BLOGS

บริหารงานซ่อมบำรุงยานพาหนะ แบบใหม่ มีข้อดีกับธุรกิจอย่างไร?

คุณต้องการให้ คาร์แทรค ช่วยเหลือเรื่องอะไร?

ฉันเป็น / ...
จำนวนยานพาหนะของคุณ
ขอบคุณค่ะ เจ้าหน้าที่คาร์แทรคจะติดต่อกลับหาคุณโดยเร็วที่สุด
Oops! Something went wrong while submitting the form.

เครื่องยนต์มีเสียงดังบ้างก็ไม่เป็นไร? การไม่สนใจเสียงแปลกๆ หรือความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเครื่องยนต์ของรถคุณ อาจสร้างความเสียหายมากกว่าที่คุณคิด ซึ่งการซ่อมบำรุงยานพาหนะอย่างเป็นระบบมีขั้นตอน คือวิธีที่จะช่วยให้ยานพาหนะที่ใช้งานได้ยาวนานอย่างเป็นรูปธรรมจริงๆ

การซ่อมบำรุงยานพาหนะอย่างมีประสิทธิภาพไม่เพียงแค่ยืดอายุการใช้งานรถ แต่ยังลดต้นทุนค่าขนส่ง เช่น ค่าน้ำมัน ค่าซื้อรถใหม่ และลดปัญหาอื่นๆ ที่มาจากการใช้งานได้ด้วย เช่น ความเครียดเรื่องรถเสีย รถใช้งานได้ไม่ดี

บทความคาร์แทรคตอนนี้ จะชวนรู้จักงานซ่อมบำรุงยานพาหนะแบบใหม่ งานประเภทนี้ต้องรู้อะไรบ้าง แบบใหม่หน้าตาเป็นอย่างไร และเลือกอย่างไรจึงจะเหมาะสมกับรถใช้งานในธุรกิจของคุณที่สุด

งานซ่อมบำรุงยานพาหนะ คืออะไร?

งานซ่อมบำรุงยานพาหนะ คือ การบริหารจัดการยานพาหนะเชิงบำรุงรักษาให้เครื่องยนต์ของยานพาหนะหรือเครื่องจักร อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน หรือพร้อมสำหรับปริมาณงานที่ต้องการ

ตัวอย่างงานซ่อมบำรุงยานพาหนะ ก็เช่น การกำหนดตารางบำรุงรักษารถ การดูแลให้รถมาบำรุงรักษาตามกำหนดเวลา การติดตามการใช้น้ำมัน หรือแม้แต่การวางแผนเส้นทางการขับขี่ให้กับยานพาหนะ

งานซ่อมบำรุงยานพาหนะ แบบใหม่ เป็นอย่างไร?

ก่อนที่จะมีการใช้เทคโนโลยี งานซ่อมบำรุงยานพาหนะมักทำแบบง่ายๆ เช่น จดในสมุด หรือบันทึกในคอมพิวเตอร์แบบง่ายๆ เน้นการย้อนกลับมาดูบันทึกบ่อยๆ 

แม้ว่าวิธีการนี้ยังคงมีประสิทธิภาพในหลายธุรกิจ แต่ก็อาจเสียเวลามากกว่า เกิดการผิดพลาดได้มากกว่า และไม่ค่อยเวิร์คกับองค์กรที่มีรถจำนวนมากหลายสิบหรือเป็นร้อยๆ คัน 

ด้วยเหตุนี้ การบริหารจัดการงานซ่อมบำรุงยานพาหนะแบบใหม่ จึงเกิดขึ้น ซึ่งแบบใหม่ที่ว่านี้คือการใช้ระบบซอฟต์แวร์ (Software) เข้ามาช่วยดูแลบำรุงรักษายานพาหนะได้อย่างตรงจุดจำเป็นและเป็นประจำอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

หน้าที่ความรับผิดชอบในการบริหารจัดการยานพาหนะ มีอะไรบ้าง?

