เรามักทราบกันโดยทั่วไปแล้วว่าขณะขับรถ เราไม่ควรทำอะไรบ้าง เช่น เล่นมือถือไปด้วย ขับขณะมีอาการมึนเมา หรือการไม่เคารพกฎจราจร เพื่อลดความอันตรายหรืออุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องมีคนแอบทำสิ่งเหล่านี้อยู่
วันนี้คาร์แทรค (CARTRACK) ผู้ให้บริการ GPS ติดตามรถและกล้องติดหน้ารถ ในไมย จะชวนคุณมาดูกันว่า 9 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำขณะใช้รถ หรือพฤติกรรมที่เราไม่เคยรู้มาก่อนว่าไม่ควรทำ มีข้อไหนที่ตรงกับเราบ้าง ไปดูกันเลย
บริเวณที่พักเท้าคนขับ หมายถึงทั่วทั้งบริเวณที่วางเท้าของคนขับนั้นเอง หลาย ๆ คนมักวางรองเท้าไว้เพื่อสับเปลี่ยน วางขวดน้ำไว้เพื่อดื่มหรือเติมหม้อน้ำ หรือนั้นนี่อื่น ๆ การวางของไว้บริเวณนี้อันตรายมาก เพราะเมื่อรถวิ่งหรือมีการเบรก สิ่งของเหล่านี้ อาจจะเข้าไปติดกับแป้นคันเร่งหรือเบรกได้ ทำให้ไม่สามารถเหยียบเบรกในสถานการณ์ฉุกเฉินได้
การถอดรองเท้าขับรถก็อยู่ในกรณีนี้เช่นกัน เมื่อรองเท้าไหลไปติดกับแป้นเบรกแล้วละก็ คุณคงทราบดีว่า เมื่อคุณไม่สามารถเหยียบเบรกเพื่อให้รถหยุดหรือชะลอได้ จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ หรือหากติดแล้ว ก้มลงไปหยิบออกก็อาจเกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน ดังนั้นควรระวังกันด้วย
สิ่งหนึ่งที่อันตรายไม่แพ้อาการเมาแล้วขับ นั้นคือ ความง่วง นั่นเอง หากคุณอดหลับอดนอน เลิกงานดึก ปาร์ตี้สุดเหวี่ยงมาทั้งคืน หรือคุณอาจผ่านสัปดาห์ที่สุดหินมา ทำให้คุณเหนื่อยล้า แต่ต้องขับรถระยะกลางหรือระยะไกล เพื่อไปทำงาน หรือกลับบ้าน อาจทำให้คุณผล็อยหลับ มีอาการหลับใน และเกิดอุบัติเหตุได้
ทางที่ดี คุณควรพักผ่อนให้เต็มที่ก่อนขับรถทางไกลเสมอ หรือหากคุณรู้สึกเริ่มง่วงขณะที่ขับรถอยู่ ให้หาที่พักรถที่ใกล้ที่สุด เช่นปั๊มน้ำมัน จุดพักรถต่าง ๆ หรือจุดที่มีไฟสว่างปลอดภัยมีผู้คนพลุกพล่านผ่านไปมา เพื่อพักผ่อนในรถซักงีบแล้วจึงค่อยเดินทางต่อ
การให้เด็กเล็กโดยสารไปด้วยในรถ เด็กอาจมีอาการงอแงหรือต้องคอยดูแลอยู่ตลอด ผู้ปกครองส่วนใหญ่มักนำเด็กเล็กมานั่งตักด้วย พฤติกรรมแบบนี้ เป็นสิ่งที่ค่อนข้างอันตราย เพราะเมื่อหากเกิดอุบัติเหตุถุงลมจะพองตัวออกมาด้วยความเร็วสูงถึง 300 กม./ชม. ทำให้เป็นอันตรายได้
พวงกุญแจน่ารัก เท่ ๆ เพื่อความสวยงาม อาจจะทำความเสียหายโดยที่เราไม่รู้ตัว กุญแจรถแบบดอกที่ยังต้องเสียบรูกุญแจเพื่อสตาร์ท หากตัวกุญแจมีน้ำหนักมากเกินไป จะส่งผลให้สวิตช์กุญแจเลื่อน หรือเสื่อมเร็วขึ้นได้ แต่หากเป็นกรณีกุญแจแบบ Keyless Entry ที่ไม่จำเป็นต้องเสียบรูกุญแจ ก็ไม่มีปัญหาอะไร
