การจับพวงมาลัยเป็นสิ่งพื้นฐานในการขับรถ หลาย ๆ คนมักจะมีท่าจับพวงมาลัยเป็นของตัวเอง ตามความสบายในเวลาขับรถ แต่รู้หรือไม่ว่า ท่าทางในการจับพวงมาลัยจะช่วยให้คุณสามารถควบคุมรถ และเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่อย่างมากในเวลาฉุกเฉินหรือเวลาเกิดเหตุฉับพลันที่คาดไม่ถึง
ท่าจับพวงมาลัยมีทั้งหมดกี่รูปแบบ และรูปแบบไหนที่เหมาะสมกับการขับขี่มากที่สุด มาติดตามข้อมูลที่น่าสนใจและนำไปใช้ได้จริงเหล่านี้ ไปพร้อม ๆ กับคาร์แทรค (CARTRACK) ผู้ให้บริการระบบ GPS ติดตามรถยนต์กันเลย
วันนี้เรามาดูท่าการจับพวงมาลัยที่เห็นโดยทั่วไปกันว่ามีท่าใดบ้าง ที่จะผลส่งถึงการควบคุมรถยนต์ และความปลอดภัยหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินกะทันหันต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น
จับพวงมาลัยในลักษณะมือใดมือหนึ่งจับอยู่บนสุดของพวงมาลัย แขนตึงเกือบสุด หรืออาจจะพาดกับที่พักแขนหรือขอบหน้าต่าง ส่วนมืออีกข้างอาจจะจับที่ส่วนล่างของพวงมาลัยหรือไม่จับเลย ท่านี้อาจจะทำให้รู้สึกสบายแต่ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน เพราะมือเพียงข้างเดียวมีน้ำหนักไม่เพียงพอในการควบคุมพวงมาลัยที่จะสะบัดรุนแรงขณะที่รถเริ่มมีอาการเสียหลัก และอาจจะประคองพวงลัยไม่ทันการ
และในการขับขี่ปกติท่านี้จะมีจุดหมุนที่สูง และหักเลี้ยวง่ายจนเกินไป เพราะเราสามารถหมุนแขนได้สะดวกมาก จนบางครั้งอาจทำให้เราควบคุมพวงมาลัยได้ลำบากและต้องเกร็งแขนในเวลาที่พวงมาลัยตีกลับหรือจะต้องหักกลับตรงกลาง โดยเฉพาะเวลาที่เราเปลี่ยนเลน หักหลบรถยนต์คันอื่นหรือสิ่งกีดขวางต่าง ๆ
จับพวงมาลัยในลักษณะวางมืออย่างสบาย ๆ ที่ส่วนล่างของพวงมาลัย โดยที่ไม่ต้องยกแขนขึ้น เป็นท่าที่ค่อนข้างผ่อนคลายเพราะไม่เมื่อยแขน แต่ก็ทำให้การเลี้ยวหรือบังคับก็จะทำได้ลำบาก เพราะข้อจำกัดของมุมข้อมือและแขน จนในบางครั้งถ้าต้องหักเลี้ยวฉุกเฉินอาจจะหักเลี้ยวไม่ทันหรือไม่พ้น และไม่มีแรงควบคุมพวงมาลัยมากพอหากเกิดการสะบัดที่รุนแรงเช่นกัน
จะวางมือลงบนส่วนที่เป็นแตรรถ หรือแกนกลางของพวงมาลัยในลักษณะคว่ำมือลง อาจจะมือเดียวหรือสองมือทั้งซ้ายและขวา ท่านี้จะทำให้มือรู้สึกผ่อนคลายเพราะไม่ต้องคอยกำพวงมาลัย เป็นการวางมือหลวม ๆ ลนบนแกนพวงมาลัยเท่านั้น
การจับลักษณะนี้จะทำให้การหมุนพวงมาลัยไม่สะดวก เพราะน้ำหนักจะถ่ายเทไปอยู่ที่เกือบกึ่งกลางของพวงมาลัย อาจจะพอช่วยบังคับการสะบัดของพวงมาลัยได้บ้าง แต่ด้วยการจับที่ไม่กระชับ ทำให้หมุนพวงมาลัยเพื่อแก้อาการรถส่ายได้ยาก