ก่อนจะไปรู้จักระบบบริหารงานซ่อมบำรุงยานพาหนะ คาร์แทรค ชวนดูหน้าที่บริหารจัดการยานพาหนะทั่วไปว่ามีอะไรบ้าง

1. การบำรุงรักษาเป็นประจำ

การบำรุงรักษายานพาหนะเป็นประจำช่วยป้องกันการเสียหายและยืดอายุการใช้งานของรถของคุณ 

กำหนดการตรวจสอบ การซ่อมแซม และการรับการบริการตามระยะเวลาที่เหมาะสม ช่วยให้ยานพาหนะของคุณทำงานได้อย่างราบรื่นและลดการขาดโอกาสใช้งานยานพาหนะให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

2. การปรับปรุงเส้นทางการขับขี่

การปรับปรุงเส้นทางการขับขี่ช่วยลดเวลาการขนส่งหรือเดินทาง ลดปริมาณน้ำมันที่ใช้ และลดต้นทุนการดำเนินงานขนส่งโดยรวมได้

3. การบริหารจัดการการใช้น้ำมัน

เช่น ส่งเสริมพฤติกรรมการขับขี่แบบประหยัดน้ำมันในหมู่พนักงานขับรถ สร้างแรงจูงใจในการขับแบบประหยัด (eco-driving) และแสดงข้อมูลการใช้น้ำมันแบบเรียลไทม์ 

เหล่านี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันอย่างมากและเพิ่มผลกำไรจากการดำเนินงานได้อย่างเป็นรูปธรรม

4. การสร้างมาตรการความปลอดภัย

สร้างและใช้มาตรการความปลอดภัยที่ครอบคลุมเพื่อปกป้องผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และบุคคลภายนอก เช่น จัดฝึกอบรมผู้ขับขี่ที่เน้นย้ำการขับขี่ปลอดภัย การติดตามพฤติกรรมการขับขี่อย่างต่อเนื่อง และการปฏิบัติตามข้อบังคับด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด

5. การอัพเดตเทคโนโลยีทันสมัยในการบริหารงาน

ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น GPS ระบบเทเลเมติกส์ และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวกับการใช้งานยานพาหนะ ประสิทธิภาพ การวินิจฉัย และพฤติกรรมการขับขี่ของรถ

ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจตัดสินใจเกี่ยวกับการดำเนินงานได้อย่างถูกต้อง และดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมักออกมาในแง่ของต้นทุนที่ลดลง และผลกำไรที่เพิ่มมากขึ้น

6. การควบคุมต้นทุนขนส่ง

ติดตามค่าใช้จ่ายอย่างรอบคอบ เจรจาเพื่อให้ได้เรทราคาที่ดีที่สุดกับซัพพลายเออร์ และดำเนินการตามมาตรการประหยัดต้นทุน 

แนวทางเชิงรุกนี้ช่วยรักษาสุขภาพทางการเงินของบริษัท และรับรองการดำเนินงานกองรถอย่างยั่งยืนในระยะยาว

7. การปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับ

ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานรถอยู่เป็นประจำ เพื่อให้แน่ใจว่าปฏิบัติตามและหลีกเลี่ยงการลงโทษที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติตามมาตรการประหยัดน้ำมัน การบำรุงรักษายานพาหนะ และการปฏิบัติตามกฎจราจร

8. การทำงานควบคู่กับดูแลสิ่งแวดล้อม

ส่งเสริมการขับขี่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นำเสนอรถยนต์ประหยัดน้ำมันหรือใช้เชื้อเพลิงทางเลือก เช่น รถพลังงานไฟฟ้า และวิธีอื่นๆ ที่ช่วยดูแลรักษาสภาพแวดล้อมได้มากขึ้น 

สิ่งนี้ยังแสดงถึงความมุ่งมั่นในแนวทางปฏิบัติทางธุรกิจที่รับผิดชอบ และช่วยในธุรกิจที่ต้องการจะปฏิบัติตามหลัก ESG ด้วย

9. การวิเคราะห์ข้อมูลและการรายงาน

วิเคราะห์แนวโน้มข้อมูลเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเชิงรุก นำไปสู่การประหยัดต้นทุน และปรับปรุงประสิทธิภาพของกองรถอย่างต่อเนื่อง 

ธุรกิจจะสามารถตัดสินใจอย่างถูกต้องและเหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงของธุรกิจและการแข่งขันในแวดวงธุรกิจของตัวเอง ซึ่งช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน

10. การจัดการประกันภัย

ประเมินความเสี่ยงการขับขี่และการใช้รถเป็นประจำ ควบคุมโปรแกรมความปลอดภัยของผู้ขับขี่ และทำงานร่วมกับบริษัทประกันภัยอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่าได้รับเงื่อนไขและความคุ้มครองที่ดีที่สุด 

สิ่งนี้ช่วยให้มั่นใจว่ายานพาหนะใช้งานในธุรกิจของคุณได้รับการคุ้มครองอย่างเพียงพอต่อความเสี่ยงและหนี้สินที่อาจเกิดขึ้น

หน้าที่ความรับผิดชอบในการบริหารจัดการยานพาหนะ มีอะไรบ้าง

ลักษณะเด่นของระบบบริหารงานซ่อมบำรุงยานพาหนะแบบใหม่ มีอะไรบ้าง?

1. มีระบบเทเลเมติกส์

ระบบบริหารงานซ่อมบำรุงยานพาหนะรูปแบบใหม่ จะใช้ระบบเทเลเมติกส์ (Telematics) เข้าช่วย ระบบเทเลเมติกส์ คือ ระบบติดตามการทำงานและสภาพของยานพาหนะหรือเครื่องจักร และประมวลผลข้อมูลเหล่านั้นให้เป็นประโยชน์ต่อการดูแลรักษาและใช้งานยานพาหนะต่อไป

2. มีระบบบริหารจัดการยานพาหนะ

ระบบซ่อมบำรุงมักมาคู่กันกับระบบบริหารจัดการยานพาหนะ โดยระบบบริหารจัดการยานพาหนะจะรวบรวมข้อมูลการใช้งานและสภาพยานพาหนะเอาไว้ ที่ช่วยให้ระบบซ่อมบำรุงสามารถเอาไปใช้งานได้ควบคู่กันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

3. มีอุปกรณ์ติดตามยานพาหนะที่ทันสมัย

อุปกรณ์ติดตามยานพาหนะที่ทันสมัยไม่เพียงแค่บอกพิกัดยานพาหนะว่าอยู่ที่ไหนตลอดเวลา แต่ยังบอกอัตราการใช้น้ำมัน สุขภาพเครื่องยนต์ และเกณฑ์วัดที่สำคัญอื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่ารู้รอบถึงข้อมูลยานพาหนะทั้งหมดทุกด้าน

4. มีระบบจัดการน้ำมันที่มีคุณภาพดี

ระบบซ่อมบำรุงยานพาหนะจะมาพร้อมกับระบบบริหารจัดการน้ำมันที่ดีด้วย ที่จะช่วยติดตามรูปแบบการใช้น้ำมันให้ต่อเนื่อง ติดตามเส้นทางการขับขี่ และมีกลยุทธ์วิธีต่างๆ ที่ช่วยลดต้นทุนการขนส่งได้แบบทันที

5. มีระบบบำรุงรักษายานพาหนะเชิงคาดการณ์

ระบบซ่อมบำรุงยานพาหนะจะเป็นระบบซ่อมบำรุงหรือบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ ที่จัดการสภาพยานยนต์และเครื่องจักรแบบเชิงรุก โดยดูจากข้อมูลการใช้งานเครื่องยนต์แบบเรียลไทม์หรือปัจจุบัน และคาดการณ์เหตุที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งทั้งหมดช่วยลดการขาดโอกาสใช้งานได้

6. ติดตามพฤติกรรมการขับขี่ของคนขับ

การติดตามพฤติกรรมการขับขี่ของคนขับ เป็นหนึ่งในวิธีบำรุงรักษายานพาหนะในเชิงรุก ที่ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ ที่ทำให้ใช้งานยานพาหนะไม่ได้ และเพิ่มรูปแบบการใช้งานยานพาหนะที่มีประสิทธิภาพได้

7. ปรับปรุงเส้นทางการขับขี่ได้

ระบบซ่อมบำรุงยานพาหนะแบบใหม่มักปรับปรุงเส้นทางการขับขี่ หรือเลือกเส้นทางการขับขี่ที่ประหยัดหรือปลอดภัยกว่าได้ เช่น เส้นทางที่ถนนดีกว่า การจราจรติดขัดน้อย