ในรถที่ยังเป็นเกียร์ธรรมดาอยู่ หรือบรรดารถใหญ่ต่าง ๆ ที่มักชอบเหยียบคลัทช์ค้างไว้ขณะจอดติดไฟแดง หรือรถติดนาน ๆ เพื่อจะที่ออกตัวได้เร็วขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่าการกระทำเหล่านี้จะทำให้แม่ปั๊มคลัทช์เสื่อมเร็วขึ้น หากอาจทำให้คลัทช์จม คลัทช์ลื่นได้
หลายคนชอบปล่อยให้น้ำมันจะหมดถังจะสุดก่อนแล้วจึงค่อยไปเติม นั้นอาจส่งผลให้ตะกอนที่อยู่ก้นถังน้ำมันเข้าไปอุดตันในปั๊มของน้ำมันเชื้อเพลิง และทำให้เกิดความเสียหายขึ้นได้ อีกทั้งยังทำให้ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงต้องทำงานหนักกว่าปกติด้วย ซึ่งอาจทำให้หัวปั๊มเสื่อมและพังได้เร็วขึ้น
เท้าซ้ายใช้เบรก เท้าขวาใช้คันเร่ง การวางเท้าซ้ายบนแป้นเบรกตลอดเวลา แม้น้ำหนักเท้าเพียงเล็กน้อย แต่ก็อาจทำให้ไฟเบรกด้านท้ายสว่างค้างได้ อาจสร้างความเข้าใจผิดให้กับรถคนหลัง และเมื่อเวลาที่คุณต้องจะชะลอความเร็วจริง ๆ รถคันข้างหลังก็จะไม่สามารถทราบได้ว่าคุณกำลังจะชะลอความเร็ว และอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
นอกจากนั้น หากคุณใช้เท้าทั้งสองข้างพร้อมกัน ความสับสนจะเกิดขึ้นเมื่อมีสถานการณ์ฉุกเฉิน คุณอาจจะเหยียบคันเร่งแทนที่จะต้องเหยียบเบรกได้ และในทางกลับกันหากคุณต้องการเร่งเครื่องคุณอาจจะเหยียบเบรกแทน
การเผลอเหยียบเบรกค้างไว้ขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่ จะส่งผลให้ผ้าเบรกแตะกับจานเบรกเกิดแรงเสียดสีกันทำให้เกิดความร้อน ผ้าเบรกก็จะหมดไวกว่าปกติ และรถจะเร่งไม่ขึ้น ทำให้คุณต้องเหยียบคันเร่งเพิ่มบวกกับแรงเสียดสีของเบรกที่เพิ่มขึ้น
เป็นเรื่องปกติสำหรับใครหลายคน ที่จะรับประทานอาหารต่าง ๆ บนรถในขณะขับรถ ทั้งมื้อเล็กหรือใหญ่ อาจจะดูไม่เป็นรัยแต่หากคุณเป็นคนโชคร้ายที่ในขณะที่คุณกำลังมือเลอะจากการจับอาหาร ทำให้คุมพวงมาลัยไม่ได้เวลาคับขัน หรือทำอาหาร เครื่องดื่มต่าง ๆ หกเลอะเทอะจนคุณเสียสมาธิ ก็สามารถเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน อีกทั้งยังอาจทำให้มีกลิ่นอาหารติดรถคุณไปอีกนาน
การเดินทางระยะใกล้ หรือไกล ก็ควรมีการตรวจสอบความพร้อมของเครื่องยนต์เสมอ คุณอาจไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องเกี่ยวกับเครื่องยนต์ลึกซึ้ง แต่คุณควรทราบการดูแลเบื้องต้นเกี่ยวกับ ระดับน้ำมันเครื่อง ความร้อน ระดับน้ำในหม้อน้ำ เป็นต้น เพื่อให้รถของคุณพร้อมใช้งานอยู่เสมอ และไม่เกิดเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้นกลางทาง
