Google Maps คือบริการของ Google ที่ให้บริการเทคโนโลยีด้านแผนที่ประสิทธิภาพสูง ใช้งานง่ายและให้ข้อมูลของธุรกิจในท้องถิ่น ได้แก่ ที่ตั้งของธุรกิจ รายละเอียดการติดต่อและเส้นทางการขับขี่ โดยบริการแผนที่นี้เริ่มต้นให้บริการตั้งแต่กลางปีคริสต์ศักราช เป็นบริการฟรีจัดให้แก่ผู้ใช้ทั่วโลกส่วนประกอบที่สำคัญที่ดึงดูดผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก คือแผนที่และภาพถ่ายดาวเทียมคุณภาพดีซึ่งครอบคลุมพื้นผิวโลก ในมาตราส่วนต่าง ๆ ตามความเหมาะสม
นอกจากนี้ Google Maps เป็นแอพพลิเคชั่น (Application) ที่สร้างมาเพื่อใช้ประโยชน์ในเรื่องการค้นหาสถานที่ต่าง ๆ และเส้นทางที่ใช้ในการเดินทาง ค้นหาสถานที่ใกล้เคียง วัดระยะทาง และคำนวณระยะทาง ฯลฯ ในการใช้แผนที่ Google Maps สามารถเลือกดูแผนที่ได้ 4 แบบ คือ แผนที่ (Map) แผนที่จากภาพถ่ายดาวเทียม (Sat) แผนที่แสดง Terrain (Ter) และแผนที่ Google Earth (Earth)
ในการเดินทางแต่ละครั้งเราสามารถใช้ Google Maps คำนวณระยะทางเพื่อที่จะทำให้คุณสามารถวางแผนการเดินทางก่อนที่จะออกจากบ้าน โดยคุณสามารถวัดระยะทางระหว่างจุด 2 จุดขึ้นไปบนแผนที่ เช่น คุณสามารถวัดระยะทางเป็นแนวเส้นตรงระหว่างเมือง 2 เมืองได้ ในการคำนวณระยะทางระหว่างจังหวัดสามารถทำได้หลายวิธี
วิธีการวัดระยะทางบน Google Maps หลายๆคนคงเคยใช้แอพพลิเคชั่นนี้กัน ซึ่งสามารถใช้ในการบอกตำแหน่ง ระยะทางที่คุณต้องการที่จะทราบได้อย่างง่ายดาย ระหว่างจากจุดเริ่มต้นไปยังจุดหมายปลายทาง ถ้าหากคุณต้องการทราบถึงระยะทางระหว่างจังหวัดก็สามารถทราบได้อย่างง่ายดาย ผ่านการคำนวณระยะทางระหว่างจังหวัดจาก Google Maps ซึ่งเป็นการบริการเกี่ยวกับแผ่นที่ทั่วโลกผ่านบราวเซอร์ของ Google
สามารถเปิดใช้งานคำนวณหาระยะทางระหว่างจังหวัดหรือจะใช้ในการหาเส้นทางระหว่างต้นทางไปยังจุดหมายปลายทางได้ ทั้งทางเว็บไซด์ผ่านอุปกรณ์อย่าง คอมพิวเตอร์ หรือ iPhone/iPad และสมาร์ทโฟนระบบ Android ของคุณได้อย่างสะดวกสบาย ถือว่าเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งในการหาระยะทาง
Google Maps เหมาะสำหรับผู้ที่จะใช้แผนที่ในการวางแผนเส้นทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เส้นทางไปยังสถานที่ออกกำลังกาย สถานที่ท่องเที่ยว ตลอดจนการเห็นแผนที่ข้อมูลบ้านเมืองต่าง ๆ ด้วย ซึ่งได้ข้อมูลแบบจริงๆ โดยไม่ต้องวัดจากพื้นที่จริง ซึ่งวิธีการวัดระยะทางทำได้ดังนี้
การวัดระยะทาง Google Maps ด้วย iPhone และ iPad
ขั้นตอนที่ 1 : เพิ่มจุดแรก
- เปิดแอพพลิเคชั่น (Application) Google Map แตะที่ใดก็ได้บนแผนที่ค้างไว้ คุณจะเห็นหมุดสีแดงปรากฏขึ้น
- ที่ด้านล่างแตะชื่อสถานที่
- บนหน้าของสถานที่ให้เลื่อนลงแล้วเลือกวัดระยะทาง
ขั้นตอนที่ 2 : เพิ่มจุดถัดไป
- เลื่อนแผนที่จนวงกลมสีดำหรือเส้นกากบาทอยู่ในจุดถัดไปที่คุณต้องการเพิ่ม
- ที่ด้านขวาด้านล่างแตะเพิ่ม +
- เพิ่มจุดจนกว่าจะครบตามต้องการ
ขั้นตอนที่ 3 : ดูระยะทาง
- ที่ด้านล่าง คุณจะเห็นระยะทางรวมเป็นหน่วยไมล์ หรือกิโลเมตร (กม.)