8. ใช้เทคโนโลยี IoT ในการทำงาน

Internet of Things หรือ IoT คือ การที่เทคโนโลยีทำงานร่วมกันได้อย่างอัตโนมัติ มีการส่งต่อข้อมูลจากอุปกรณ์หนึ่งถึงอีกอุปกรณ์หนึ่งโดยอัตโนมัติ

การส่งต่อข้อมูลอย่างอัตโนมัติ มีประโยชน์สำหรับการขนส่งหลายด้าน เช่น การขนส่งสินค้าเน่าเสียง่าย เช่น อาหาร พืช ที่ต้องมีเซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิคอยติดตามอยู่ตลอดเวลา หรือการขนส่งวัตถุมีค่าหรือเงิน ที่ต้องมีเซนเซอร์เปิดปิดประตู ที่แจ้งเตือนทันทีเมื่อมีการเปิดปิดหรือเปิดปิดนอกสถานที่ที่กำหนด เป็นต้น 

ซึ่งช่วยให้ธุรกิจเข้าใจการใช้งานยานพาหนะได้อย่างละเอียดและจัดการบำรุงรักษาได้สอดคล้องกับการใช้งานมากขึ้น

9. ใช้งานผ่านแอปพลิเคชันได้

ระบบบริหารงานซ่อมบำรุงยานพาหนะปัจจุบันสามารถสื่อสารหรือทำได้ผ่านระบบในรูปแบบแอปพลิเคชัน ที่ช่วยให้การสื่อสารง่ายขึ้น และรวดเร็วขึ้น ลดเวลาการทำงานได้อย่างดี

10. มีความปลอดภัยทางข้อมูลสูง

เนื่องจากเป็นงานที่เก็บและประมวลผลข้อมูลยานพาหนะซึ่งเป็นสินทรัพย์ขององค์กร ระบบบริหารงานซ่อมบำรุงยานพาหนะต้องมีความปลอดภัยทางข้อมูลสูง การส่งต่อข้อมูลต้องปลอดภัย มีการควบคุมการเข้าถึงข้อมูล และมีการตรวจสอบระดับความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ

ประโยชน์ที่แตกต่างของระบบบริหารงานซ่อมบำรุงยานพาหนะ มีอะไรบ้าง?

ระบบบริหารงานซ่อมบำรุงยานพาหนะ ช่วยให้การขนส่งเดินหน้าต่ออย่างไม่สะดุด แน่นอนว่าเป็นเหตุผลหลักแต่ในรายละเอียดนั้น สามารถสรุปได้ดังนี้

  1. ธุรกิจได้รับอัพเดตข้อมูลสภาพยานพาหนะ แบบอัตโนมัติ ไม่ต้องเสียเวลาติดตามเอง
  2. ธุรกิจได้รับแจ้งเตือนตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ล่วงหน้า ที่เหมาะสมกับสภาพเครื่องยนต์จริงๆ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นตามระยะเวลา ซึ่งอาจไม่เข้ากับสภาพที่แท้จริงของเครื่องยนต์และทำให้รถเสื่อมสภาพเร็วอยู่ดี
  3. ธุรกิจจะเลือกใช้งานรถหรือเครื่องจักร ได้เหมาะสมกับสภาพของรถหรือเครื่องจักร นอกเหนือจากสภาพของงาน ช่วยให้ทั้งได้งานและได้ใช้รถหรือเครื่องจักรอย่างคุ้มค่าในระยะยาว
  4. รถใช้งานจะใช้น้ำมันได้คุ้มค่ามากที่สุด เนื่องจากเครื่องยนต์อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์พร้อมอยู่เสมอ มีพฤติกรรมการขับขี่ที่ดี และควบคุมให้ใช้รถเฉพาะเรื่องงานได้
  5. ธุรกิจจะเจอค่าปรับหรือค่าฝ่าฝืนกฎจราจรน้อยลง เมื่อรถอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และการขับขี่ถูกต้อง การถูกปรับหรือการทำผิดกฎหมายก็จะน้อยลง ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นเหล่านี้ก็จะน้อยลงตามไปด้วย

ประโยชน์ที่แตกต่างของระบบบริหารงานซ่อมบำรุงยานพาหนะ มีอะไรบ้าง

เลือกระบบบริหารงานซ่อมบำรุงยานพาหนะแบบไหน ให้เหมาะสมกับการใช้งาน?.