อีกสิ่งที่คุณควรให้ความสนใจคือ ไฟเตือนสถานะต่าง ๆ ที่แดชบอร์ดหรือแป้นจอเลขไมล์ ซึ่งจะบอกให้ทราบว่ารถของคุณกำลังมีอะไรผิดปกติหรือไม่ เพราะหลายคนจะชินกับการขึ้นรถและขับออกไปโดยที่จะสังเกตแค่ระดับน้ำมันเท่านั้น ดังนั้นทุกครั้งที่คุณใช้รถควรสังเกตไฟเตือนต่าง ๆ เหล่านี้ด้วย มิฉะนั้นอาจส่งผลกับเครื่องยนต์ในระยะยาวได้
นี่เป็นเพียง 9 พฤติกรรม ที่ไม่ควรทำ ซึ่งพฤติกรรมบางส่วนเหล่านี้อาจทำให้คุณเสียสมาธิ หรือทำให้เกิดอันตรายได้ บางอย่างที่เรามองข้ามไปอาจส่งผลร้ายแรงอย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อน สร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินหรือชีวิตได้เลยทีเดียว ดังนั้นควรมีความระมัดระวังในพฤติกรรมในการใช้รถให้มาก
สำหรับท่านใดที่มีรถใช้งานในธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนส่ง ก่อสร้าง รถเช่า หรือโลจิสติกส์รูปแบบอื่น ๆ ถ้าคุณเคยคิดว่าการติดตามพฤติกรรมคนขับขณะขับรถเป็นเรื่องยาก CARTRACK ช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ง่าย ๆ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องอยู่กับรถตลอดเวลา
เพียงติดตั้งกล้องติดหน้ารถ ระบบ AI จาก CARTRACK ระบบกล้องอัจฉริยะที่สามารถตรวจจับพฤติกรรมเสี่ยงอันตรายขณะขับขี่ของพนักงานขับรถแบบเรียลไทม์ พร้อมแจ้งเตือนให้หยุดพฤติกรรมนั้นได้ทันที เก็บภาพชัดเจนทั้งกลางวันและกลางคืนด้วยระบบกล้องอินฟาเรด หรือจะนำฟุตเทจวิดีโอมาใช้อบรมและปรับปรุงพฤติกรรมของพนักงานขับรถของคุณได้ ลดโอกาสต้องเสียค่าใช้จ่ายด้านค่าปรับที่ไม่จำเป็น
โอกาสพิเศษ CARTRACK เปิดให้คุณชมสาธิตการใช้งานระบบ GPS ติดตามรถ ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย กรอกข้อมูลติดต่อกลับของคุณ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด ในช่วงวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30 - 17.30 น.
สำหรับลูกค้าคนสำคัญเช่นคุณ! ติดตั้งวันนี้ ฟรีค่าติดตั้งและค่าอุปกรณ์ GPS จ่ายเพียงค่าบริการ พร้อมโปรโมชันพิเศษ รับเลยทันที โปรโมชันติดตั้ง GPS ติดรถยนต์ รถตู้ รถกระบะ GPS รถบรรทุก จ่าย 10 เดือน ใช้ต่อเนื่อง 12 เดือน* (* เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)
ติดตาม CARTRACK (คาร์แทรค) เพิ่มเติมได้ที่
Facebook: Cartrack Thailand
Instagram: @cartrack.thailand
LINE: CARTRACK GPS หรือเข้าแอปฯ LINE เลือกเพิ่มเพื่อน เลือกค้นหา พิมพ์ @udi4517q ที่ ID และแอดเพื่อคุยสอบถามข้อมูลได้ทันที
เรามักทำอะไรในขณะขับรถหรือมีพฤติกรรมบางอย่าง ที่อาจทำให้เกิดอันตรายได้โดยไม่รู้ตัว พฤติกรรมที่เราไม่รู้เหล่านี้ อาจก่อให้เกิดปัญหาได้ มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง