ระบบ GPS ไม่ตรง พาหลงทาง เกิดจากอะไร?

“หลงทางเสียเวลาอุตส่าห์ให้ GPS พามาเกือบตกคลอง!” พาดหัวข่าวของเว็บไซต์หนึ่งที่บ่งบอกถึงความผิดพลาดในระบบ GPS ที่นำพาคุณไปผิดทางหรือ GPS ไม่ตรงนั่นเอง

สาเหตุที่ทำให้ระบบ GPS ทำงานไม่ถูกต้องเกิดขึ้นได้จากอะไร มาติดตามไปกับคาร์แทรค (CARTRACK) ผู้ให้บริการระบบ GPS สำหรับติดตามรถไปพร้อมกันในบทความตอนนี้

‍

รู้จักระบบ GPS

มาทำความรู้จักกับ GPS กันก่อนดีกว่า GPS ย่อมาจากคำว่า Global Positioning System คือ ระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก โดยอาศัยการคำนวณจากความถี่สัญญาณที่ส่งมาจากดาวเทียมที่โคจรอยู่รอบโลก ทำให้ระบบนี้รู้ตำแหน่งจุดที่สามารถรับสัญญาณได้ทั่วโลก ซึ่งมีแนวคิดในการพัฒนาระบบมาตั้งแต่ปี 1957 โดยกองทัพเรือสหรัฐ 

มาจนถึงยุคปัจจุบันที่จีพีเอสมีบทบาทกลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต และสามารถใช้งาน GPS ได้ทั้งจากภายในรถยนต์ แม้กระทั่งในสมาร์ทโฟนก็มีระบบ GPS ให้ใช้งานในการบอกตำแหน่งและการนำทาง 

‍

สาเหตุที่ทำให้ระบบ GPS พาคุณหลงทาง

แล้วทำไมเจ้า GPS ถึงทำให้คุณหลงทางได้สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ GPS ไม่ตรงหรือพาคุณหลงทางนั้นมาจาก 5 สาเหตุ ดังต่อไปนี้

1. สภาพอากาศและสภาพภูมิทัศน์

เนื่องจากการรับ-ส่ง สัญญาณ GPS นั้นเป็นการส่งในรูปแบบคลื่นวิทยุ ดังนั้นหากสภาพอากาศไม่ดี เช่น วันที่ฟ้าปิด มีเมฆมาก มีพายุ มีฝนฟ้าอากาศที่ไม่เป็นใจ รวมทั้งกรณีที่อยู่ในที่อับสัญญาณ อาทิ อยู่ใต้อาคาร ใต้ทางด่วน หรือใต้รางรถไฟฟ้า BTS จะมีผลทำให้สัญญาณจากตำแหน่งที่รับค่าสัญญาณนั้นได้คาดเคลื่อนไปหลายเมตร 

เมื่อสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย จึงส่งผลให้ตำแหน่งปัจจุบันของเราที่ซอฟต์แวร์ (Software) ทราบนั้นผิดไป ทำให้การนำทางของระบบ GPS ไม่ตรงและผิดเพี้ยนไปจากเส้นทางที่ควรจะเป็น

‍

2. ซอฟต์แวร์ (Software)

ขึ้นอยู่กับว่าซอฟต์แวร์ (Software) ที่คุณใช้นั้นมีความเสถียรมากน้อยขนาดไหนในการระบุตำแหน่ง โดยการใช้งานระบบนำทาง GPS นั้นผู้ใช้งานต้องเป็นผู้ตั้งค่าการนำทางต่าง ๆ ว่าต้องการให้นำทางไปยังสถานที่ใด และจำเป็นต้องเลือกเส้นทางที่ต้องการใช้ด้วย เช่น ตั้งให้ค้นหาเส้นทางที่รถยนต์สามารถไปได้ เพราะสำหรับระบบนำทางแล้วมีเส้นทางให้คุณได้เลือกทุกรูปแบบ ทั้งทางเดินเท้าหรือทางจักรยานก็ใช่ 

นอกจากนี้การเลือกเส้นทางที่สั้นที่สุด ในบางครั้งก็ไม่ใช่เส้นทางที่ดีที่สุดสะดวกที่สุดหรือเร็วที่สุด เพราะทางบางที่ก็แคบติดขัด มีการปิดเส้นทางการจราจร 

เพราะฉะนั้นคุณควรดูให้ดีเวลาระบุเป้าหมายและเลือกเส้นทางในการใช้งาน เพื่อที่จะไม่ทำให้เสียเวลาในการเดินทาง

‍

3. เนื้อหาของแผนที่ที่ไม่มีการอัปเดต

เนื้อหาของแผนที่ควรจะมีการอัปเดตทุก 6 เดือนโดยการอัปเดตจะเน้นการอัปเดตจำพวก เส้นทางที่ใช้สำหรับคนเดิน หรือผ่านได้เฉพาะรถจักรยานหรือรถขนาดเล็ก เส้นทางไหนเป็นเส้นทางที่สามารถเดินรถได้แค่ทางเดียว 

ทั้งนี้ในการอัปเดตแผนที่ ทางผู้จำหน่ายอุปกรณ์ GPS นำทางจะเป็นฝ่ายแจ้งให้ลูกค้าทราบในเรื่องของบริการอัปเดต แต่ความถูกต้องแม่นยำของแผนที่ก็ยังขึ้นอยู่กับบริษัทที่จัดทำแผนที่ ที่ทางผู้ให้บริการเลือกมาใช้งานด้วย เช่นนี้แล้วความน่าเชื่อถือของโปรแกรมก็เป็นส่วนสำคัญที่ผู้ใช้งานจะต้องเปรียบเทียบหาข้อมูลในตลาดดูด้วยว่ายี่ห้อใดมีประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือมากกว่ากัน

