BLOGS

ไขข้อสงสัย..ไฟหรี่รถยนต์ มีไว้ทำไม?

ลูกค้าใหม่เท่านั้น! ต้องการติดตั้ง GPS Cartrack วันนี้ ปรึกษาฟรี!

ฉันเป็น / ...
จำนวนยานพาหนะของคุณ
ขอบคุณค่ะ เจ้าหน้าที่คาร์แทรคจะติดต่อกลับหาคุณโดยเร็วที่สุด
Oops! Something went wrong while submitting the form.

เชื่อว่าหลายคนต้องจำได้ มียุคหนึ่งที่รถบนท้องถนนนิยมติดไฟหลากหลายสีสัน แทนที่จะเป็นสีขาวหรือสีเหลืองตามที่ควรจะเป็น การกระทำแบบนี้ผิดกฎหมายไหม ไฟหรี่ที่ถูกต้องควรเป็นอย่างไร

บทความตอนนี้ของคาร์แทรค (CARTRACK) ผู้ให้บริการระบบ GPS ติดตามรถและระบบจัดการยานพาหนะที่ได้รับการรับรองการกรมการขนส่งทางบก (DLT) เราจะมาไขทุกข้อข้องใจและข้อควรรู้ เพื่อไม่ให้คุณทำผิดกฎจราจร และเสี่ยงเสียค่าปรับโดยไม่จำเป็นกัน

บทความตอนนี้ชวนคุยเรื่อง:

  • เปิดไฟหรี่ตลอดจะทำให้เปลืองแบตเตอรี่หรือไม่?
  • พฤติกรรมการใช้ไฟหรี่รถยนต์ในต่างประเทศ
  • ไฟหรี่แฟชั่น หรือ ไฟไอติมท้ายรถ ถูกกฎหมายหรือไม่?
  • โทษสำหรับผู้ที่ติดตั้งไฟหรี่แบบผิดกฎหมาย

เปิดไฟหรี่ตลอดจะทำให้เปลืองแบตเตอรี่หรือไม่?

ยังมีประเด็นหนึ่งที่เป็นที่ถกเถียงกันมากในสังคมออนไลน์ว่า การเปิดไฟหรี่รถยนต์ไม่ควรเปิดพร่ำเพรื่อ เพราะจะทำให้เป็นการเปลืองไฟ กินแบตเตอรี่รถยนต์ 

ซึ่งมีการสอบถามจากกูรูด้านรถยนต์มาแล้ว ได้คำตอบว่า ในโรงงานผลิตรถยนต์นั้นจะต้องมีการถูกออกแบบมาแล้วอย่างดีเยี่ยมว่าต้องใช้แบตเตอรี่เท่าใด ดังนั้นแบตเตอรี่ที่มีการคำนวณไว้ จะครอบคลุมการใช้ไฟหรี่รถยนต์อยู่เสมอ 

ด้วยเหตุนี้คุณจึงไม่ต้องกังวลว่าการเปิดไฟหรี่จะทำให้สิ้นเปลืองแบตเตอรี่แต่อย่างใด ที่สำคัญ รถที่ผลิตในปีหลัง ๆ รุ่นใหม่ ๆ โดยเฉพาะที่ใช้ระบบพลังงานสะอาด หรือ อีโคคาร์ (ECOCAR) มักจะเป็นหลอดไฟแบบ LED ซึ่งเรียกได้ว่าประหยัดไฟอย่างที่สุด คุณจึงตัดความกังวลส่วนนี้ได้เลย

พฤติกรรมการใช้ไฟหรี่รถยนต์ในต่างประเทศ

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อาศัยในต่างประเทศ หรือท่องเที่ยวต่างประเทศบ่อยครั้ง จะสังเกตได้ว่า ต่างประเทศจะนิยมเปิดไฟหรี่รถยนต์กันตลอดเวลา โดยเฉพาะทางยุโรปและสหรัฐอเมริกา เนื่องจากเป็นวัฒนธรรมการขับรถข้อหนึ่ง ที่ช่วยเสริมความปลอดภัยในการใช้ท้องถนนได้มาก

ยิ่งกว่านั้นคุณอาจพบว่า ชาวต่างชาตินิยมเปิดไฟหน้ารถยนต์ แทนการใช้ไฟหรี่รถยนต์ที่แสงเบากว่าด้วยซ้ำ เพราะมีความตระหนักเสมอว่าการขับรถในช่วงที่วิสัยทัศน์การมองเห็นระยะสั้นลง จะเสี่ยงต่ออุบัติภัยสูงมาก

เราอาจจะคิดว่า การเปิดไฟหรี่รถยนต์จะชดเชยด้วยการจอดรถใต้เสาไฟฟ้า หรือบริเวณที่มีแถบจราจรสะท้อนแสงอยู่แล้ว ก็จะรอดพ้นจากอุบัติภัยได้นั้น ก็ขอให้คิดเสียใหม่ว่า การเปิดไฟหรี่รถยนต์เป็นการทวีคูณการเพิ่มความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของคุณ โดยเฉพาะรถที่มีเด็กเล็ก ๆ ที่นอกจากควรต้องติดป้าย “มีเด็กในรถ” แล้ว ก็ควรใส่ใจกับการเปิดไฟหรี่รถยนต์ให้มากขึ้นด้วย

ไฟหรี่แฟชั่น หรือ ไฟไอติมท้ายรถ ถูกกฎหมายหรือไม่?

ล่าสุด ยังมีความนิยมเรื่องการติดไฟหรี่รถยนต์แบบแฟชั่น ที่เรียกกันติดปากว่า ไฟแบบไอติม หรือ ไฟไอติม เพราะมีสีสวยสะท้อนแสง ทั้งสีส้ม เหลือง เขียว ฟ้า ชมพูและน้ำเงิน แลดูคล้ายแท่งไอศกรีมติดท้ายรถ เรียกได้ว่าให้ความสวยงามสะดุดตาและโดดเด่นมาก 

แต่ในทางกฎหมายนั้น ถือว่าเป็นเรื่องผิดเพราะว่าทำให้เกิดการรบกวนสายตาต่อผู้ใช้ถนนร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นหลอดไฟแบบทั่วไป หรือ หลอดไฟแบบ LED ก็ตาม

ทั้งนี้ ความฮิตของไฟหรี่รถยนต์ ชนิดไฟแบบไอติม ไม่แน่ชัดว่ามาจากวงการนักแต่งรถในสนามแข่ง หรือมาจากหนังภาพยนตร์เรื่องใด แต่ในชีวิตจริง เนื่องจากเป็นเรื่องไม่ยากที่จะติดตั้งแทนไฟหรี่รถยนต์ปกติ ที่ติดมากับรถยนต์จากโรงงาน เพราะเป็นหัวแบบ T10 และ T20

ยังมีการเก็บสถิติพบว่าการใช้ไฟแบบไอติมเป็นไฟหรี่รถยนต์ นอกจากจะทำให้เกิดแสงสว่างรบกวนต่อสายตาผู้ที่ขับรถตามหลังมา เช่น ช่วงที่จอดรอจังหวะรถติด หรือรถที่ขับต่อกันเป็นสายยาว เวลาขึ้นทางด่วน ที่ไม่สามารถเลี่ยงเปลี่ยนเลนหนีได้ ยังทำให้เกิดการระคายเคืองตา ตาพร่า และส่งผลต่อการกะระยะการขับขี่ได้ ดังนั้นไฟหรี่รถยนต์จึงไม่ควรเปลี่ยนไส้หลอดไฟ หรือเปลี่ยนสีหลอดไฟจากเดิมโดยเด็ดขาด

เพราะนอกจากจะมีการวิจัยมาแล้วในขั้นตอนการออกแบบว่า รูปแบบที่บริษัทเลือกคัดสรรมานั้นดีที่สุดต่อความปลอดภัยและวิสัยทัศน์ของผู้ขับขี่และผู้ใช้ถนนแล้ว ยังมีการควบคุมด้วยกฎหมาย เช่น ในไทย มี พรบ.การจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ที่กล่าวถึงส่วนของไฟหรี่รถยนต์ต่าง ๆ ว่าโคมต่าง ๆ ต้องเป็นสีขาว หรือ สีเหลืองอำพันเท่านั้น 

ยกเว้นไฟเบรกที่ต้องเป็นสีแดง และแม้แต่ไฟส่องป้ายทะเบียน หากมีการติดตั้งเปิดใช้ก็ต้องเป็นสีขาว และต้องติดตั้งส่วนบังแสงหรือโคมไม่ให้เกิดแสงแยงตาผู้ขับขี่รถยนต์ตามมาด้วย

โทษสำหรับผู้ที่ติดตั้งไฟหรี่แบบผิดกฎหมาย

สำหรับคนที่ฝ่าฝืนเรื่องการเปลี่ยนไฟหรี่รถยนต์ปกติให้เป็นไฟแบบไอติมนั้น กฎหมายฉบับเดียวกัน คือ พรบ. รถยนต์ 2522 มาตรา 12 ได้ระบุไว้ใจความว่า การกระทำดังกล่าว ทำให้เกิดอันตราย ต่อร่างกาย (เช่น อุบัติเหตุรถชนจากตาพร่ามัว และการกะระยะผิดพลาด) และส่งผลต่อจิตใจ คือสร้างความรำคาญอย่างต่อเนื่องต่อผู้ขับขี่คันอื่น จะส่งผลให้รถคันนั้นถูกบังคับให้หยุดใช้ จนกว่าจะแก้ไขไฟหรี่รถยนต์ให้กลับคืนสภาพปกติ และจำเป็นต้องมีการปรับ ไม่เกินสองพันบาท สำหรับผู้ที่ทำผิดกฎนี้ด้วย

ดังนั้นจำให้ดีว่า การใช้ไฟหรี่รถยนต์ควรใช้ตามวัตถุประสงค์ของการผลิตและออกแบบ ไม่ควรดัดแปลง จนทำให้เกิดความเสี่ยงต่ออุบัติภัยในการใช้ท้องถนนร่วมกันถึงจะดีที่สุด

แล้วกลับมาพบกับบทความดี ๆ จาก CARTRACK ได้ใหม่ในตอนหน้า เราจะนำเรื่องราวสารพันที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้รถและเจ้าของรถมาฝากคุณอีกแน่นอน

ติดตาม CARTRACK (คาร์แทรค) เพิ่มเติมได้ที่

Facebook: Cartrack Thailand

Instagram: @cartrack.thailand‍

LINE: CARTRACK GPS หรือเข้าแอปฯ LINE เลือกเพิ่มเพื่อน เลือกค้นหา พิมพ์ @udi4517q ที่ ID และแอดเพื่อคุยสอบถามข้อมูลได้ทันที

ไฟหรี่รถยนต์มีไว้ทำไม

สำหรับคนที่ขับรถ อาจสงสัยว่า ไฟหรี่รถยนต์ มีไว้เพื่อประโยชน์อะไร? เพราะคนส่วนใหญ่แทบไม่ได้เปิดใช้ แท้ที่จริงแล้ว ไฟหรี่รถยนต์ใช้ได้หลายกรณี