดการหยุดเดินเครื่องของรถยนต์ ช่วยให้ใช้เวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ได้ผลลัพธ์หรือผลผลิตมากขึ้น ช่วยให้สามารถใช้งานรถได้อย่างต่อเนื่อง จนเกิดเป็นระดับผลผลิตที่สูงขึ้น

2. ยกระดับความพึงพอใจของลูกค้า

การลดเหตุรถใช้งานไม่ได้ นำไปสู่การให้บริการที่น่าเชื่อถือมากขึ้นและการส่งมอบสินค้าตรงเวลาของธุรกิจ ซึ่งช่วยยกระดับความพึงพอใจและความภักดีต่อธุรกิจของลูกค้า

3. ประหยัดต้นทุน

เมื่อเหตุใช้งานรถไม่ได้ลดลง หมายถึง ค่าใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษาที่ลดลง ค่าซ่อมแซมลดลง และค่าใช้จ่ายในการซ่อมฉุกเฉินลดลงได้ ซึ่งสุดท้ายแล้วย่อมช่วยประหยัดเงินให้กับแผนกยานพาหนะและธุรกิจของคุณ

4. เสริมสร้างความปลอดภัย

เหตุใช้งานรถไม่ได้ลดลง สะท้อนถึงการใช้งานรถที่มีทั้งหมดได้อย่างปกติ ส่งผลให้รถมีความปลอดภัยมากขึ้น และลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่เกิดจากอุปกรณ์ที่ชำรุดและปัญหาทางเทคนิคได้ด้วย

5. วางแผนและกำหนดเวลาได้ดียิ่งขึ้น

ธุรกิจสามารถวางแผนและกำหนดเส้นทางและบริการได้อย่างแม่นยำมากขึ้น เนื่องจากไม่มีความล่าช้าที่ไม่คาดคิด สิ่งนี้นำไปสู่การดำเนินงานที่ราบรื่นและประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น

6. เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรบริษัท

รถยนต์ที่ใช้เวลาน้อยลงในการพักซ่อมแซม ย่อมสามารถนำไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและผลกำไรโดยรวม

7. ส่งเสริมความพึงพอใจของพนักงานขับรถ

รถใช้งานที่เสียตลอดเวลาและมีความล่าช้าในการทำงาน ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานและขวัญกำลังใจของพนักงานขับรถโดยรวม 

การลดเหตุรถใช้งานไม่ได้กะทันหัน ช่วยส่งเสริมขวัญกำลังใจและประสิทธิภาพการทำงานของพวกเขา เนื่องจากพวกเขาสามารถทำงานได้สำเร็จลุล่วงโดยมีความล่าช้าเพียงเล็กน้อย หรือไร้ความล่าช้าในการทำงานเลย

ธุรกิจจะลดเหตุใช้งานรถไม่ได้กะทันหันได้อย่างไร?

1. ติดตามพฤติกรรมการขับขี่

การขาดการใช้งานรถอาจเกิดขึ้นได้จากพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่ปลอดภัยหรือประมาท การขับขี่ที่ปลอดภัย เช่น การเร่งความเร็วและเบรกอย่างนุ่มนวล และการหลีกเลี่ยงการเลี้ยวโค้งกะทันหัน ช่วยลดการสึกหรอของรถ 

เมื่อผู้ขับขี่ปฏิบัติตามแนวทางเหล่านี้ ย่อมส่งผลให้ชิ้นส่วนสำคัญต่างๆ เช่น เบรก ยางรถ และเครื่องยนต์ สึกหรอน้อยลง 

การติดตามพฤติกรรมการขับขี่ช่วยให้คุณรับทราบพฤติกรรมเหล่านี้ทั้งหมด และสามารถนำการฝึกอบรมมาใช้เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ขับขี่ปฏิบัติตามแนวทางการขับขี่ที่ดีที่สุดอยู่เสมอ 

ผลลัพธ์ที่ได้คือ อายุการใช้งานของรถยาวนานขึ้น เนื่องจากการใช้รถอย่างเหมาะสม ประหยัดน้ำมันมากขึ้น และอัตราการเกิดอุบัติเหตุลดลง

2. ติดตามการใช้น้ำมัน

การติดตามการใช้น้ำมันของกองรถของคุณ ช่วยให้คุณระบุความผิดปกติหรือการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน 

การใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นแบบฉับพลันหรือผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาพื้นฐานของรถยนต์ เช่น เครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ ปัญหาเกี่ยวกับลมยาง ปัญหาเกี่ยวกับระบบน้ำมัน หรือการขโมยน้ำมัน

การแก้ไขปัญหาเหล่านี้ทันทีเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากช่วยป้องกันการหยุดทำงานและความล้มเหลวของรถยนต์ที่อาจส่งผลให้รถไม่สามารถใช้งานได้ 

การติดตามการใช้น้ำมันแบบมีการวางแบบแผนอย่างเป็นระบบ ไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาทางกลไกที่ร้ายแรงเท่านั้น แต่ยังมีส่วนสำคัญในการรักษากองรถให้ใช้งานได้และลดการขาดโอกาสใช้งานยานพาหนะได้อีกด้วย