ขั้นตอน 1 - เข้าใจความต้องการของธุรกิจก่อน

เข้าใจธุรกิจของคุณเองก่อนว่า ทำอะไร ต้องการรู้เรื่องอะไร อยากได้ผลลัพธ์เป็นอะไร มีรถหรือเครื่องจักรกี่คัน ฯลฯ จดข้อมูลเหล่านี้ไว้ให้ดี

ขั้นตอน 2 - เขียนฟีเจอร์ของระบบที่ธุรกิจต้องการ

เมื่อรู้ความต้องการคร่าวๆ ของธุรกิจแล้ว ต่อมาก็ให้ลองเขียนฟีเจอร์ที่ธุรกิจของคุณต้องการ เช่น แจ้งเตือนซ่อมบำรุงยานพาหนะอัตโนมัติและตามสภาพเครื่องยนต์ ยิ่งเขียนละเอียดมากเท่าไหร่ยิ่งดี

ขั้นตอน 3 - จำเป็นต้องใช้งานระบบนอกสถานที่ไหม?

ธุรกิจจำนวนมากในปัจจุบัน มีหลายสำนักงาน หลายสาขา มีรถหรือเครื่องจักรหลายรูปแบบ ที่อยู่ตามจุดต่างๆ ไม่ใช่อยู่แต่ในสำนักงานที่มองเห็นได้อย่างเดียว รวมถึงเจ้าหน้าที่ก็อาจกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ 

ระบบที่ใช้จึงควรเป็นระบบที่ตอบโจทย์การทำงานในหลายพื้นที่ อยู่ในเซิร์ฟเวอร์กลางที่เข้าถึงจากที่ไหนก็ได้ทั่วโลก หรือมีในรูปแบบแอปพลิเคชัน

ขั้นตอน 4 - ระบบที่ใช้มีความปลอดภัยสูงไหม?

ความปลอดภัยของข้อมูลทางธุรกิจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แม้ว่าจะมีตัวเลือกระบบบริหารงานซ่อมบำรุงยานพาหนะมากมายโดยเฉพาะในแง่ของราคา แต่สิ่งที่สำคัญกว่าราคาระบบ คือ ความปลอดภัย 

เพราะข้อมูลทางธุรกิจ เมื่อถูกขโมยหรือสูญหายแล้ว ความเสียหายจุดนี้เป็นมูลค่าความเสียหายที่ประเมินค่าไม่ได้ ไม่แนะนำให้เสี่ยงธุรกิจของตัวเองกับต้นทุนราคาถูก ที่สุดท้ายกลายเป็นบทเรียนราคาแพง ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นมากมาย

เลือกระบบบริหารงานซ่อมบำรุงยานพาหนะแบบไหน ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

เลือกระบบบริหารงานซ่อมบำรุงยานพาหนะ ที่ดูแลทรัพย์สินและธุรกิจของคุณอย่างยั่งยืน

ระบบบริหารงานซ่อมบำรุงยานพาหนะ Cartrack คือ ระบบดูแลยานพาหนะทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นรถ เครื่องจักรเล็กหรือใหญ่ ในที่เดียว 

มีเซนเซอร์ติดตามการใช้งานอย่างละเอียดเฉพาะทาง ให้บริการระบบที่มีความปลอดภัยสูง รวมถึงมีบริการหลังการขายดูแลลูกค้าตลอดอายุการใช้งาน แบบไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแน่นอน

ติดต่อ Cartrack หรือปรึกษาฟรีเพื่อค้นหาระบบที่เหมาะสมกับรถที่ใช้งานอยู่ โทร 021362920 , 021362921 หรือคลิกที่นี่เพื่อแอดไลน์ฝากข้อมูลชื่อและเบอร์โทร ให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด

มั่นใจแค่ไหนว่าบำรุงรักษายานพาหนะดีแล้ว? ชวนรู้จักงานซ่อมบำรุงยานพาหนะแบบใหม่ หน้าตาเป็นอย่างไร และเลือกอย่างไรจึงจะเหมาะสมกับรถใช้งานในธุรกิจของคุณที่สุด