ปฏิเสธไม่ได้ว่ารถยนต์ที่ใช้งานในปัจจุบันนี้ ส่วนใหญ่แล้วก็ต้องมีเทคโนโลยี GPS ติดรถ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตัวรถด้วย เพราะนอกจากความสะดวกสบายในการไปไหนมาไหนของผู้ใช้รถ โดยมี GPS เป็นเครื่องทุ่นแรงในการนำทางได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังมีประโยชน์ในเรื่องของความปลอดภัยที่จะทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนน อุ่นใจในการเดินทางไปทำกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ ได้มากยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะใกล้หรือไกลแค่ไหนก็ตาม ซึ่งความปลอดภัยนี้ยังรวมไปถึงอุตสาหกรรมรถขนาดใหญ่อย่าง Cargo Truck หรือรถบรรทุกกระบะเหล็กที่ในปัจจุบันก็หันมาใช้เทคโนโลยี GPS นี้ด้วยเช่นกัน
Cargo Truck หรือ รถบรรทุกสินค้า มักเป็นรถบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ที่ใช้ในการขนส่งสินค้าที่มีน้ำหนักมาก หรือจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นพืชผลทางการเกษตรต่าง ๆ, เฟอร์นิเจอร์ของแต่งบ้าน, อุปกรณ์และวัสดุก่อสร้าง, วัสดุอุตสาหกรรมหลากหลายประเภทที่ไม่สามารถเคลื่อนคล้ายด้วยรถขนาดเล็กได้
ซึ่งรถในอุตสาหกรรมเหล่านี้จำเป็นต้องมีระบบความปลอดภัยที่เรียกว่า GPS Tracker เพื่อความปลอดภัยทางด้านท้องถนนและการขนส่งสินค้าต่าง ๆ ให้สามารถถึงที่หมายได้โดยสวัสดิภาพ และเพื่อเป็นการติดตามพฤติกรรมของผู้ขับรถประเภทนี้ด้วยว่าขับขี่ถูกต้องตามความเร็วที่กฎหมายกำหนดเอาไว้หรือไม่ รวมถึงใช้เพื่อติดตามงาน หรือเพื่อเช็กความปลอดภัยทั้งตัวสินค้า พนักงาน และรถบรรทุกของบริษัท ก็ทำได้ไม่ยาก
เมื่อเร็ว ๆ นี้กรมขนส่งทางบก ได้ออกมาประกาศให้ผู้ประกอบการหรือผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ รวมไปถึงรถบรรทุกขนาดใหญ่ทำการติดตั้ง GPS ทุกคัน เพื่อให้การขับขี่บนท้องถนนของรถเหล่านี้เป็นไปด้วยความปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการรวมไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องว่าจะไม่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ไม่ทำให้สินค้าที่บรรทุกมาได้รับความเสียหาย
โดยประโยชน์ของการติด GPS ในรถ Cargo Truck หรือรถบรรทุกกระบะเหล็ก มีประโยชน์ในระยะยาวที่แยกเป็นข้อ ๆ ได้ดังต่อไปนี้
เนื่องด้วยรถ Cargo Truck เป็นรถขนาดใหญ่ที่บรรทุกของด้วยน้ำหนักมากและปริมาณมาก การขับขี่บนท้องถนนจึงจำเป็นต้องใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดเอาไว้ ซึ่งการใช้ระบบ GPS Tracking จะเป็นเครื่องช่วยในการทำให้ผู้ขับขี่รถ Cargo Truck สามารถขับขี่อย่างปลอดภัยในความเร็วที่เหมาะสม
เพราะถ้าผู้ขับขี่ขับรถเกินกว่าความเร็วที่กฎหมายกำหนดเอาไว้ จะทำให้สัญญาณเตือนของ GPS ที่ติดตั้งไว้ดังขึ้น ซึ่งหลังจากนั้นระบบก็จะแจ้งไปยังกรมการขนส่งทางบกในเขตที่รถวิ่ง เพื่อออกหนังสือมาเตือนผู้ประกอบการหรือผู้ขับขี่ ทำให้เกิดการปรับปรุงพฤติกรรมการขับขี่ในภายภาคหน้า
นอกจากจะติด GPS ไว้เพื่อความปลอดภัยแล้ว GPS ของรถ Cargo Truck ยังทำให้รถบรรทุกสิ่งของต่าง ๆ ไปถึงที่หมายได้อย่างสะดวก รวดเร็วและทันเวลา ทำให้ไม่เกิดความล่าข้าในการขนส่ง เพราเราสามารถวางแผนเส้นทาง และเลือกใช้รถให้เหมาะสมกับตำแหน่งของที่หมายที่ต้องการจะไป เพื่อให้การเดินทางเป็นไปได้ความสะดวก ไม่หลงออกนอกเส้นทาง และไม่เจอการจราจรติดขัดจากการวางแผนการใช้รถที่ดีอีกด้วย
หากมีการวิ่งออกนอกเส้นทางหรือหยุดรถเพื่อทำกิจกรรมใด ๆ GPS จะสามารถระบุรายละเอียดของ Cargo Truck คันนั้น ๆ ได้อย่างละเอียด ทำให้ผู้ประกอบการหรือลูกค้าสามารถทวงถามติดตามความคืบหน้าของการมาถึงของสินค้าได้อย่างแม่นยำ
รวมถึงการติดตั้งเซนเซอร์น้ำมันหรือกล้องติดรถเพิ่มเติม ก็จะทำให้สามารถตรวจสอบระดับน้ำมันเชื้อเพลิง ตรวจสอบได้ว่ามีการทุจริตน้ำมันเกิดขึ้นหรือไม่ หรือแม้แต่การใช้กล้องติดรถเป็นหลักฐานเมื่อเกิดอุบัติเหตุที่สร้างความเสียหายให้กับชีวิตของพนักงานและทรัพย์สินของบริษัท
