BLOGS

อัพเดตการต่อใบอนุญาตขับรถ ฉบับรวบรัด 2561

คุณต้องการให้ คาร์แทรค ช่วยเหลือเรื่องอะไร?

ฉันเป็น / ...
จำนวนยานพาหนะของคุณ
ขอบคุณค่ะ เจ้าหน้าที่คาร์แทรคจะติดต่อกลับหาคุณโดยเร็วที่สุด
Oops! Something went wrong while submitting the form.

สำหรับผู้ที่กำลังต่อใบอนุญาตขับรถ หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า “ต่ออายุใบขับขี่” ในปี 2561 นี้เรียกได้ว่ามีข่าวดีจากกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม เนื่องจากมีการออกแคมเปญใหม่ และสื่อสารทางหน้าเว็บไซต์หลักและช่องทางต่าง ๆ ว่า ปัจจุบัน กรมการขนส่งฯ พร้อมให้บริการแก่ผู้ขับขี่รถยนต์ ในการต่อใบอนุญาตขับรถในช่วงวันหยุด เสาร์และอาทิตย์ได้แล้ว

การอบรมโดยผู้เชี่ยวชาญช่วยให้ความรู้ในการขับขี่ที่ถูกต้อง

ทั้งนี้ เป็นโครงการร่วมที่กรมการขนส่งทางบก หรือ ขบ. ได้ร่วมกับองค์กรภาคีภาคเอกชนในการจัดอบรมตามกฎหมาย เพื่อให้ความรู้-ทบทวนความเข้าใจแก่ผู้ที่จะมาสอบใบขับขี่ในช่วงวันหยุดจากการทำงานของคนส่วนใหญ่คือ วันเสาร์และวันอาทิตย์ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติมจากค่าธรรมเนียมปกติ

โดยมีการจัดโปรแกรมดังนี้ ในวันเสาร์จะเป็นการอบรมโดยผู้เชี่ยวชาญงานจราจรและความปลอดภัย เพื่อให้ผู้ที่จะสอบใบอนุญาตขับรถได้มีความรู้และความเข้าใจอย่างถูกต้องเป็นเวลาครึ่งวัน หรือ ราว 5 ชั่วโมง รวมถึงได้ทบทวนเรื่องมารยาทในการขับขี่ และการปฐมพยาบาลเมื่อมีผู้บาดเจ็บอยู่ในบริเวณนั้น

ส่วนวันอาทิตย์จะเป็นการสอบใบอนุญาตขับรถภาคปฏิบัติ โดยจะเป็นระบบการสอบข้อเขียนผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ตหรือ E-EXAM และสอบขับรถในสนามจริง โดยเริ่มทำโปรแกรมนี้ครั้งแรกเมื่อ 24-25 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา และได้เสียงตอบรับที่ดีจากประชาชนที่มาสอบใบขับขี่

เอกสารที่ต้องใช้ประกอบในการขอ ใบอนุญาตขับรถ

ทั้งนี้ ในส่วนของเอกสารที่ต้องใช้สำหรับการต่อใบอนุญาตขับรถ ต้องเตรียมหลักฐานต่อไปนี้ให้พร้อม

  1. ใบอนุญาตขับรถใบเก่า หรือ ใบขับขี่ที่หมดอายุ
  2. บัตรประชาชนของตัวเอง แนะนำให้ทำสำเนาไปให้พร้อมหลาย ๆ ชุด
  3. หากมีการเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล ต้องมีเอกสารราชการไปเป็นหลักฐานให้ครบถ้วน
  4. ต้องขอใบรับรองแพทย์ หรือใบตรวจสุขภาพทั่วไปรับรองว่าไม่เป็นโรค (ต้องขอจากคลินิกก่อนวันที่มาสอบใบขับขี่เพื่อความรวดเร็ว)

ถ้ามีเอกสารครบทั้งสี่ข้อข้างต้นแล้ว ก็นำไปติดต่อเคาน์เตอร์เจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการได้เลย ทั้งนี้ปัจจุบัน กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ได้มีการปรับปรุงโครงสร้างการทำงานให้มีความทันสมัย และเป็นปัจจุบันแบบเรียลไทม์ คือ เชื่อมโยงข้อมูลกันตลอด 24 ชั่วโมง

การต่ออายุที่สามารถทำได้ทุกที่ทั่วจังหวัด

ด้วยระบบที่ชื่อว่า MDM ทำให้ตอบโจทย์การใช้บริการของประชาชนได้อย่างดีเยี่ยม และที่สำคัญผู้ใช้บริการต่อใบอนุญาตขับรถหรือต่ออายุใบขับขี่ ไม่จำเป็นต้องไปที่สำนักงานขนส่งจังหวัดที่เป็นภูมิลำเนาอีกแล้ว (ไปทำที่จังหวัดใดก็ได้ทั่วประเทศ เพราะข้อมูลมีการเชื่อมโยงกันหมด)

เนื่องจาก มีการสำรวจพบว่าคนไทยวัยแรงงานส่วนใหญ่มีการทำงานในจังหวัดที่ต่างภูมิลำเนามากขึ้นเรื่อย ๆ หากต้องเดินทางไปมาระหว่างที่ทำงานกับสำนักงานขนส่งฯ นอกจากจะเสียเวลาแล้ว ยังเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เป็นการซ้ำเติมปัญหาทางการเงินให้แก่ประชาชน ซึ่งกระทรวงคมนาคมเข้าใจตรงจุดนี้ จึงได้ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานให้ตอบโจทย์และแก้ปัญหาประชาชนได้มากขึ้น