- ไม่บังคับ: หากต้องการนำจุดสุดท้ายที่เพิ่มออก ให้แตะเลิกทำ หากต้องการล้างจุดทั้งหมด ให้แตะเพิ่มเติม จากนั้น ล้างที่มุมขวาบน
- เมื่อเสร็จแล้ว ให้แตะลูกศรกลับที่ด้านซ้ายบน
การวัดระยะทาง Google Maps ด้วย คอมพิวเตอร์
- เปิดโปรแกรม Google Maps ในคอมพิวเตอร์ หากคุณใช้ Maps ในโหมด Lite คุณจะเห็นรูปสายฟ้าที่ด้านล่าง และจะไม่สามารถวัดระยะทางระหว่างจุดต่างๆ ได้
- คลิกขวาที่จุดเริ่มต้น เลือกวัดระยะทาง
- คลิกที่ใดก็ได้บนแผนที่เพื่อสร้างเส้นทางที่ต้องการวัด หากต้องการเพิ่มจุดอื่น ให้คลิกที่ใดก็ได้บนแผนที่
- ไม่บังคับ: ลากจุดหรือเส้นทางเพื่อเคลื่อนย้าย หรือคลิกจุดเพื่อนำออก
- ที่ด้านล่าง คุณจะเห็นระยะทางรวมเป็นหน่วยไมล์ และกิโลเมตร (กม.)
- เมื่อเสร็จแล้ว ในการ์ดที่อยู่ด้านล่าง ให้คลิกปิด
การวัดระยะทาง Google Maps ด้วย Android
ขั้นตอนที่ 1 : เพิ่มจุดแรก
- เปิดแอพพลิเคชั่น (Application) Google Maps
- แตะที่ใดก็ได้บนแผนที่ค้างไว้ คุณจะเห็นหมุดสีแดงปรากฏขึ้น
- ที่ด้านล่าง แตะชื่อสถานที่
- บนหน้าของสถานที่ ให้เลื่อนลงแล้วเลือกวัดระยะทาง
ขั้นตอนที่ 2 : เพิ่มจุดถัดไป
- เลื่อนแผนที่จนวงกลมสีดำหรือเส้นกากบาทอยู่ในจุดถัดไปที่คุณต้องการเพิ่ม
- ที่ด้านขวาล่าง แตะเพิ่ม
- เพิ่มจุดจนกว่าจะครบตามต้องการ
ขั้นตอนที่ 3 : ดูระยะทาง
- ที่ด้านล่าง คุณจะเห็นระยะทางรวมเป็นหน่วยไมล์ หรือกิโลเมตร (กม.)
- ไม่บังคับ: หากต้องการนำจุดสุดท้ายที่เพิ่มออก ให้แตะเลิกทำ หากต้องการล้างจุดทั้งหมด ให้แตะเพิ่มเติม จากนั้น ล้างที่มุมขวาบน
- เมื่อเสร็จแล้ว ให้แตะลูกศรกลับที่ด้านซ้ายบน
และนอกจากการวัดระยะทางแล้ว Google Maps ยังสามารถรู้ถึงสภาพการจราจรบนท้องถนนแบบเรียลไทม์ Real-Time ได้อีกด้วย ซึ่งการที่ Google Maps สามารถวัดระยะทางเพื่อที่จะสามารถคำนวณระยะทางในการเดินทางของคุณได้แล้ว การที่ Google Maps สามารถบอกสภาพการจราจรได้แบบเรียลไทม์ Real-Time ก็จะช่วยคำนวณเวลาในการเดินทางไปยังจุดมุ่งหมายของคุณได้ทันเวลา
นอกจากนี้ Google Maps ยังได้รวบรวมข้อมูลของสภาพการจราจรแล้วเก็บข้อมูลเป็นประวัติไว้ ซึ่งเป็นสิ่งที่จะนำมาใช้เปรียบเทียบได้ว่าสภาพการจราจร ณ เวลาขณะนั้น สามารถใช้ในการเดินทางได้ช้ากว่าหรือเร็วกว่าปกติ และ Google Maps ยังใช้ข้อมูลที่รวบรวมจากแอพพลิเคชั่น (Application) ที่มีชื่อว่า Waze (เวซ) ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่น (Application) ที่อัพเดทข้อมูลการขนส่งจากทั่วประเทศ จากกระทรวงคมนาคม และก็เป็นส่วนที่ทำให้ Google Maps สามารถระบุเหตุการณ์เฉพาะต่างๆได้
จากที่กล่าวมา Google Maps เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้การเดินทางของคุณในปัจจุบันสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นด้วยการวัดระยะทางที่จะสามารถบ่งชี้ให้คุณเห็นว่าจากจุดแรกที่คุณอยู่ไปยังอีกจุดหนึ่งมีระยะทางเท่าใดและจากสภาพการจราจร ณ ขณะนั้นจะต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางเท่าใด Google Maps ได้ทำการคำนวณไว้ให้คุณหมดแล้ว ทำให้การเดินทางครั้งต่อ ๆ ไปของคุณไม่ยุ่งยากอีกต่อไป