การจับพวงมาลัยทั้งสองมือ บริเวณ 9 และ 3 นาฬิกา มือกำหลวมไม่แน่นจนเกินไป จับให้ครอบคลุมส่วนก้านและแกนของพวงมาลัยพร้อมกัน ท่านี้เป็นท่าที่ปลอดภัยที่สุดและควบคุมได้ง่ายที่สุด เนื่องจากมีจุดหมุนและน้ำหนักที่สมดุลทั้งซ้ายขวา และใช้งานไฟเลี้ยว ไฟสูง ปัดน้ำฝน ได้อย่างสะดวกอีกด้วย
การจับพวงมาลัยในขณะขับรถอาจเป็นบุคลิกของใครของมัน ซึ่งจะให้จับแบบท่ามาตรฐานตลอดเวลาคงจะไม่ได้ อาจมีอาการเมื่อยล้าบ้าง เปลี่ยนท่าบ้างตามความสะดวก แต่หากต้องใช้ความเร็วสูง ต้องการความปลอดภัยมากกว่าในเวลาต้องเลี้ยวหรือเข้าโค้งด้วยความเร็ว ให้จับพวงมาลัยในลักษณะที่สามารถควบคุมได้ดีที่สุดจะปลอดภัยที่สุด
การขขับขี่ที่ปลอดภัยต้องเริ่มต้นมาจากพฤติกรรมที่ปลอดภัย ให้ GPS ติดตามรถยนต์จาก CARTRACK ช่วยเป็นหูเป็นตาให้คุณ ยกระดับการดูแลความปลอดภัยของรถและคนขับรถไปอีกขั้น ด้วยข้อมูลในระบบจัดการยานพาหนะที่รายงานผลแบบเรียลไทม์ ทั้งตำแหน่งของรถและข้อมูลการใช้รถ เช่น ช่วงที่มีการเบรกกะทันหัน หรือเข้าโค้งรุนแรง ซึ่งอาจเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุ หรือระยะเวลาที่มีการสตาร์ทรถจอดแช่ไว้ซึ่งเป็นสาเหตุของการเปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุ เป็นต้น
นอกจากนี้เรายังมีบริการติดตั้งเซนเซอร์วัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อใช้งานร่วมกับกล่อง GPS ติดตามรถ หรือกล้อง AI ซึ่งเป็นกล้อง GPS ติดรถในตัว ทำหน้าที่เป็น CCTV ให้กับรถใช้งานกับรถยนต์หรือรถบรรทุกของคุณ ราคาคุ้มค่า พร้อมยกระดับการทำงานให้ธุรกิจมีรถของคุณด้วยข้อมูลที่ชัดเจนและเป็นประโยชน์
หากสนใจสอบถามข้อมูล GPS รถเพิ่มเติมหรือขอใบเสนอราคา ทำได้ง่าย ๆ กรอกข้อมูลการติดต่อของคุณที่นี่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด ในช่วงเวลาทำการของเรา ระหว่างวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30 - 17.30 น.
สำหรับลูกค้าใหม่ CARTRACK! ติดตั้งวันนี้ ฟรีค่าติดตั้งและค่าอุปกรณ์กล่อง GPS จ่ายเพียงค่าบริการ พร้อมโปรโมชันพิเศษ รับเลยทันที โปรโมชันติดตั้ง GPS ติดรถยนต์ รถตู้ รถกระบะ GPS ติดตามรถบรรทุก จ่าย 10 เดือน ใช้ต่อเนื่อง 12 เดือน* (* เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)
ติดตาม CARTRACK (คาร์แทรค) เพิ่มเติมได้ที่
Facebook: Cartrack Thailand
Instagram: @cartrack.thailand
LINE: CARTRACK GPS หรือเข้าแอปฯ LINE เลือกเพิ่มเพื่อน เลือกค้นหา พิมพ์ @udi4517q ที่ ID และแอดเพื่อคุยสอบถามข้อมูลได้ทันที
การจับพวงมาลัยรถยนต์มีกี่แบบ แต่ละท่ามีผลต่อการขับขี่อย่างไร ควรจับท่าไหนถึงขับขี่ปลอดภัยมากที่สุด มาติดตามไปกับ CARTRACK ผู้ให้บริการ GPS ติดตามรถยนต์