การตรวจวัดสายต่อ และการตรวจความสมบูรณ์ของร่างกาย

ทั้งนี้ ในปัจจุบัน การต่อใบอนุญาตขับรถนอกจากต้องมีเอกสารสำหรับให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างครบถ้วนแล้ว ยังต้องมีการตรวจความสมบูรณ์พร้อมของร่างกาย เช่น การมองเห็น สายตาสั้น-ยาว-เอียงผิดปกติที่ส่งผลต่อวิสัยทัศน์การมองเห็น การทดสอบความสมบูรณ์ของร่างกาย และโรคประจำตัวที่ห้าม คือโรคลมชัก เพราะอาจเกิดอาการกำเริบในระหว่างขับรถ ทำให้เสี่ยงต่ออุบัติเหตุและเป็นอันตรายต่อตัวเองและผู้ใช้ถนนร่วมกันได้

ต้องสอบข้อเขียนด้วยหรือไม่?

นอกจากนี้ สำหรับผู้ขับขี่รถ ที่มีใบอนุญาตขับรถอยู่แล้ว กฎหมายระบุว่า หากปล่อยให้หมดอายุไปแล้ว ในช่วง 1 – 3 ปี จะต้องมีการสอบข้อเขียนเพิ่มเติม แต่หากอายุใบอนุญาตขับรถขาดเกิน 3 ปีขึ้นไป นอกจากต้องสอบข้อเขียนแล้วยังต้องสอบขับรถและต้องตรวจร่างกายมีใบรับรองแพทย์มาใช้สำหรับการต่อใบอนุญาตขับรถอีกด้วย

ค่าใช้จ่าย

สำหรับผู้ที่พร้อมทั้งความรู้ความเข้าใจ และผ่านการสอบทักษะต่าง ๆ ทั้งข้อเขียนและภาคปฏิบัติด้วยการขับรถในสนามทดสอบของกรมการขนส่งทางบกแล้ว ก็จะเข้ามาสู่การเตรียมค่าธรรมเนียมในการต่อใบอนุญาตขับรถ ซึ่งแบ่งได้เป็นค่าใช้จ่าย 3 ส่วนด้วยกัน คือ

  1. เงินสด 605 บาท สำหรับเป็นค่าทำใบอนุญาตขับรถ
  2. เงินสด 100 บาท สำหรับเป็นค่าถ่ายรูปและการพิมพ์บัตรสำหรับพกติดตัว
  3. เงินสด 5 บาท สำหรับเป็นค่าหนังสือราชการ “คำร้อง”

รวมแล้วเบ็ดเสร็จก็เป็นเงิน 710 บาท ที่ต้องใช้ในการต่อใบอนุญาตขับรถซึ่งอย่างที่ กรมการขนส่งทางบก แจ้งไว้แต่ต้นว่าการเปิดบริการต่อใบอนุญาตขับรถในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์จะไม่มีการคิดค่าจัดอบรมหรือค่าธรรมเนียมพิเศษใด ๆ เพิ่มเติมจากนี้อีก จึงเรียกว่าเป็นข่าวดีของผู้ขับขี่รถยนต์ที่ไม่ต้องหาวันลางาน เพราะสามารถไปที่สำนักงานขนส่งฯ ในจังหวัดที่อยู่ขณะนั้นได้เลย (ไม่จำเป็นต้องกลับไปที่ภูมิลำเนาอีกต่อไปแล้ว)

การเตรียมต่ออายุใบขับขี่ล่วงหน้านั้นสามารถทำได้

สำหรับผู้ที่มีข้อสงสัย ว่าหากรู้ตัวอยู่แล้วว่าใบอนุญาตขับรถ จะหมดอายุในวันใด จะสามารถไปติดต่อสำนักงานขนส่งฯ เพื่อขอต่อใบอนุญาตขับรถก่อนวันนั้นได้ล่วงหน้าหรือไม่? ในส่วนนี้ กรมการขนส่งฯ ได้ให้ข้อมูลไว้ เป็นเรื่องน่ายินดีที่ผู้ขับขี่ใส่ใจและตระหนักในความสำคัญของการต่ออายุ ใบอนุญาตขับรถ

โดยในปัจจุบัน ประชาชนสามารถไปขอต่อใบอนุญาตขับรถล่วงหน้าได้ก่อนถึงวันหมดอายุ เป็นเวลา 3 เดือน หรือ 90 วันล่วงหน้า สำหรับผู้ที่ใบอนุญาตขับรถมีอายุ 5 ปี ซึ่งใบอนุญาตขับรถใบใหม่ที่ได้ ก็จะมีอายุ 5 ปีเช่นเดียวกัน แต่ผู้ที่มีใบอนุญาตขับรถเป็นแบบชั่วคราว มีอายุไม่เกิน 1 ปี สามารถไปขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถล่วงหน้าได้ใน 2 เดือน คือ ไม่เกิน 60 วันเท่านั้น (น้อยกว่าแบบแรก 1 เดือน) ทั้งนี้ ใบอนุญาตขับรถที่ได้ใหม่ จะมีอายุ 5 ปี

สำหรับผู้ที่กำลังต่อใบอนุญาตขับรถ หรือ “ต่ออายุใบขับขี่” กรมการขนส่งทางบก แจ้งว่าสามารถต่อใบอนุญาตขับรถในช่วงวันหยุด เสาร์และอาทิตย์ได้แล้ว