‍

4. การใช้วิจารณญาณของผู้ขับขี่

ผู้ใช้ระบบนำทาง GPS จะต้องมีวิจารณญาณในการขับขี่ด้วย โดยพิจารณาจากความเป็นไปได้ของเส้นทางที่พบเห็นอยู่เบื้องหน้าว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดในการเดินทางต่อไป ไม่ใช่ว่าอุปกรณ์ให้ไปในทิศทางใดก็ไปตามโดยไม่คำนึงถึงอุบัติเหตุและความปลอดภัย 

เพราะด้วยสาเหตุหลักที่กล่าวมาข้างต้นก็สามารถทำให้ GPS ไม่ตรงและเกิดความผิดพลาดได้ตลอดเวลา ดังนั้นหากเจอเส้นที่คุณพิจารณาแล้วว่า GPS นำทางมาไม่ตรงกับการเดินทาง หรือดูแล้วว่าไม่น่าใช้ในการเดินทางได้ให้ขับกลับไปทางหลักก่อน โดยระบบจะคำนวณหาเส้นทางใหม่ให้เราเอง

‍

5. ในเรื่องของตัวบุคคล

• บุคคลที่ใช้รถใช้ถนนนั้นไม่ได้ศึกษาเส้นทางอย่างละเอียด หรือไม่ชำนาญในเส้นทาง โดยทั่วไปแล้วถ้าหากจะมีการเดินทางผู้ใช้ควรที่จะต้องมีการศึกษารายละเอียดเส้นทางล่วงหน้าเป็นเวลาหลายวัน

• เกิดจากความประมาท อย่างไรก็ตามผู้ที่ใช้รถใช้ถนนต้องมีดุลยพินิจในการขับรถ หากเส้นทางข้างหน้าเป็นเหวเป็นทางตัน แต่ในระบบนำทางชี้ให้เราลงไปเราจะขับรถพุ่งชนเข้าไปหรือไม่ ? หรือเราจะเลือกออกมาจากตรงนั้น ดังนั้นเราควรมีความรู้ศึกษาเส้นทางก่อนออกเดินทางอย่างละเอียดเพื่อลดปัญหาการเกิดอุบัติเหตุและหลงทาง

บนท้องถนนในทุกวันนี้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นมากมายการที่ GPS ไม่ตรงก็ถือเป็นอุบัติเหตุอย่างหนึ่งที่ผู้ใช้รถใช้ถนนควรที่จะระมัดระวังต้องมีสติในการพินิจพิจารณาให้ดีว่าเส้นทางที่ GPS นำทางไปนั้นสมควรหรือถูกต้องหรือไม่ มิเช่นนั้นอาจเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดกับคุณก็เป็นได้ เพราะถึงแม้ GPS จะถูกพัฒนามาเพื่อช่วยให้คุณเดินทางได้สะดวกมากขึ้นแต่ก็ไม่มีอะไรที่จะรับรองความปลอดภัยของคุณได้เท่ากับการระมัดระวังของตัวคุณเอง

‍

ระบบ GPS ไม่ได้มีแค่นำทาง แต่ติดตามได้ และเสถียรกว่าที่เคย!

นอกจากการนำระบบ GPS มาใช้ในการนำทางเพื่อเดินทางไปยังจุดหมายที่ต่าง ๆ แล้ว เทคโนโลยีปัจจุบันยังมีการพัฒนา จนสามารถนำ GPS มาใช้ในการติดตาม หรือที่เรียกว่าระบบ GPS Tracking ได้อีกด้วย และ CARTRACK เราเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของ GPS ติดตามรถมายาวนานกว่า 10 ปี ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก (DLT) และยังใช้งานง่าย ติดตามตำแหน่งรถได้ตลอดเวลาที่คุณต้องการ

หากสนใจสอบถามข้อมูล GPS รถเพิ่มเติมหรือขอใบเสนอราคา กรอกข้อมูลการติดต่อของคุณที่นี่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด ในช่วงวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30 - 17.30 น.

นอกจากระบบ GPS แล้ว เรายังมีบริการติดตั้งเซนเซอร์วัดระดับน้ำมัน เพื่อใช้งานร่วมกับกล่อง GPS ติดตามรถ หรือกล้อง AI ซึ่งเป็นกล้อง GPS ติดรถแบบ CCTV ใช้งานได้ทั้งกับรถยนต์ รถบรรทุก ฯลฯ จำหน่ายในราคาที่คุ้มค่า พร้อมยกระดับการทำงานให้ธุรกิจมีรถของคุณด้วยข้อมูลที่ชัดเจนและเป็นประโยชน์

‍

สำหรับลูกค้าใหม่ CARTRACK! ติดตั้งวันนี้ ฟรีค่าติดตั้งและค่าอุปกรณ์กล่อง GPS จ่ายเพียงค่าบริการ พร้อมโปรโมชันพิเศษ รับเลยทันที โปรโมชันติดตั้ง GPS ติดรถยนต์ รถตู้ รถกระบะ GPS ติดตามรถบรรทุก จ่าย 10 เดือน ใช้ต่อเนื่อง 12 เดือน* (* เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)

‍

ติดตาม CARTRACK (คาร์แทรค) เพิ่มเติมได้ที่

Facebook: Cartrack Thailand

Instagram: @cartrack.thailand‍

LINE: CARTRACK GPS หรือเข้าแอปฯ LINE เลือกเพิ่มเพื่อน เลือกค้นหา พิมพ์ @udi4517q ที่ ID และแอดเพื่อคุยสอบถามข้อมูลได้ทันที