เนื่องด้วยใน GPS จะมีการระบุความเร็วของรถดังกล่าวเอาไว้อย่างชัดเจน ทำให้ผู้ประกอบการสามารถประเมินพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับขี่รายนั้น ๆ ได้ ว่าอยู่ในเกณฑ์ขับขี่ที่ปลอดภัยหรือไม่ หรือมีการหยุดพักล่าช้า และหลงออกนอกเส้นทางบ่อยครั้ง ซึ่งจะทำให้เกิดความมีวินัย ความตั้งใจ และการขับขี่อยู่บนความปลอดภัยมากขึ้นของผู้ขับขี่
ประโยชน์ของการติด GPS ให้กับ Cargo Truck หรือรถบรรทุกกระบะเหล็ก ถือเป็นสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐานที่ผู้ประกอบการรถบรรทุกจำเป็นต้องใช้ในการขับขี่เพื่อขนส่งสินค้าไปยังที่หมาย เพราะเนื่องด้วยสินค้าต่าง ๆ บนรถบรรทุกกระบะเหล็กหรือ Cargo Truck นั้น เป็นสินค้าที่มีน้ำหนักมาก และขนส่งในครั้งละปริมาณมาก ๆ ทำให้อาจจะเกิดอันตรายรุนแรงต่อคนรอบข้าง
หากรถเกิดอุบัติเหตุระหว่างทาง ประกอบกับทางกรมขนส่งทางบกให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยทางยานพาหนะของรถบรรทุกขนาดใหญ่ ด้วยการบังคับให้มีการติด GPS ทุกคัน ซึ่งเป็นจุดสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้คนที่สัญจรไปมาบนท้องถนน ว่าจะสามารถช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุหรืออันตรายต่าง ๆ บนท้องถนนได้
ทั้งนี้ สิ่งสำคัญของการติด GPS ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือรถบรรทุก ก็คือความปลอดภัย ทั้งต่อตัวผู้ใช้รถคันนั้น ๆ หรือผู้ใช้รถร่วมท้องถนน รวมไปถึงคนเดินเท้าข้างทาง
เพราะฉะนั้นหากมองเห็นความปลอดภัยของการขับขี่เป็นสำคัญ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมรถบรรทุกกระบะเหล็กที่มีอัตราความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุสูง ลองเลือกใช้บริการ GPS ติดรถที่ครอบคลุมและตอบโจทย์ทุกความปลอดภัยบนท้องถนนไปกับ CARTRACK กันดูได้เลย
จะเห็นได้ว่า GPS มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ดังนั้น ควรติดตั้งจีพีเอสกับ CARTRACK ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ GPS ติดรถที่มีทั้งประเภทบุคคลและธุรกิจ เพื่อให้คุณสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของยานพาหนะ และความปลอดภัยต่าง ๆ ของตัวผู้ขับขี่เอง หรือสินค้าที่บรรทุกไป และเพื่อให้สินค้าถึงเป้าหมายโดยสวัสดิภาพ ซึ่ง CARTRACK จะเป็นผู้ช่วยดูแลคุณในทุกย่างก้าวของการเดินทาง ให้คุณรู้สึกสบายใจได้เลย
หากสนใจสอบถามข้อมูล GPS รถเพิ่มเติมหรือขอใบเสนอราคา โทรสอบถามเจ้าหน้าที่ได้โดยตรงที่ 02-136-2920 , 02-136-2921 ได้ในช่วงวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30 - 17.30 น. หรือกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มด้านบน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้เรายังมีบริการติดตั้งเซนเซอร์น้ำมัน เพื่อใช้งานร่วมกับกล่อง GPS ติดตามรถ หรือกล้อง AI ซึ่งเป็นกล้อง GPS ติดรถแบบ CCTV ใช้งานกับรถยนต์หรือรถบรรทุกได้ ราคาคุ้มค่า พร้อมยกระดับการทำงานให้ธุรกิจมีรถของคุณด้วยข้อมูลที่ชัดเจนและเป็นประโยชน์
สำหรับลูกค้าใหม่ CARTRACK! ติดตั้งวันนี้ ฟรีค่าติดตั้งและค่าอุปกรณ์กล่อง GPS จ่ายเพียงค่าบริการ พร้อมโปรโมชันพิเศษ รับเลยทันที โปรโมชันติดตั้ง GPS ติดรถยนต์ รถตู้ รถกระบะ GPS ติดรถบรรทุก จ่าย 10 เดือน ใช้ต่อเนื่อง 12 เดือน* (* เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)
ติดตาม CARTRACK (คาร์แทรค) เพิ่มเติมได้ที่
Facebook: Cartrack Thailand
Instagram: @cartrack.thailand
LINE: CARTRACK GPS หรือเข้าแอปฯ LINE เลือกเพิ่มเพื่อน เลือกค้นหา พิมพ์ @udi4517q ที่ ID และแอดเพื่อคุยสอบถามข้อมูลได้ทันที
Cargo Truck หรือ รถบรรทุกสินค้า ทั้งขนาดเล็กหรือใหญ่ การใช้ GPS ติดรถในการติดตามงาน หรือเพื่อเช็กความปลอดภัยทั้งตัวสินค้า รถบรรทุกของบริษัท ก็ทำได้ไม่ยาก