3. การกำหนดลำดับความสำคัญของการบำรุงรักษารถ

การบำรุงรักษารถเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากเป็นสาเหตุหลักประการหนึ่งที่ทำให้รถไม่สามารถใช้งานได้ 

การจัดการกองรถเชิงป้องกัน หมายถึง วิธีการเชิงรุกที่กองรถนำมาใช้เพื่อบำรุงรักษาและปรับให้เหมาะสม เพื่อความปลอดภัยและอายุการใช้งานที่ยาวนานของรถ ช่วยป้องกันรถหยุดทำงานแบบไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า 

ตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ซึ่งเป็นขั้นตอนประจำที่สำคัญต่อสุขภาพและการทำงานของเครื่องยนต์ การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามกำหนดช่วยป้องกันการสึกหรอของเครื่องยนต์และการหยุดทำงานที่อาจเกิดขึ้น

แผนการบำรุงรักษายานพาหนะ คืออะไร?

แผนการบำรุงรักษายานพาหนะ คือ แผนการจัดการการบำรุงรักษาและซ่อมแซมรถใช้งานที่มีทั้งหมด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้รถและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอยู่ในสภาพที่ปลอดภัย เชื่อถือได้ และพร้อมใช้งาน 

แผนนี้ครอบคลุมงานตามกำหนดต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อให้แน่ใจว่า สภาพการทำงาน ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และอายุการใช้งานของรถทั้งหมดอยู่ในระดับที่ดีที่สุด  

โดยทั่วไป แผนการนี้มักเกี่ยวข้องกับการใช้ซอฟต์แวร์จัดการยานพาหนะ เพื่อช่วยจัดการการแจ้งเตือนการบริการรถ สร้างกำหนดการบำรุงรักษาแบบกำหนดเอง (ขึ้นอยู่กับรถแต่ละคัน) และติดตามประสิทธิภาพของรถ

แผนการบำรุงรักษายานพาหนะ คืออะไร

เสี่ยงแค่ไหน? ถ้าไม่มีแผนการบำรุงรักษายานพาหนะ

การไม่มีแผนการบำรุงรักษารถ อาจส่งผลให้เกิดความเสี่ยงและผลกระทบหลายประการต่อธุรกิจที่ต้องพึ่งพารถ เช่น

1. ค่าซ่อมที่สูง

การละเลยการบำรุงรักษาตามปกติของรถ มักนำไปสู่การละเลยปัญหาเล็กๆน้อยๆ ซึ่งอาจทวีความรุนแรงกลายเป็นปัญหาที่ใหญ่กว่าและมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นในอนาคต  

ตัวอย่างเช่น กลุ่มยานพาหนะที่ไม่ได้ตรวจสอบระบบระบายความร้อนของรถเป็นประจำ ตอนแรกปัญหานี้อาจดูเหมือนไม่สำคัญ แต่เมื่อเวลาผ่านไป อาจนำไปสู่เครื่องยนต์ร้อนเกินไป ทำให้ชิ้นส่วนเครื่องยนต์เสียหาย ส่งผลให้ค่าซ่อมสูงขึ้น เนื่องจากการละเลยการบำรุงรักษา 

ปัญหาเล็กน้อยที่ไม่ได้รับการแก้ไข มักจะทวีความรุนแรงและกลายเป็นปัญหาที่ใหญ่กว่า ซึ่งต้องใช้การซ่อมแซมที่ยุ่งยาก ยิ่งไปกว่านั้น หากปัญหาเหล่านี้ไม่ได้รับการซ่อมแซมอย่างรวดเร็ว จะส่งผลให้รถไม่สามารถใช้งานได้เป็นเวลานาน

2. อายุการใช้งานของรถลดลง

ผลที่ตามมาของการไม่ได้กำหนดการบำรุงรักษาตามปกติของรถ คือ การสึกหรอของชิ้นส่วนสำคัญอย่างรวดเร็ว 

การละเลยการตรวจสอบตามปกติและการเปลี่ยนอะไหล่ที่สึกหรอ เช่น สายพานและท่อต่างๆ อย่างทันเวลา อาจนำไปสู่ความเสียหายก่อนเวลาสมควร ส่งผลต่อเครื่องยนต์และระบบเกียร์ของรถ

3. ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

การบำรุงรักษาที่ไม่เพียงพอ อาจส่งผลต่อความปลอดภัยของรถยนต์และผู้ขับขี่ ปัญหาที่ถูกละเลย เช่น ปัญหาเกี่ยวกับเบรก (ส่งผลต่อกำลังหยุดรถในช่วงเวลาสำคัญ) ยางรถสึกหรอ (เพิ่มความเสี่ยงยางรั่วหรือยางแตก) หรือเครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ (ส่งผลต่อการควบคุมรถ) อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่ได้ 

สิ่งเหล่านี้อาจนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุที่มีค่าใช้จ่ายสูงและอาจถึงแก่ชีวิต ซึ่งสามารถป้องกันได้ด้วยการบำรุงรักษาที่เหมาะสม  

การแก้ไขปัญหาเชิงรุก ไม่เพียงแต่ช่วยปกป้องความปลอดภัยของผู้ขับขี่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงความปลอดภัยของผู้ใช้ถนนทุกคนด้วย

4. ประสิทธิภาพการดำเนินงานลดลง

การใช้งานรถไม่ได้กะทันหัน ส่งผลต่อการทำงานและลดประสิทธิภาพการดำเนินงาน ส่งผลต่อการจัดสรรทรัพยากรอย่างไม่มีประสิทธิภาพ 

ตัวอย่างเช่น บริษัทขนส่งสินค้า ต้องเผชิญกับเครื่องยนต์ดับกะทันหัน เนื่องจากการตรวจสอบการบำรุงรักษาไม่สม่ำเสมอ ความจำเป็นในการซ่อมแซมทันที ทำให้กำหนดการส่งมอบสินค้าหยุดชะงัก ซึ่งก่อให้เกิดความล่าช้าในการบริการลูกค้า และอาจส่งผลกระทบต่อข้อตกลงตามสัญญา 

การหยุดชะงักของการดำเนินงานนี้ ต้องใช้การจัดสรรทรัพยากรใหม่ ต้องปรับเปลี่ยนทั้งเวลาและกำลังคน เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการบำรุงรักษาที่ไม่คาดคิดเหล่านี้ ซึ่งเมื่อเป็นบ่อยๆ มากเข้าก็นำไปสู่ภาวะไร้ประสิทธิภาพในกระบวนการทำงานโดยรวม

5. ขาดข้อมูลเชิงลึก

การไม่มีแผนการบำรุงรักษา จะทำให้ธุรกิจไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงานของรถ รูปแบบการใช้งาน และปัญหาที่อาจเกิดขึ้น 

ข้อมูลเหล่านี้ ช่วยให้เห็นภาพรวมของสภาพรถและเครื่องจักรใช้งานทั้งหมด ช่วยให้ธุรกิจตัดสินใจอย่างชาญฉลาดเกี่ยวกับการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ การวิเคราะห์ต้นทุน และการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์เพื่อปรับปรุงการดำเนินงาน 

การบันทึกค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาตามรายละเอียดของรถแต่ละคัน ยังช่วยให้ผู้จัดการยานพาหนะ ประเมินผลกระทบทางการเงินของกลยุทธ์การบำรุงรักษาที่แตกต่างกัน ช่วยในการพัฒนาแผนการที่มีประสิทธิภาพคุ้มทุน

ลดเหตุรถเสียและภาวะขาดทุนแบบไม่ทันตั้งตัว ด้วยระบบจัดการยานพาหนะที่ครบวงจร

ระบบติดตามและจัดการการใช้ยานพาหนะ Cartrack ช่วยลดเวลารถเสีย รถพัง หรือปัญหาการขาดโอกาสใช้ยานพาหนะ ด้วยซอฟต์แวร์ติดตามการใช้ยานพาหนะและสภาพเครื่องยนต์แบบเรียลไทม์ ด้วยเทคโนโลยีเทเลเมติกส์ 

ระบบติดตามพฤติกรรมการขับขี่ ที่ช่วยติดตามพฤติกรรมทำรถพัง ใครเป็นคนขับขี่ ที่ช่วยให้แก้ไขได้ตรงจุดและถูกคนในเวลาอันรวดเร็ว ลดความเสียหายได้อย่างชัดเจน

ระบบวางแผนและปรับเปลี่ยนเส้นทางการขับขี่ ที่ช่วยลดการขับออกนอกเส้นทาง ลดการใช้ยานพาหนะกับการขับขี่ที่ไม่จำเป็น และลดความเสี่ยงรถเกิดอุบัติเหตุได้ด้วย

ระบบติดตามการใช้น้ำมันและระดับน้ำมัน เทคโนโลยีเพื่อการใช้ยานพาหนะที่ทรงพลังของ Cartrack ช่วยรถใช้งานในธุรกิจนับล้านคัน และบริษัทลูกค้าของเรามากกว่า 115,000 แห่ง ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายและเพิ่มผลผลิตจากการทำงานได้อย่างเห็นผลลัพธ์ที่วัดผลได้จริง

สนใจระบบของ Cartrack หรือปรึกษาฟรีเพื่อค้นหาระบบติดตามรถที่เหมาะสมกับรถที่ใช้งานอยู่ โทรได้ที่ 021362920 , 021362921 หรือคลิกที่นี่เพื่อแอดไลน์ฝากข้อมูลชื่อและเบอร์โทร ให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด

รถเสีย เป็น ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำและหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงหรือ? ชวนทำความเข้าใจภาวะขาดโอกาสใช้รถ โดยเฉพาะรถเสีย และวิธีการแก้ไขปัญหานี้ที่ลดความเสียหายได้